In Bangkok
สนย.เล็งถอนใบอนุญาตสร้างตีกแอชตัน
กรุงเทพฯ-สำนักการโยธา กทม.เตรียมใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารแอชตัน อโศก
นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวกรณีศาลปกครองเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารแอชตัน อโศก เขตวัฒนาว่า ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ.2535) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 50 (พ.ศ.2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ข้อ 2 กำหนดว่าที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งของอาคารสูง หรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษที่มีพื้นที่อาคารรวมกันทุกชั้นมากกว่า 30,000 ตารางเมตร ต้องมีด้านใดด้านหนึ่งของที่ดินนั้น ยาวไม่น้อยกว่า 12.00 เมตร ติดถนนสาธารณะที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18.00 เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18.00 เมตร และที่ดินด้านที่ติดถนนสาธารณะดังกล่าว จะต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 12.00 เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนถึงบริเวณที่ตั้งของอาคาร และที่ดินนั้นต้องว่าง เพื่อใช้เป็นทางเข้าออกรถดับเพลิงได้โดยสะดวก ดังนั้น หากที่ดินที่จะใช้เป็นที่ตั้งของอาคารสูง หรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ แม้จะไม่ได้อยู่ติดถนนสาธารณะก็ตาม แต่หากมีที่ดินแปลงอื่นที่สามารถใช้เป็นทางเข้าออกสู่ถนนสาธารณะ สำหรับอาคารสูง หรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษนั้นได้ตลอดตราบที่อาคารสูง หรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษตั้งอยู่และรถดับเพลิงสามารถเข้าออกได้สะดวกจะเป็นไปตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ.2535) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 50 (พ.ศ. 2540) ข้อ 2 โดยที่ดินส่วนที่ใช้เป็นทางเข้าออก ซึ่งเป็นที่ดินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีความกว้าง 13.00 ม. (ไม่น้อยกว่า 12.00 ม.) ยาวตลอดถึงที่ตั้งอาคารและถนนอโศกมนตรี มีความกว้าง 27.70-30.00 เมตร (ไม่น้อยกว่า 18.00 เมตร) ยาวต่อเนื่องกันเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท ซึ่งมีความกว้าง 30.00 เมตร ได้เกณฑ์ตามกฎกระทรวง ภายหลังศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร โครงการอาคารชุดดังกล่าว โดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ออกหนังสือทุกฉบับ จากกรณีคำพิพากษาศาลปกครองกลางคดีดังกล่าว เมื่อปรากฏแล้วว่า คดียังไม่ถึงที่สุด สำนักการโยธาจะพิจารณาดำเนินการใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
นางสาวสุชิรา ศิลานนท์ ผู้อำนวยการเขตวัฒนา กทม. กล่าวว่า ภายหลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งเพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร โครงการอาคารชุดดังกล่าว โดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ออกหนังสือทุกฉบับ เมื่อปรากฏแล้วว่าคดียังไม่ถึงที่สุด สำนักงานเขตวัฒนาจะพิจารณาดำเนินการใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ต่อไป