In Bangkok
กทม.รณรงค์ป้องกันติดเชื้อร่วมกลุ่มเสี่ยง เร่งฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่-วัคซีนโควิด

กรุงเทพฯ-สำนักอนามัยและสำนักการแพทย์ กทม.รณรงค์ประชาชนกลุ่มเสี่ยงรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิด 19 ป้องกันการติดเชื้อร่วม
นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวกรณีแพทย์แนะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่พร้อมวัคซีนโควิด 19 ลดเสี่ยงติดเชื้อร่วมและอาการเจ็บป่วยรุนแรงว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย ได้รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ปี 2565 ระหว่างวันที่ 1 พ.ค. - 31 ส.ค.65 โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย 7 กลุ่มเสี่ยง คือ (1) หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป (2) เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี (3) ผู้ป่วยโรคเรื้อรังทุกกลุ่มอายุ คือ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งได้รับยาเคมีบำบัด และเบาหวาน (4) ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป (5) ผู้พิการทางสมองช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ (6) โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ และ (7) โรคอ้วน คือ ผู้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัม/ตารางเมตร เข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อป้องกันการเกิดโรคปอดบวม ทั้งยังช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยลงได้ ทั้งนี้ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ รวมทั้งติดประกาศที่ศูนย์บริการสาธารณสุข และในชุมชน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในการรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิด 19 สามารถฉีดพร้อมกันได้ โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป เพื่อลดความรุนแรงโรคและลดการเสียชีวิต เนื่องจากหากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ร่วมกับโควิด 19 จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้นและปอดอักเสบ โดยประชาชนสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อวางแผนการบริหารจัดการวัคซีนและลดความแออัดของผู้รับบริการ
นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวว่า สำนักการแพทย์ ได้แนะนำให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ ซึ่งจะครอบคลุมเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้กว้างกว่าชนิด 3 สายพันธุ์ โดยวัคซีนจะเปลี่ยนชนิดสายพันธุ์ย่อยไปทุกปี ตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดว่าจะระบาดในปีนั้น ๆ จึงจำเป็นที่จะต้องฉีดเป็นประจำทุกปี เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้พร้อมรับมือกับเชื้อในแต่ละปี ซึ่งประชาชนสามารถเข้ารับฉีดวัคซีนได้ตามคลินิกเอกชน หรือโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ โดยจะเริ่มให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลปี 2565 ชนิด 4 สายพันธุ์ ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. - ธ.ค.65
ส่วนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 3 สายพันธุ์ของรัฐบาล จะเริ่มให้บริการฉีดโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่หน่วยบริการสาธารณสุข หรือโรงพยาบาลในระบบบัตรทอง ประมาณเดือน พ.ค.65 เป็นต้นไป โดยสามารถจองสิทธิ์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ล่วงหน้าได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.65 เพื่อเพิ่มความสะดวกและสร้างความมั่นใจในการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนที่หน่วยบริการ ผ่าน 4 ช่องทางหลัก คือ (1) สายด่วน สปสช. โทร.1330 กด 1 จากนั้นกด 8 ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.00 น. (ทั่วประเทศ) (2) หน่วยบริการประจำ หรือโรงพยาบาลในระบบบัตรทอง (ทั่วประเทศ) (3) Line @UCBKK สร้างสุข (เฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทอง หรือพักอาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ) และ (4) ความร่วมมือระหว่าง สปสช.และธนาคารกรุงไทย ในการจัดทำระบบจองสิทธิฉีดวัคซีนผ่าน Health Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มงานประกันสุขภาพ 11 โรงพยาบาลในสังกัด กทม.
นอกจากนี้ ยังได้สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรเข้ารับบริการฉีดทั้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนโควิด 19 โดยสามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่พร้อมกับวัคซีนโควิด 19 ได้ โดยฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกปี และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ สำหรับผู้ป่วยควรพักผ่อนอยู่บ้าน ไม่ควรเข้าไปที่ชุมชน หากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ พร้อมเชิญชวนมารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลด้านสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ เพจสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร หรือเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มไลน์โอเพนแชท ศูนย์ข้อมูลข่าวสารสุขภาพ MIL Center เพื่อเป็นการติดต่อสื่อสารและให้รับรู้ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ