In Bangkok

กทม.เดินหน้าเร่งฉีดวัคซีนโควิด19เชิงรุก เข็มกระตุ้นขยายจุดฉีดนอกรพ.



กรุงเทพฯ-กทม.เร่งฉีดวัคซีนโควิด 19 เชิงรุก เข็มกระตุ้น ขยายจุดฉีดนอกโรงพยาบาล โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป

นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวถึงมาตรการเชิงรุกในการให้บริการวัคซีนโควิด 19 เข็มที่ 3 (เข็มกระตุ้น) โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด 19 ว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการแพทย์ เดินหน้าฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งเร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นทุกสูตรวัคซีน สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโดยเฉพาะกลุ่ม 608 ขอให้เร่งเข้ารับบริการวัคซีน เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังได้จัดส่งทีมแพทย์เคลื่อนที่ลงชุมชน เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 กับกลุ่มผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมายังจุดบริการวัคซีนและกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง รวมทั้งเน้นย้ำแนวทางปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 ของสมาชิกในครอบครัว ทั้งผู้ดูแล หรือผู้ที่ต้องใกล้ชิดผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค กลุ่มเปราะบาง หญิงตั้งครรภ์ ให้ปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดคลัสเตอร์ใหม่และการติดเชื้อโควิด 19 ทุกสายพันธุ์ พร้อมแนะนำให้ตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ทุกสัปดาห์ หากพบผู้ติดเชื้อให้แยกผู้ติดเชื้อ และแจ้งสายด่วน 1330 เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษา สำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนในกรุงเทพฯ ทั้งในและนอกโรงพยาบาลที่กรุงเทพมหานครดูแลรับผิดชอบ ขณะนี้มีหลายแห่งที่เปิดให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 (เข็มกระตุ้น) เช่น อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง หรือโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 11 แห่ง ซึ่งในอนาคตอยู่ระหว่างการเพิ่มจุดให้บริการวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมเข้าถึงประชาชนและอำนวยความสะดวกในการเข้ารับบริการวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น ให้มากที่สุด อีกทั้งเพิ่มความสะดวกในการลงทะเบียนขอรับวัคซีนโควิด 19 ผ่านแอปพลิเคชัน QueQ โดยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรุงเทพมหานคร

นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า สำนักอนามัย ได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้ารับบริการวัคซีนป้องกันโควิด 19 โดยจัดหน่วยบริการ ประกอบด้วย (1) ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. 69 แห่ง (2) โรงพยาบาลสังกัด กทม. 11 แห่ง (3) ศูนย์ฉีดวัคซีน อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย - ญี่ปุ่น) ดินแดง และจัดหน่วยเชิงรุก ประกอบด้วย (1) Bangkok Mobile Vaccine ร่วมกับโรงพยาบาลศุขเวช (BMV) (2) ทีมป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด 19 เชิงรุกในชุมชน (Bangkok Comprehensive COVID-19 Response Team : CCRT) โดยศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง เข้าฉีดวัคซีนให้ที่บ้าน (3) หน่วยเชิงรุกกลุ่มเปราะบาง เข้าฉีดวัคซีนให้ที่บ้านในกลุ่มติดบ้านติดเตียง และลงฉีดที่สถานดูแลผู้สูงอายุ ร่วมกับสมาคมสมาพันธ์ผู้สูงอายุและสถานพยาบาล Nursing home ทั้งนี้ ได้แจ้งประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มที่ 2 ครบกำหนด ให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นที่จุดฉีดวัคซีนของ กทม. ทั้งในและนอกโรงพยาบาล และแจ้งระบบลงทะเบียนนัดหมายเข้ารับบริการฉีดวัคซีน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเข้ารับบริการวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยโรงพยาบาลที่ร่วมให้บริการวัคซีนมี 129 แห่ง ศักยภาพการฉีดโดยรวม 67,375 คน/วัน

นอกจากนี้ ยังได้ขยายจุดฉีดวัคซีนนอกสถานพยาบาล โดยจุดฉีดที่ร่วมกับ กทม. และเปิดให้บริการแล้ว ได้แก่ Thai PBS ร่วมกับโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จองผ่าน QueQ และ Group Vaccination วันละ 500 คน Central World ร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ Platform วงเวียนใหญ่ ร่วมกับโรงพยาบาลตากสิน ส่วนจุดฉีดนอกสถานพยาบาลที่ร่วมดำเนินการโดยการมีส่วนร่วมจากภาคีเครือข่ายอื่น ๆ เช่น กรมการแพทย์ สถานีกลางบางซื่อ ร่วมกับสถาบันโรคผิวหนัง จองผ่านระบบเครือข่ายมือถือ ซึ่งสามารถรองรับผู้รับบริการได้ 15,000 - 25,000 คน/วัน ศูนย์ฉีดวัคซีนบางรัก และหน่วยฉีดห้างแฟชั่น ไอส์แลนด์ ร่วมกับโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ทั้งนี้ ได้รณรงค์ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและสร้างความตระหนักให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะกลุ่ม 608 เข้ารับบริการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ตามแนวทางและข้อแนะนำที่คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) สธ. และ ศบค.กำหนด เพื่อความปลอดภัยจากโรคโควิด 19 รวมทั้งร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าถึงระบบการจองวัคซีนและเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 อย่างทั่วถึง