In Bangkok
เขตคลองเตยเสนอที่ประชุมอนุกรรมการ ลงโทษพี่วินก่อเหตุล่อลวงนักเรียนหญิง
กรุงเทพฯ- เขตคลองเตยเสนอที่ประชุมอนุ กก.พิจารณาลงโทษผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างก่อเหตุล่อลวงนักเรียนหญิง
นางสาวปิยธิดา นิยม ผู้อำนวยการเขตคลองเตย กทม. กล่าวกรณีเกิดเหตุผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ใช้มีดจี้นักเรียนหญิงเข้าไปในโรงแรมม่านรูด ย่านพระโขนงว่า สำนักงานเขตคลองเตย ได้ตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะในพื้นที่เขตคลองเตย พบอยู่ในวินซอยภูมิจิตร มีผู้ขับขี่ 46 ราย อยู่ในความรับผิดชอบของสถานีตำรวจนครบาล (สน.) คลองตัน โดยบุคคลที่กระทำความผิดสวมเสื้อวินหมายเลข 41 แต่ไม่ใช่ผู้ขับขี่ในวิน รถจักรยานยนต์ดังกล่าว แต่นำเสื้อของบิดา ซึ่งเป็นเจ้าของเสื้อวินมาใส่ ขณะเดียวกันได้ประสาน สน.คลองตัน ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้กระทำผิดได้แล้ว โดยมีฐานความผิดชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้อาวุธ (มีดคัตเตอร์) โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม
นอกจากนั้น ยังได้มีหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 3 เพื่อนำประเด็นดังกล่าวเข้าสู่การประชุมคณะอนุกรรมการ 4 ฝ่าย (พื้นที่เขตคลองเตย) ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาบทลงโทษตามประกาศคณะกรรมการประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดสถานที่ตั้งวินและหลักเกณฑ์การออกหนังสือรับรองการใช้รถจักรยานยนต์สาธารณะในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2563 พร้อมเสนอมาตรการและแนวทางการป้องกันปัญหาดังกล่าวให้คณะอนุกรรมการประจำกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 3 จัดประชุมผู้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์สาธารณะ (พื้นที่เขตคลองเตย) เพื่อชี้แจง แนะนำและสร้างความเข้าใจให้มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามประกาศคณะอนุกรรมการฯ พ.ศ.2563 รวมทั้งอบรมการขับรถ กิริยาวาจา มารยาท การแต่งกาย การคิดอัตราค่าโดยสาร การปรับปรุงพัฒนาการให้บริการ รวมถึงระเบียบ กฎเกณฑ์และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร มีแนวทางการพิจารณาลงโทษผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม หรือกระทำผิดอื่นที่ส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของผู้ใช้บริการรถจักยานยนต์สาธารณะ เช่น เสพสุรา หรือเล่นการพนันบริเวณสถานที่ตั้งวิน กระทำอนาจาร หรือลวนลาม หรือทำร้ายร่างกายผู้ใช้บริการรถจักรยานยนต์ รวมถึงกรณีที่ให้บุคคลอื่นเช่า ซื้อ หรือใช้เสื้อกั๊กของตน เพื่อประกอบการขับขี่รถรับจ้าง ตามประกาศคณะกรรมการประจำกรุงเทพมหานครฯ กำหนดให้อำนาจคณะอนุกรรมการประจำ กทม. ประกอบด้วย ผู้แทนของกรมการขนส่งทางบก ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ ผู้แทนกองทัพ (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กทม.) ผู้แทน สน.ท้องที่ มีอำนาจพิจารณาถอดชื่อผู้ที่ได้รับหนังสือรับรองการใช้รถจักรยานยนต์สาธารณะ หรือผู้ขับขี่รถจักรยายนต์สาธารณะออกจากบัญชีรายชื่อวินที่ผู้นั้นขับรถอยู่ และระงับการออกหนังสือรับรองการใช้รถจักรยานยนต์สาธารณะแก่บุคคลนั้นเป็นเวลา 3 ปี นับแต่วันถูกถอดชื่อ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้กระทำผิดไม่สามารถประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง เป็นเวลา 3 ปี ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจ ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์แนะนำให้ความรู้การประกอบอาชีพขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตาม หากละเลย หรือฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติ ถือเป็นความผิดและมีบทลงโทษ