In Bangkok
กทม.หารือแนวทางเปิดภาคเรียนแบบ On-Site ป.4-6-การฉีดวัคซีน

กรุงเทพฯ-รองปลัดกทม.ประชุมหารือแนวทางเปิดภาคเรียนแบบ On-Site ป. 4-6 และการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
(22 ธ.ค.64) นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมร่วมกับสำนักการศึกษาและสำนักอนามัย เพื่อหารือแนวทางการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนแบบ On-Site ของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ที่จัดการเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ภาคเรียนที่ 2/2564 และการฉีดวัคซีนของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา โดยมี นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการศึกษา สำนักอนามัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 15 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง
ในที่ประชุมได้หารือแนวทางการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียนแบบ On-Site ของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ที่จัดการเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ภาคเรียนที่ 2/2564 โดยกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) การปรับพฤติกรรมสุขภาพให้ถูกต้องเหมาะสมกับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) การปฏิบัติตามข้อกำหนด 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) รวมถึง 7 มาตรการเข้ม สำหรับสถานศึกษา ดังนี้ 1.สถานศึกษาประเมินความพร้อมเปิดเรียนผ่าน TSC+ และรายงานการติดตามการประเมินผลผ่าน MOECOVID 2.ทำกิจกรรมร่วมกันในรูปแบบ Small Bubble จัดนักเรียนเว้นระยะห่างในห้องเรียนหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมข้ามกลุ่มกัน 3.จัดระบบการให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ 4.จัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน 5.จัดให้มี School Isolation แผนเผชิญเหตุ และมีข้อซักซ้อมอย่างเคร่งครัด 6.ควบคุมดูแลการเดินทางเข้าและออกจากสถานศึกษา (Seal Route) ทั้งกรณีรถรับ - ส่ง นักเรียน รถส่วนบุคคล และรถโดยสารสาธารณะ และ 7.จัดให้มี School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา
ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ให้สำนักอนามัยดำเนินการตามแนวทางที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติขยายขอบเขตข้อบ่งใช้ของวัคซีน สำหรับกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี จากเดิมที่ให้มีการฉีดได้ในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปเท่านั้น โดยการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) แก่เด็กอายุ 5-11 ปี ฉีดเข้าทางกล้ามเนื้อและลดปริมาณวัคซีนลงเหลือ 10 ไมโครกรัม หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนที่ฉีดในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยเว้นระยะห่าง 21 วัน จากเข็มที่ 1 เพื่อฉีดเข็มที่ 2 ซึ่งการฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี จะต้องเป็นไปตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครองต้องให้การยินยอม