In News

นายกฯแอ๋ว!เชียงใหม่ตรวจการจัดการน้ำ เข้าขอพรเจ้าอาวาสวัดป่าดาราริภรมย์



เชียงใหม่-นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำและความก้าวหน้าโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขื่อนแม่กวงอุดมธารา ย้ำบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีกราบนมัสการพระราชวิสุทธิญาณ เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) เพื่อความเป็นสิริมงคล ในโอกาสเดินทางมาตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (29 มิ.ย.65) เวลา 09.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ ณ ประตูระบายน้ำแม่ตะมาน เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำและความก้าวหน้าโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขื่อนแม่กวงอุดมธารา โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมการตรวจเยี่ยมด้วย

นายกรัฐมนตรีรับฟังรายงานความก้าวหน้าของโครงการเพิ่มปริมาณน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา และระบบควบคุมงานก่อสร้างระยะไกลจากอธิบดีกรมชลประทาน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขื่อนแม่กวงอุดมธารา เพราะให้ความสำคัญกับโครงการนี้ และพยายามจะดำเนินการให้เสร็จตามเป้าหมาย ส่วนกรณีที่มีปัญหาเรื่องที่ดินและพื้นที่ป่านั้น ได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปดูเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) การรับฟังความเห็นคิดของประชาชน และปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้โดยเร็ว รวมไปถึงมอบหมายให้ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานการทำงานร่วมกันเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาที่ติดขัดต่าง ๆ โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ เพื่อที่นายกรัฐมนตรีจะได้สั่งการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้โครงการดำเนินการเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ และให้การบริหารจัดการน้ำเป็นระบบมีประสิทธิภาพทั้งการเติมน้ำ จูงน้ำ ดึงน้ำ และระบายน้ำ ซึ่งเป็นไปตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์ในพื้นที่ทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และการรองรับการขยายเมือง 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างอุโมงค์ผันน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำรองรับการขยายตัวของชุมชน ภาคอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว โดยนายกรัฐมนตรีย้ำทำให้เร็วขึ้น และบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับโครงการขนาดใหญ่ที่คุ้มค่า โดยหากโครงการใดที่ติดขัดอุปสรรคปัญหาล่าช้าต้องแก้ไขให้ได้ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ที่คุ้มค่า เพื่อให้โครงการขนาดเล็กเกิดขึ้นได้ ต้องทำให้เกิดความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันทั้งระบบ ประชาชนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง

สำหรับโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่กวงอุดมธาราและระบบส่งน้ำ กรมชลประทานได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ. 2536 ความจุอ่างเก็บน้ำ 263 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่ชลประทาน 175,000 ไร่ แต่ปัจจุบันการขยายตัวของชุมชน การเติบโตด้านการท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อำเภอสันกำแพง อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอบ้านธิ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน เป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีความต้องการใช้น้ำในปริมาณที่สูงกว่าปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำเป็นปริมาณปีละ 137 ล้าน ลบ.ม. และในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะขาดแคลนน้ำมากถึงปีละ 173 ล้าน ลบ.ม. กรมชลประทานจึงได้ศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม และดำเนินการก่อสร้างโครงการอุโมงค์ส่งน้ำ เพื่อผันน้ำจากลำน้ำแม่แตง และจัดสรรน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำ แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ 1)  อุโมงค์ส่งน้ำ ช่วงลำน้ำแม่แตงไปยังอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล และ 2) อุโมงค์ส่งน้ำ ช่วงอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลไปยังอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ระยะทางรวมประมาณ 49 กิโลเมตร ซึ่งมีความยาวที่สุดในประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของชุมชน การเติบโตของภาคการท่องเที่ยว และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งกรมชลประทาน ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลปัจจุบัน ในการดำเนินโครงการเพิ่มปริมาณน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธาราในปี พ.ศ. 2558 โดยอุโมงค์ส่งน้ำทั้ง 2 ช่วงจะผันน้ำที่มาจากลำน้ำแม่แตงในช่วงฤดูฝน ประมาณ 113 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี และผันน้ำส่วนเกินจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลประมาณ 47 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี รวมเป็น 160 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี ลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ซึ่งการดำเนินการขณะนี้ (เดือน มิ.ย.65) โครงการมีความก้าวหน้าร้อยละ 68.81 แล้ว  

นายกรัฐมนตรีกราบนมัสการพระราชวิสุทธิญาณ เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) เพื่อความเป็นสิริมงคล ในโอกาสเดินทางมาตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (29 มิถุนายน 2565) เวลา 10.30 น. ณ วัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง ตำบลแม่ริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ เข้ากราบนมัสการพระราชวิสุทธิญาณ เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน- แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) เพื่อความเป็นสิริมงคล ในโอกาสเดินทางมาตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่

เมื่อเดินทางถึงวัดป่าดาราภิรมย์ นายกรัฐมนตรีเข้าสู่ภายในมณฑปพระจุฬามณีศรีบรมธาตุ (หอแก้ว) จุดธูปเทียนบูชาพระประธาน ถวายสักการะและเครื่องกัปปิยภัณฑ์ แด่พระราชวิสุทธิญาณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ พระราชวิสุทธิญาณ อนุโมทนาให้พรและสนทนาธรรมกับนายกรัฐมนตรีและคณะ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้น้อมถวายกัปปิยภัณฑ์ แด่พระครูวิบูลธรรมกิจ (บัวเกตุ ปทุมสิโร) เจ้าอาวาสวัดป่าปางกึ๊ดกิตติธรรม ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้พักฟื้นอาการอาพาธอยู่ภายในวัดป่าดาราภิรมย์ จากนั้น นายกรัฐมนตรีไปนมัสการพระทันตธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้ว และเยี่ยมชมปูชนียวัตถุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทางวัดได้จัดแสดงไว้ภายในหอแก้วชั้นบน ก่อนออกเดินทางต่อไปยังศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้ พระทันตธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้ว พระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้มาจากพระธาตุจองไต รัฐเชียงตุง ประเทศพม่า โดยพบประดิษฐานอยู่ในเศียรพระพุทธรูป มีการจารึกสลักที่หุ้มว่า “พระสากยะ” เป็นภาษาล้านนา อีกทั้งมีจารึกชื่อ พระหาเถรคันฉ่อง สากยะมุนี ซึ่งเป็นผู้อัญเชิญมาอีกด้วย โดยพระธาตุจองไต ณ เมืองเชียงตุงนั้น สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นผู้โปรดให้สถาปนาไว้ ซึ่งมีจารึกอักษรธรรมกำกับไว้ อีกทั้งยังมีพระพุทธรูปทองคำ และสิงห์สัมฤทธิ์อีกคู่หนึ่ง ปัจจุบันของมีค่าทั้งหมดเก็บรักษาไว้อย่างดี ณ หอแก้ว วัดป่าดาราภิรมย์  

สำหรับประวัติวัดป่าดาราภิรมย์ พระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต ได้ออกจาริกธุดงค์มายังเชียงใหม่ และได้พำนัก ณ ป่าช้าร้างติดกับสวนเจ้าสบาย พระตำหนักดาราภิรมย์ของเจ้าดารารัศมี พระราชชายาในรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นสถานที่สงบ เป็นสปายะในการบำเพ็ญกรรมฐาน และมีพระสงฆ์ได้เข้ามาบำเพ็ญกรรมฐาน ณ ที่แห่งนี้ เมื่อชาวบ้านในละแวกเห็นแล้วได้เกิดศรัทธาจึงได้ร่วมกันสร้างเสนาสนะต่าง ๆ ถวายเพื่อให้คณะสงฆ์ได้ใช้ในกิจการสงฆ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2484 เจ้าลดาคำ ณ เชียงใหม่ ทายาทของเจ้าดารารัศมี พระราชชายา ได้ถวายที่ดินดังกล่าวซึ่งอยู่ในเขตพระราชฐานพระตำหนักเจ้าดารารัศมีให้แก่วัด จึงมีการเปลี่ยนชื่อวัดใหม่ นามว่า “วัดป่าดารา-ภิรมย์” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่พระราชชายาเจ้าดารารัศมี