In Bangkok
กทม.ขานรับนโยบายรัฐลดใช้พลังงาน ในหน่วยงานกทม.ตั้งแต่เม.ย.-ก.ย.2565

กรุงเทพฯ-ปลัดกทม. ร่วมมือลดใช้พลังงานในหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน เม.ย.- ก.ย. 65 พร้อมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการลดการใช้พลังงานของหน่วยงานในสังกัด กทม. เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด
(24 มี.ค. 65) นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการตามแนวทางประหยัดพลังงานในหน่วยงานรัฐ ที่กำหนดให้หน่วยงานราชการดำเนินการลดการใช้พลังงานร้อยละ 20 ช่วงครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตั้งแต่เดือน เม.ย.- ก.ย. 65 พร้อมทั้งจัดทำแผนปฏิบัติการลดการใช้พลังงานของหน่วยงานในสังกัด กทม. เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนด ทั้งนี้ สำนักงานเลขานุการปลัดกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการจัดการพลังงานในอาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานครตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดการพลังงานในโรงงานควบคุมและอาคารควบคุม พ.ศ. 2552 ซึ่งได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานด้านการจัดการพลังงานเพื่อให้การดำเนินการจัดการพลังงานให้สอดคล้องกับนโยบายอนุรักษ์พลังงานภายในอาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และได้กำหนดมาตรการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ในพื้นที่ห้องทำงานของสำนักงาน พื้นที่ส่วนกลาง ด้านแสงสว่าง ด้านการปรับอากาศ ด้านเครื่องใช้สำนักงานและเครื่องไฟฟ้า ห้องประชุม ลิฟต์โดยสาร เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการใช้พลังงานไฟฟ้าของอาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ. 2565 ให้ลดลงกว่าปี พ.ศ. 2564 โดยขอร่วมมือหน่วยงาน/ส่วนราชการภายในอาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดำเนินการตามมาตรการประหยัดพลังงาน
ผลการดำเนินการตามมาตรการประหยัดพลังงานไฟฟ้าของอาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ตามสถิติย้อนหลัง 5 ปี (ปี พ.ศ. 2560- 2564) ดังนี้ ปี 2560 ลดลงกว่าปี 2559 ร้อยละ 6.02 ปี 2561 ลดลงกว่าปี 2560 ร้อยละ 1.25 ปี 2562 ลดลงกว่าปี 2561 ร้อยละ 1.85 ปี 2563 ลดลงกว่าปี 2562 ร้อยละ 16.93 และปี 2564 ลดลงกว่าปี 2563 ร้อยละ 3.34 ซึ่ง หากเปรียบเทียบปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าในปี พ.ศ. 2564 กับ ปี พ.ศ. 2563 มีการใช้พลังงานไฟฟ้า ในปี พ.ศ. 2564 ลดลงกว่า ปี พ.ศ. 2563 จำนวน 145,921 หน่วย หรือร้อยละ 3.34 และหากเปรียบเทียบปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าในปี พ.ศ. 2564 กับ ปี พ.ศ. 2562 มีการใช้พลังงานไฟฟ้า ในปี พ.ศ. 2564 ลดลงกว่า ปี พ.ศ. 2563 จำนวน 1,035,524 หน่วย หรือร้อยละ 19.72 เนื่องจากหน่วยงานและส่วนราชการในสังกัดสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร ที่ปฏิบัติงานภายในศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ร่วมรณรงค์การประหยัดพลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปี พ.ศ. 2563- 2564 มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งมีการ Work Form Home และมีการลดใช้ห้องประชุมส่วนกลาง
ในส่วนของสำนักสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินมาตรการลดใช้พลังงานของหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานครมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2561 โดยได้จัดทำมาตรการลดใช้พลังงานเพื่อให้หน่วยงานในสังกัดถือปฏิบัติ ซึ่งมีมาตรการและแนวทางที่สำคัญในการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า ได้แก่ การแต่งตั้งคณะทำงานลดการใช้ไฟฟ้าในหน่วยงานการจัดทำแผนปฏิบัติการลดการใช้ไฟฟ้าพร้อมรายงานผล ดำเนินการสำรวจอุปกรณ์สำนักงานที่ใช้ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอโดยให้มีการปรับเปลี่ยนหากมีสภาพชำรุดเสียหาย ในส่วนของมาตรการและแนวทางลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงมีมาตรการที่สำคัญ คือ กำชับให้ส่วนราชการตรวจบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้มีสภาพดี มีการตรวจควันดำของรถราชการ ส่งเสริมการเดินทางแบบทางเดียวกันไปด้วยกันใช้รถคันเดียวกันทั้งการรับ-ส่งเอกสาร การเดินทางมาปฏิบัติงาน และรณรงค์ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเมื่อจอดรถ นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าทดแทนรถราชการที่จำหน่ายหรือยุบสภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาโลกร้อนและฝุ่นละออง pm2.5 อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในภาพรวมแก่ประชาชน ในส่วนของการใช้พลังงานของหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ในปี 2564 พบว่า มีค่าปริมาณการใช้ไฟฟ้า จำนวน 180,463,486 Kwh น้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 36,122,341 ลิตร แก๊สโซฮอล์ จำนวน 377,993 ลิตร และก๊าซธรรมชาติ 318 กิโลกรัม และเมื่อเทียบกับการใช้พลังงานในปี 2560 (ปีฐาน) พบว่า การใช้พลังงานทั้ง 4 ประเภท มีค่าลดลง ร้อยละ 33.73 , 13 , 44.5 และ 99 ตามลำดับ
สำหรับมาตรการส่งเสริมทุกภาคส่วนที่สำคัญ คือ การรณรงค์ปิดไฟเพื่อลดภาวะโลกร้อน หรือ Earth Hour และลดก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์จากจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ในการร่วมปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น เป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกและนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าและพลังงานอย่างรู้คุณค่า โดยเมื่อปี 2564 กรุงเทพมหานครได้เชิญชวนภาคีเครือข่าย จำนวน 25 หน่วยงาน ร่วมแสดงเจตจำนงค์ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมด้านการลดก๊าซเรือนกระจกใน 4 ด้าน ประกอบด้วย การขนส่ง ด้านพลังงาน ด้านพื้นที่สีเขียว และด้านการจัดการขยะ เพื่อช่วยกันลดก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน โดยพบว่า สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ทั้งสิ้น 23,828.70 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) และในปี 2565 กรุงเทพมหานครยังคงสานต่อการดำเนินการ 4 ด้านดังกล่าว โดยกำหนดจัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2022)” ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 ณ บริเวณสกายวอล์คช่องนนทรี เขตสาทร โดยได้รณรงค์และเชิญชวนให้ประชาชน บริษัท ห้างร้าน ผู้ประกอบการ และร้านค้า ลดการใช้พลังงานและปิดไฟที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟประดับ ไฟอาคาร ป้ายโฆษณา การถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งานลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ในอาคารบ้านเรือน เป็นเวลา 1 ชั่วโมง พร้อมกับเมืองต่าง ๆ กว่า 190 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่เวลา 20.30 – 21.30 น. พร้อมเชิญชวนร่วมแชร์การมีส่วนร่วมในกิจกรรม ด้วยการติดแฮชแท็ก คำว่า #EarthHour #Connect2Earth #ShapeOurFuture #อนาคตเราสร้างได้ เพื่อเป็นการแสดงพลังให้รับรู้ถึงความตั้งใจของประเทศไทยในการช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง