In Bangkok
กทม.ยกระดับเข้มตรวจตามมาตรการโควิด 'สถานประกอบการ-ร้านอาหาร'
กรุงเทพฯ-สำนักอนามัย-สำนักเทศกิจและสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม.ยกระดับเข้มงวดตรวจสอบสถานประกอบการ-ร้านอาหารปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด 19
นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวกรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) หรือ ศบค. เห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์และปรับมาตรการป้องกันโรคแบบบูรณาการ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.65 เป็นต้นไปว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย ได้เตรียมประสานความร่วมมือสำนักงานเขตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสร้างความเข้าใจและลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบสถานประกอบการร้านอาหารในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ ศบค.และคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม.กำหนดอย่างเคร่งครัด นอกจากนั้น ยังได้ประสานสำนักงานเขตให้สมัครเป็นผู้ตรวจประเมินตนเองตามมาตรการ COVID Free Setting ผ่านระบบ Thai Stop COVID 2 Plus เพื่อใช้กำกับ ติดตามตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่ รวมทั้งประเมินสถานประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ หากพบสถานประกอบการร้านอาหารในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 และประกาศ กทม. เช่น เปิดให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ลูกค้าในร้านเกินเวลาที่กำหนด หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด และเป็นเหตุให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโควิด 19 สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กทม. 1555 และสำนักงานเขต ทั้ง 50 เขต หากพบการฝ่าฝืนและได้ว่ากล่าวตักเตือนแล้วแต่ไม่ปฏิบัติตาม จะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวว่า สำนักเทศกิจ ได้จัดชุดตรวจบูรณาการเพิ่มความเข้มงวดกวดขันตรวจสอบสถานประกอบการ ร้านอาหาร และผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ได้รับอนุญาตให้ปรับเปลี่ยนเป็นร้านอาหาร รวมทั้งสถานที่ต่าง ๆ ที่ได้รับอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องได้รับอนุญาตตามมาตรฐาน SHA Plus และ TSC2 Plus ด้วย หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะถูกดำเนินคดี โดยที่ผ่านมาตรวจพบร้านอาหาร และสถานประกอบการหลายแห่งฝ่าฝืนถูกดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และสั่งให้ปิดการประกอบกิจการชั่วคราว
นอกจากนั้น ยังได้กำชับผู้ประกอบการและผู้รับบริการให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และ Universal Prevention โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม สถานที่ บุคลากรที่ให้บริการ รวมถึงผู้รับบริการ ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ได้แก่ การเว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่นโดยไม่จำเป็น การสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ และเจ้าของสถานที่ต้องจัดให้มีจุดบริการเจล หรือแอลกอฮอล์ล้างมืออย่างทั่วถึงเพียงพอ รวมทั้งต้องจัดให้มีเครื่องมือสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและตรวจหาเชื้อโควิด 19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
นายสมบูรณ์ หอมนาน ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม. กล่าวว่า สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวต้นแบบที่มีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวภายใต้รูปแบบการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal) นำร่องพื้นที่ทั้ง 6 กลุ่มเขตของ กทม. ได้แก่ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พินิจพิพิธภัณฑ์ เดินชมงานศิลป์ ชมวิถีชีวิตริมคลอง ชมสถานที่สำคัญริมคลองผดุงกรุงเกษม และค้นหาเสน่ห์คลองโอ่งอ่าง ขณะเดียวกันได้กำชับบุคลากรในแหล่งท่องเที่ยวปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด โดยประสานความร่วมมือกับสำนักอนามัย กทม. และศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. เพื่อเตรียมความพร้อมมาตรการป้องกันและควบคุมโรค กรณีพบเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างพำนัก หรือเดินทางท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ นอกจากนั้น ยังได้ประสานสำนักงานเขตกำชับเจ้าหน้าที่เน้นย้ำผู้ประกอบการในแหล่งท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด รวมถึงจะเผยแพร่แนวทางดังกล่าวผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง