In Bangkok

รมช.พาณิชย์ติดตามนโยบายประกันรายได้สินค้าเกษตรเลย-หนองคายพร้อมเดินหน้าต่อ ปี ๓



เลย -เมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๔ นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะเดินทางมาติดตามการดำเนินนโยบายประกันรายได้ค้าเกษตร ที่โรงยิมฯศูนย์เยาวชนเทศบาลเมืองเลย  จ.เลย  โดยมีนายชัยธวัช  เนียมศิริ  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกรให้การต้อนรับ

นายสินิตย์กล่าวว่า  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษภ์) ยังมอบหมายให้มาติดตามนโยบาย ประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งนโยบายประกันรายได้นี้ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่งคง จากการจําหน่ายผลผลิต หากราคาตลาดต่ากว่าราคาเป้าหมายที่กาหนดไว้ เกษตรกรก็จะได้รับ รายได้ ๒ ทาง คือ ราคาที่ได้จากการจาหน่ายผลผลิต และรายได้ที่มาจากส่วนต่างระหว่างราคาที่จำหน่ายกับราคาเป้าหมายที่รัฐบาลประกาศ

นายสินิตย์กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ดําเนินการมาเป็นปีที่ ๒ แล้ว มีเกษตรกรมีสิทธิเข้าร่วม โครงการ รวมกว่า ๗.๕๕ ล้านครัวเรือน มีวงเงินรวม ๗๕,๑๖๖.๗๐ ล้านบาท มีการโอนเงินให้ เกษตรกรแล้วกว่า ๖.๔๕ ล้านครัวเรือน รวมเป็นเงิน ๖๐,๐๕๖.๗๖ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๗๙.๙๐ ของเป้าหมาย) ซึ่งในปีที่ ๒ ข้าว ปาล์มน้ํามัน และยางพารา สิ้นสุดการดําเนินการแล้ว ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสําปะหลัง จะสิ้นสุดในเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน ๒๕๖๔ ตามลําดับ

สําหรับโครงการประกันรายได้ในปี ๓ ปีการผลิต ๒๕๖๔/๖๕) นี้ คณะกรรมการนโยบาย สินค้าเกษตรพืช ๔ ชนิด ได้แก่ ข้าว มันสําปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และยางพารา ได้เห็นชอบ หลักการโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตรและมาตรการคู่ขนาน ปี ๒๕๑๔/๑๕ ในเบื้องต้นแล้ว และอยู่ระหว่างการนําเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว ในส่วนของปาล์มน้ำนั้น อยู่ระหว่าง การนําเสนอคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) พิจารณาเห็นชอบ ก่อนนําเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

โดยกําหนดราคาประกันสินค้าเกษตรเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ๑๕,๐๐๐ บาท/ตัน (ปริมาณครัวเรือนละ ๑๔ ตัน) ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ๑๔,๐๐๐ บาท/ตัน (ปริมาณครัวเรือนละ ๑๖ ตัน) ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ๑๑,๐๐๐ บาท/ตัน (ปริมาณครัวเรือนละ ๒๕ ตัน) ข้าวเปลือกเจ้า ๑๐,๐๐๐ บาท/ตัน (ปริมาณครัวเรือนละ ๓๐ ตัน) ข้าวเปลือกเหนียว ๑๒,๐๐๐ บาท/ตัน (ปริมาณครัวเรือนละ ๑๖ ตัน) มันสําปะหลัง กําหนด ราคาประกัน ๒.๕๐ บาท/กก. ไม่เกิน ๑๐๐ ตัน/ครัวเรือน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กําหนดราคา ประกัน ๔.๕๐ บาท/กก. ไม่เกิน ๓๐ ไร่/ครัวเรือน ปาล์มน้ํามัน กําหนดราคาประกัน ๔.00 บา/กก. ไม่เกิน ๒๕ ไร่/ครัวเรือน อายุ ๓ ปีขึ้นไป และยางพารา กําหนดราคาประกัน (ไม่เกิน ๒๕ ไร่ อายุ ๗ ปีขึ้นไป) สําหรับยางดิบ (ปริมาณ ๒๐ กก./ไร่/เดือน) 50 บาท/กก. น้ํายางสด (DRC ๑๐๐%) (ปริมาณ ๒๐ กก./ไร่/เดือน) ๕๗ บาท/กก. และยางก้อนถ้วย (DRC ๕๐%) (ปริมาณ ๔๐ กก/ไร่/เดือน) ๒๓ บาท/กก.

นอกจากนี้ ยังได้กําหนดดําเนินมาตรการคู่ขนานควบคู่ไปกับโครงการประกันราย เพื่อให้มีการซื้อผลผลิตเก็บในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากไม่ให้ราคาตลาดตก ซึ่งจะช่วยรัฐบาล ประหยัดค่าใช้จ่ายในการประกันรายได้ อาทิ ให้เกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง ได้รับค่าฝากเก็บ ตันละ ๑,๕๐๐ บาท ให้สหกรณ์และผู้ประกอบการ (ข้าว มันสําปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์) เร่งรับซื้อ เก็บสตอกโดยช่วยเหลือดอกเบี้ย 0% เป็นต้น และสําหรับโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ยังคงหลักการเดิมเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยการสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้เกษตรกรไร่ละ 9,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน ๒๐ ไร่ ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างกระทรวงการคลังพิจารณาการใช้เงินตามระเบียบก่อนนําเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป.

ภัทราวุธ บุญประเสริฐ จ.เลย