Authority & Harm
ผกก.สังขละเตือนแก๊งขนคนเถื่อนให้หยุด จับได้เป็นพม่าหถอนสิทธิ์ได้สัญชาติไทย

กาญจนบุรี-ผกก.สังขละฯ กาญจน์ เตือน ขบวนการขนคนเถื่อนให้หยุดพฤติกรรม ชี้ หากจับได้พบเป็นเมียนมาที่ได้บัตรสัญชาติไทย นอกจากถูกดำเนินคดี ต้องถูกเพิกถอนสิทธิทุกราย
เมื่อวันที่ 6 ก.ย.65 พ.ต.อ.ธนกร รอดเรือง ผกก.สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "จากกรณีรถยนต์เก๋งพลิกคว่ำตกลงไปในคูน้ำริมถนนสาย 323 สังขละบุรี-ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นเหตุทำให้แรงงานที่โดยมาสารมากับรถยนต์คันดังกล่าวจำนวน 13 ราย เสียชีวิตติดอยู่ในซากรถ 4 ราย อีก 9 รายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับคนขับรถยนต์เก๋งกับเพื่อนรวม 2 คน สามารถหลบหนีไปได้โดยมีรถยนต์กระบะขับมารับตัวไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันที่ 28 ส.ค.65 ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนจับกุม จนกระทั่งทราบว่าขบวนการผู้นำพามีด้วยกัน 3 ราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อรายงานให้ศาลทราบ จนกระทั่งศาลจังหวัดทองผาภูมิได้อนุมัติหมายจับ ให้พนักงานสอบสวน รวม 3 หมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตร.สามารถจับกุมตัวนายชาเด็ด หรือเด็ด ปพนเธียร อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 61/2565 และนายทวีศักดิ์ หรือพงษ์ กำหนดนับ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 63/2565 ได้ที่บริเวณถนนหน้า สภ.สังขละบุรี ส่วนนายสังข์ทอง (ไม่มีนามสกุล)ชาวเมียน อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 62/2565 ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วตั้งแต่วันเกิดเหตุ
สำหรับผู้ต้องหาสองคนที่ถูกจับกุม เป็นผู้ที่ได้รับการแปลงสัญชาติจากชาวเมียนมามาเป็นคนไทย และอาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะดำเนินการเสนอเรื่องไปยังฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี ให้อนุมัติเพิกถอนสัญชาติต่อไป "
พ.ต.อ.ธนกร รอดเรือง ผกก.สภ.สังขละบุรี ยังกล่าวต่อว่า "ตั้งแต่ตนมารับตำแหน่ง ผกก.สภ.สังขละบุรี ได้มีการตั้งด่านร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด และมีผลงานการจับกุมผู้กำทำผิดมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาของแต่ละเดือน พบว่าปีนี้สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะผู้ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหา ช่วยเหลือซ่อนเร้น เพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์ อย่างเช่นเดือนที่ผ่านมามีการจับกุมผู้ต้องหาในคดีช่วยเหลือซ่อนเร้น มากถึง 25 ราย แต่เมื่อนำไปเปรียบเทียบในเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่าจับกุมได้เพียงแค่ 9 ราย
โดยที่ผ่านมาขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายนั้น มีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธี เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ในหลายรูปแบบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเราก็ได้ปรับเปลี่ยนยุทธวิธีให้ทันสถานการณ์ไปด้วย นอกจากนี้ยังมีการสืบสวนสอบสวนเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดมาอย่างต่อเนื่อง
ขอเตือนไปยังกลุ่มหรือเครือข่ายไหนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ขอให้เลิกพฤติกรรมดังกล่าวเสียตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพราะหากถูกจับกุมได้ เราจะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และที่สำคัญหากพบผู้กระทำผิดที่ได้รับสิทธิแปลงสัญชาติเป็นไทยและเข้ามาอาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่จะเสนอไปยังฝ่ายปกครองให้เพิกถอนสัญชาติกับทุกรายอย่างแน่นอน
ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้มีนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยเฉพาะจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน และให้มีการเร่งรัดสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมผ้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
จากนโยบายดังกล่าว พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.บุญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภาค 7 รวมทั้ง พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี และ พ.ต.อ.ธนะสิทธิ์ ปานศรี รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้รับนโยบายและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท้องที่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดอีกด้วย