In Bangkok
กทม.เผยบ้านริมคลองเปรมฯยอมรื้อ1หลัง พร้อมเดินหน้าฟื้นฟูคลองต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ-รองปลัดกทม.เผยบ้านริมคลองเปรมฯ ยอมรื้อย้ายเพิ่มอีก 1 หลัง พร้อมเดินหน้าฟื้นฟูคลองต่อเนื่อง
(27 ม.ค.65) นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค.65 กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุม (พอช.) ลงพื้นที่เจรจาสร้างความเข้าใจกับผู้รุกล้ำคลองเปรมประชากร บริเวณฝั่งตรงข้ามตรงข้ามชุมชนประชาร่วมใจ 1 เขตจตุจักร (ครั้งที่ 4) ซึ่งยังเหลือบ้านรุกล้ำที่ยังไม่ยินยอมรื้อย้ายจำนวน 1 หลัง โดยขณะนี้เจ้าของบ้านยินยอมเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงกับ พอช. และจะรื้อย้ายบ้านเพื่อให้สำนักการระบายน้ำ ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนในวันที่ 15 ก.พ.65
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครโดยสำนักการระบายน้ำดำเนินโครงการพัฒนาคลองเปรมประชากรตามแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลองและการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ พัฒนาด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและบำบัดน้ำเสีย โดยโครงการมีการออกแบบวางผังพื้นที่ริมคลองให้มีความสอดคล้องกันทั้ง 6 องค์ประกอบสำคัญในการพัฒนา ได้แก่ การพัฒนาที่อยู่อาศัย การพัฒนาด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ การจัดระบบสาธารณูปโภคและผังเมือง การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชุมชน พัฒนาจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะและแผนพัฒนาการท่องเที่ยวในชุมชน โครงการพัฒนาคลองเปรมประชากร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 จากคลองบ้านใหม่ถึงหมู่บ้านแกรนด์คาแนล ความยาวประมาณ 580 เมตร (ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2562) ช่วงที่ 2 จากหมู่บ้านแกรนด์คาแนลถึงถนนสรงประภา ความยาวประมาณ 5,000 เมตร (ระยะเวลาก่อสร้าง 18 เดือน ดำเนินการปี 2564-2565) ช่วงที่ 3 จากถนนสรงประภาถึงถนนแจ้งวัฒนะ ความยาวประมาณ 10,000 เมตร (ระยะเวลาก่อสร้าง 24 เดือน ดำเนินการปี 2564-2566) และช่วงที่ 4 จากถนนแจ้งวัฒนะถึงถนนเทศบาลสงเคราะห์ ความยาวประมาณ 10,700 เมตร (ระยะเวลาก่อสร้าง 26 เดือน ดำเนินการปี 2563-2565)
หากการก่อสร้างแล้วเสร็จตลอดแนวคลองเปรมประชากร จะช่วยเพิ่มความลึกและความจุปริมาณน้ำในคลองมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการการสัญจรทางน้ำและการระบายน้ำในคลอง ช่วยให้สามารถป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ได้ทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำพร้อมติดตามการทำงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสำนักงานเขตในพื้นที่จะเร่งสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนในชุมชนให้เห็นความสำคัญของส่วนรวมและประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการต่อไป