In Bangkok
ปลัดกทม.ปลูกต้นไม้ที่ระลึกฮังการี-ไทย เนื่องในโอกาสวันชาติฮังการี15มี.ค.
กรงเทพฯ-ปลัดกทม.ร่วมพิธีปลูกต้นไม้ที่ระลึกฮังการี-ไทย เนื่องในโอกาสวันชาติฮังการี 15 มี.ค.
(18 มี.ค. 65) เวลา 16.30 น. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.ซานดอร์ ซิโพซ เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย ร่วมพิธีปลูกต้นไม้ที่ระลึกฮังการี-ไทย โดยความร่วมมือของสถานเอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร เนื่องในโอกาสวันชาติฮังการี (15 มีนาคม 2565) ณ อุทยานเบญจสิริ ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย โดยมี ชุมชนชาวฮังการีในประเทศไทย ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตฮังการีกรุงเทพมหานคร กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และผู้เกี่ยวข้องร่วมพิธี
ทั้งนี้ ประเทศไทยและฮังการีมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดแบบฉันมิตรมาอย่างยาวนานนับจากการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 ซึ่งจะครบรอบ 50 ปี ในปี พ.ศ. 2566 โดยความสัมพันธ์ดังกล่าวมีการขยายตัวผ่านความร่วมมือที่หลากหลาย อาทิ เศรษฐกิจ การลงทุน การศึกษา การท่องเที่ยว ฯลฯ นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้มีการสถาปนาความสัมพันธ์กับกรุงบูดาเปสต์ โดยลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (Cooperation Agreement) เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2540 และมีการแลกเปลี่ยนกันในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ 1. บริหารเมือง 2. วัฒนธรรม 3. การศึกษา 4. การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม 5. ผังเมือง 6. การขนส่ง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างกรุงเทพมหานครและกรุงบูดาเปสต์เป็นไปด้วยดีมาโดยตลอด ตั้งแต่ลงนามสถาปนาฯ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า พิธีปลูกต้นไม้ที่ระลึกฮังการี-ไทยในวันนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยความร่วมมือของสถานเอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร เนื่องในโอกาสวันชาติฮังการี (15 มีนาคม 2565) โดยปลูกต้นกันเกรา (Anan Tree) จำนวน 1 ต้น ณ อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย ซึ่งนับเป็นโอกาสครั้งประวัติศาสตร์สำหรับความสัมพันธ์ทางการทูต และเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองฝ่ายทั้งในระดับประเทศและระดับเมืองในฐานะเมืองพี่เมืองน้องของกรุงบูดาเปสต์ นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนโครงการของกรุงเทพมหานครเกี่ยวกับ “Green Bangkok 2030” ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ได้ 10 ตารางเมตรต่อคน เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน เป็นปอดของคนเมืองหลวง และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งในปัจจุบันและในอนาคตด้วย