In Bangkok

กทม.เน้นย้ำผู้ติดเชื้อโควิดให้เข้าสู้ระบบ รักษาตามสิทธิ์



 กรุงเทพฯ-สำนักงานเขตทวีวัฒนา-สำนักอนามัยและสำนักงานแพทย์ กทม.เน้นย้ำผู้ติดเชื้อโควิด 19 กำชับเข้าสู่ระบบการรักษาตามสิทธิ์ได้ทุกโรงพยาบาล

นายดิชา คงศรี ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา กทม. กล่าวกรณีมีการเสนอข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 เสียชีวิตภายในห้องพักย่านพุทธมณฑล สาย 2 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา หลังขอรับยาตามระบบและแยกกักตัวว่า สำนักงานเขตทวีวัฒนา ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 67 สำนักอนามัย มูลนิธิร่วมกตัญญู อาสาสมัครสาธารณสุขและญาติผู้ป่วย ลงพื้นที่สอบสวนโรค พบผู้เสียชีวิตเพศชาย อายุ 45 ปี สถานภาพ โสด ไม่ได้ประกอบอาชีพ สิทธิการรักษา บัตรทองที่คลินิกเวชกรรมแห่งหนึ่ง มีประวัติได้รับวัคซีน 3 เข็ม ประกอบด้วย Sinovac Astrazeneca และ Astrazeneca มีโรคประจำตัว ตับแข็งจากสุราเรื้อรัง และไวรัสตับอักเสบซี รักษาประจำอยู่ที่โรงพยาบาล (รพ.) ราชพิพัฒน์ ได้รับการเจาะน้ำในช่องท้องเป็นระยะ ๆ โดยมีนัดครั้งต่อไปวันที่ 4 ส.ค.65 แต่เมื่อวันที่ 4 ก.ค.65 ผู้เสียชีวิตรายดังกล่าวมีอาการท้องโต อัณฑะบวม ปวดตึงอัณฑะ จะไปพบแพทย์โรคตับที่ รพ.ราชพิพัฒน์ แต่มีผลการตรวจ ATK เป็นบวก ญาติจึงติดต่อคลินิกเวชกรรมตามสิทธิบัตรทอง เพื่อขอใบส่งตัว ซึ่งคลินิกฯ ได้แนะนำให้ผู้ป่วยซื้อยาฟ้าทะลายโจรมารับประทาน เพื่อรักษาโควิด 19 ก่อน จากนั้นในวันที่ 9 ก.ค.65 มีผู้พบเสียชีวิตอยู่ในห้อง อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้ให้คำแนะนำการทำความสะอาด รวมถึงกำชับให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19 ในลักษณะเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ในบริเวณดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ศูนย์บริการสาธารณสุข 67 ทวีวัฒนา ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม เขตทวีวัฒนา พบที่เกิดเหตุเป็นอู่รถบัส มีห้องพักปลูกติดกัน แบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน ในที่พักอาศัยมีทั้งหมด 9 คน ติดเชื้อ โควิด 19 จำนวน 8 ราย ทั้งหมดลงชื่อในระบบสาธารณสุขและเข้าสู่ระบบรักษาตัวที่บ้าน จากนั้นกักตัวรักษาครบ หายดีแล้ว ทุกคน ส่วนผู้เสียชีวิต พบเชื้อคนสุดท้ายเมื่อวันที่ 4 ก.ค.65 อย่างไรก็ตาม ได้แนะนำผู้พักอาศัยในบริเวณดังกล่าว หากพบผู้ป่วยมีอาการโควิด 19 และต้องการเข้าสู่ระบบการรักษา สามารถติดต่อสถานพยาบาลตามสิทธิการรักษาตามระดับอาการ โดยสถานพยาบาลจะติดตามอาการและนำเข้าสู่ระบบการรักษาใน รพ.ทันทีหากอาการเจ็บป่วยรุนแรงขึ้น

นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวว่า สำนักการแพทย์ ร่วมกับสำนักอนามัย จัดทำแผนที่การกระจายตัวของ รพ.หลัก รพ.สนาม ศูนย์พักคอย และศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด 19 รวมถึงกำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมกันในการดูแลและประสานส่งต่อผู้ป่วยโควิด 19 ในกลุ่มอาการต่าง ๆ นอกจากนั้น ยังได้วางแผนการตรวจคัดกรองโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด 19 ให้ประชาชน รวมทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของโรค โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 และเด็กเล็ก หากตรวจแล้วพบว่าติดเชื้อ หรือสงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด 19 ให้ไปที่ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ หรือคลินิกอบอุ่นใกล้บ้าน เพื่อรับยาตามอาการ และกลับไปดูแลตัวเองที่บ้าน หรือแจ้งผ่านสายด่วน 1669 ศูนย์เอราวัณ เพื่อประเมินอาการนำส่งเข้าสู่การรักษาตามระดับอาการต่อไป