In News
กยท.เปิดโครงการชลอขายยางยกระดับมาตรฐานการขายยางช่วยเกษตรกร

ชัยภูมิ - ผอ.การยางแห่งประเทศไทย(กยท.) จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากที่ กยท. ได้ดำเนินโครงการชะลอการขายยางของสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเขตภาคเหนือได้ส่งผลให้ราคายางก้อนถ้วยมีเสถียรภาพ เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยพบว่ามีผลต่างของราคาที่ดีขึ้น
โครงการชะลอการขายยางฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อชะลอปริมาณผลผลิตยางพาราออกสู่ตลาด รวมถึงเพื่อให้สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง มีสภาพคล่องทางการเงินในระหว่างรอขายผลผลิต อีกทั้งช่วยลดความเสี่ยงจากการผันผวนของราคายางให้มีเสถียรภาพมากขึ้น และที่สำคัญอีกประการ เป็นการยกระดับราคาซื้อขายยางในตลาด และเกิดการแข่งขันที่เป็นไปตามกลไกตลาด โดยเป้าหมายให้สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทยรับหน้าที่บริหารจัดการยางของสมาชิก มีสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่เข้าร่วมโครงการรวม 79 สถาบัน จำนวนสมาชิก 45,800 ราย ซึ่งชนิดยางที่เข้าร่วม ได้แก่ ยางก้อนถ้วย และน้ำยางสด เป้าหมายของ ระยะนี้ที่ 20,300 ตัน โดยจะใช้งบประมาณจากกองทุนพัฒนา 49(3) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการเสริมสภาพคล่องให้กับสถาบันเกษตรกร รวมทั้งสิ้น 276.066 ล้านบาท”
นายสงกรานต์ จุมพล กล่าวต่อไปว่า สำหรับขั้นตอนดำเนินการนั้น สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่เข้าร่วมโครงการฯจะได้รับสินเชื่อวงเงิน 80% ของมูลค่ายาง และได้รับค่าบริหารโครงการ 0.50 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่การกำหนดราคากลางสำหรับประเมินสินเชื่อ กยท.จะใช้ราเฉลี่ยย้อนหลัง 15 วัน ของราคากลางเปิดตลาดของยางชนิดนั้น ๆ ในส่วนของยางที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องขายผ่านตลาดกลางยางพารา หรือตลาดเครือข่ายตลาดกลางยางพาราจังหวัด ของ กยท. เท่านั้น
ส่วนการส่งใช้เงินคืน สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ต้องส่งใช้เงินคืนในวงเงินที่ได้รับอนุมัติเต็มจำนวน โดยไม่เสียดอกเบี้ยใน 3 เดือนแรก แต่หากสถาบันเกษตรกรไม่ขายยางเป็นเวลาติดต่อกันตามที่กำหนด จะมีการคิดอัตราดอกเบี้ยตามระเบียบ สูงสุดไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปี ของมูลค่ายางที่ขอสินเชื่อโดยไม่ขาย
นายสงกรานต์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพยาง และการจัดเก็บ ทาง กยท.จึงกำหนดมาตรการจัดเก็บแยกตามชนิดยางคือ ยางก้อนถ้วย ค่า DRC 75% ระยะเวลาเก็บไม่น้อยกว่า 1 เดือน โดยจะจัดเก็บไว้ที่สถาบันเกษตรกรให้อยู่ในสภาพดีในสถานที่ที่เหมาะกับการจัดเก็บยาง เช่น ทำนั่งร้านในสวน หรือโกดังจัดเก็บ ส่วนของน้ำยางสด DRC 100% ซึ่งต้องเก็บได้ไม่น้อยกว่า 10 วัน โดยไม่เสียคุณภาพในแท็งค์ที่ได้มาตรฐานที่ กยท. กำหนด
กยท.เชื่อมั่นว่า โครงการชะลอการขายยางของสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ระยะ 2 สร้างประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่า ด้านการยกระดับความสามารถในการบริหารจัดการผลผลิตของสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงการยกระดับราคายางก้อนถ้วยแห้ง เพิ่มมูลค่า สร้างความมั่นคงเรื่องรายได้ ในขณะที่ผู้ประกอบการจะได้ยางที่มีคุณภาพที่ดี และที่สำคัญคือ ช่วยลดปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมและลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนจากการเคลื่อนย้ายยางก้อนถ้วยดั่งที่ปรากฏมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานบันเกษตรกรหรือเกษตรกรที่สนใจสามารถติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดในพื้นที่ทุกแห่ง
นายตระกูล บุญบำรุง ประธานสหกรณ์ชาวสวนยางจังหวัดชัยภูมิ ยอมรับว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่เกษตรกร ให้ความสนใจเป็นอย่างมากและตนมั่นใจว่าโครงการนี้ จะสามารถช่วยยกระดับสินค้าของเกษตรกร ให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ราคายางเริ่มขยับราคาสูงขึ้นแล้ว ชัยภูมิถือว่าเป็นอีกจังหวัดหนึ่ง ที่มีการปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ปลูกในพื้นที่ที่มีโฉนด และไม่มีเอกสารสิทธิ์ โดยกลุ่มสมาชิกส่วนใหญ่มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการนี้