In Bangkok
กทม.เปิดศูนย์เฝ้าติดตามพายุไต้ฝุ่น'โนรู' เตือนปชช.พร้อมแก้เหตุการณ์เร่งด่วน
กรุงเทพฯ-กทม.เปิดศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น "โนรู" กรุงเทพมหานคร แจ้งเตือนประชาชน ประสานงานพร้อมแก้ไขเหตุการณ์เร่งด่วน
(26 ก.ย.65) นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการตั้งศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น "โนรู" กรุงเทพมหานคร ว่า ในวันนี้เป็นการเปิดศูนย์เป็นวันแรกตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ในการเตรียมรับมือฝนตกหนัก จากผลกระทบของพายุฯ ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายนนี้เป็นต้นไป พร้อมติดตามแก้ไขสถานการณ์ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การขอกำลังสนับสนุน การประเมินตรวจสอบสถานการณ์ รายงานสภาพอากาศในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบและเตรียมพร้อมรายงานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ สามารถดูแลช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ซึ่งศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ พายุไต้ฝุ่น"โนรู" กรุงเทพมหานคร จะมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ โดยมีรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ฯ ซึ่งศูนย์ฯ จะมีการแจ้งถึงความคืบหน้าของสถานการณ์ให้ประชาชนทราบทุกวัน ผ่านช่องทางสื่อสารของกทม. รวมถึงการแถลงข่าวในสถานการณ์ฉุกเฉินเร่งด่วน ซึ่งประชาชนสามารถติดต่อศูนย์ฯ ได้ที่หมายเลข 0 2248 5115
ทั้งนี้ จากการประชุมคณะผู้บริหารกทม.ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ฯ ดังกล่าวขึ้น เพื่อบริหารจัดการและรับมือกับพายุที่จะเข้ามา หากมีผลกระทบกับพื้นที่กรุงเทพฯ และได้ให้สำนักการระบายน้ำจัดทำฉากทัศน์จำลองสถานการณ์ 2 รูปแบบ คือ รูปแบบของน้ำเหนือที่กำลังจะเข้ามา และรูปแบบระดับน้ำหนุนในแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งให้ทำแผนเตรียมรับสถานการณ์น้ำด้านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก และแผนรองรับกรณีน้ำหนุนในแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เจอฝนตกต้อนรับเช้าวันจันทร์ ซึ่งยังไม่ใช่อิทธิพลของพายุ แต่เป็นร่องมรสุมกำลังแรงได้เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคอีสานตอนล่าง ประกอบกับมรสุมประจำฤดูมีกำลังปานกลาง ทำให้เมื่อเช้านี้หลายพื้นที่ทั่วไทยมีฝนปกคลุม ปริมาณฝนอยู่ที่ 70-80% ของพื้นที่ ทำให้แยกแคราย ถนนติวานนท์ ทั้งขาเข้าและขาออก มีน้ำท่วมขังบนถนน ตั้งแต่หน้าโรงพยาบาลทรวงอก ถึงแยกแคราย ความยาวประมาณ 200 เมตร น้ำท่วมสูง 15 เซนติเมตร โดยในส่วนของภาคอีสานจะได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น "โนรู" มากที่สุด ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากเป็นบริเวณกว้าง เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก