In Thailand
กกต.กาฬสินธุ์ติวเข้มความรู้ปชช.เกี่ยวกับ การเลือกสมาชิกวุฒิสภา
กาฬสินธุ์-กกต.กาฬสินธุ์ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดโครงการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน กิจกรรมเผยแพร่ความรู้การดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่บุคคลที่สนใจจะสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาเกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนการดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
วันที่ 12 พฤษภาคม 2567 ที่ห้องประชุมทศพร โรงแรมริมปาว จ.กาฬสินธุ์ นายธนภัทร ณ ระนอง รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนกิจกรรมเผยแพร่ความรู้การดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา โดยมีร้อยตำรวจเอกมนูญ วิเชียรนิต ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำ จ.กาฬสินธุ์ (ผอ.กกต.กาฬสินธุ์) พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์จ.กาฬสินธุ์ นายชาญยุทธ โคตะนนท์ อดีตกกต.กาฬสินธุ์ นายสุรเดช เคราะห์ดี อดีตผู้ตรวจกกต.กาฬสินธุ์ ส่วนราชการ ภาคีเครือข่าย ประชาชน และว่าที่ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา เข้าร่วมประชุมรับฟังการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 ในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก
ร้อยตำรวจเอกมนูญ วิเชียรนิต ผอ.กกต.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำ จ.กาฬสินธุ์ได้จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่บุคคลที่สนใจจะสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาเกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนการดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา และเพื่อให้บุคคลที่สนใจจะสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ทราบและเข้าใจคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร วิธีการแนะนำตัว ข้อห้ามและความผิดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการลดการกระทำความผิดกฎหมาย ซึ่งจะทำให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรมและชอบด้วยกฎหมาย
ด้านนายธนภัทร ณ ระนอง รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า วุฒิสภา เป็นหนึ่งในองค์กรนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นเสาหลักของประชาธิปไตยที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ดังนั้นการเลือกวุฒิสภาจึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เผยแพร่ความรู้ การดำเนินการให้ได้มาชซึ่งสมาชิกวุฒิสภาให้กับบุคคลที่มีความสนใจจะลงสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ได้รับทราบเกี่ยวกับคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามของสมาชิกวุฒิสภา ตลอดจนกระบวนการขั้นตอนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย และเพื่อให้เกิดการรับรู้อย่างแพร่หลายอันจะส่งเสริมให้ประชาชนได้มีความรู้ความเข้าใจ สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในทางการเมืองของประชาชนได้อย่างมีคุณภาพ และร่วมพัฒนาขับเคลื่อนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทยต่อเนื่องสืบไป