In News

​นายกฯขอให้ก.เกษตรฯและอปท.ทุกแห่ง น้อมนำแนวพระราชดำริไปปรับใช้ในพื้นที่



​กรุงเทพฯ-นายกฯ ขอให้กระทรวงเกษตรฯ และ อปท.ทุกแห่ง นำรูปแบบการใช้เทคโนโลยีด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริ ไปปรับใช้ในพื้นที่ ทั้งภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน

วันนี้ (13 พ.ค. 67) เวลา 10.30 น. ณ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมเทคโนโลยีการกำจัดขยะและการบำบัดน้ำเสีย และปลูกป่าชายเลน โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.เกษม จันทร์แก้ว องคมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอนงค์ ผิวนิล เลขานุการโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผู้บริหารเจ้าหน้าที่โครงการฯ และประชาชนมารอให้การต้อนรับ

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะนั่งรถรางเยี่ยมชมโครงการฯ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปโครงการฯ จากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนิศร์ ปัทมพิฑูร ผู้จัดการฝ่ายบริการวิชาการ  

ระหว่างเยี่ยมชมโครงการฯ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยในวันนี้ได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งดำเนินงานเพื่อศึกษาและพัฒนาสิ่งแวดล้อม ให้ชุมชนสามารถแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยหลักการธรรมชาติช่วยธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน คือการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีต่าง ๆ ได้แก่ (1) บ่อบำบัดน้ำเสีย (2) พืชและหญ้ากรองน้ำเสีย (3) บำบัดน้ำเสียด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำเทียม และ (4) บำบัดน้ำเสียด้วยแปลงพืชป่าชายเลน และได้ร่วมกิจกรรมปลูกพืชป่าชายเลนเพื่อบำบัดน้ำเสีย  โดยนายกฯ กล่าวชื่นชมเทศบาลเมืองเพชรบุรีที่ได้มีการนำน้ำเสียในพื้นที่กว่า 90% มาบำบัด ที่โครงการแหลมผักเบี้ย ซึ่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำเสียอย่างยั่งยืน 

นายกฯ ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งอื่นในจังหวัดเพชรบุรี รวบรวมน้ำเสียในพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบมาบำบัดที่โครงการแหลมผักเบี้ย เพื่อให้กระบวนการบำบัดน้ำเสียของโครงการแหลมผักเบี้ยสามารถดำเนินงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ นำรูปแบบการใช้เทคโนโลยีด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริ ไปปรับใช้กับภารกิจที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงาน เพื่อลดต้นทุนในการบริหารจัดการน้ำเสียทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและครัวเรือน ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ทรงมีพระราชดำริเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2533 ให้มูลนิธิชัยพัฒนา สำนักงาน กปร. กรมชลประทาน และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกันศึกษาวิธีแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับขยะมูลฝอยและน้ำเสียในชุมชน ซึ่งมีผลต่อการรักษาสภาพป่าชายเลน ด้วยวิธีการทางธรรมชาติและรักษาธรรมชาติ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เริ่มดำเนินงานศึกษาวิจัยตามโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะร่วมกับประชาชนปลูกต้นโกงกางใบใหญ่ในบริเวณโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โอกาสนี้  ดร.เกษม จันทร์แก้ว องคมนตรี ได้สอบถาม นายกฯ ว่าเหนื่อยไหม เห็นนายกฯ ปฏิบัติภารกิจตรวจราชการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวขอบคุณนายกฯ ที่ใช้เวลามาดูงาน ณ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ