Authority & Harm
ผู้ว่าฯลงพื้นที่ผลักดันโขลงช้างป่าเขาอ่างฤาไนด้วยตัวเอง

ปราจีนบุรี-ผู้ว่าฯลงพื้นที่ผลักดันโขลงช้างป่าเขาอ่างฤาไนมากกว่า100ตัว(บวก)ด้วยตัวเองหลังจากโยกย้ายข้ามถิ่นเข้ามาหากินแล้วไม่ยอมกลับ โดยช่วงแล้ง-หนาวนี้ไร่อ้อย-ไร่มันสำปะหลัง แถบตำบลวังท่าช้าง-ตำบลเขาไม้แก้วอ.กบินทร์บุรี กำลังให้ผลผลิตเป็นแหล่งอาหารชั้นเลิศ ประกอบกับมีสวนป่ายูคาลิปตัสที่หมดสัมปทานจากป่าไม้พื้นที่รกร้างมากกว่า2,000ไร่เป็นแหล่งที่อยู่
เมื่อ16.00น.วันนี้10 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวจ.ปราจีนบุรีรสยงานความคืบหน้า จากทั่ได้รับร้องทุกข์ชาวบ้านมีโขลงข้างป่าจ่กเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาางฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา จำนวนมากกว่า100ตัว(บวก) ข้ามฝั่งมาหากิน ชาวบ้านผลักดันแล้ว ไม่ยอมกลัยถิ่นเดิม ที่บ้านวังกวาง ต.วังท่าช่าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ความคืบหน้าล่าสุด นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีพร้อมด้วยปภ.จังหวัด สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี อบต. กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่าลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ที่เข้ามาหากินในพื้นที่ ซึ่งจำนวนฝูงช้างป่า 100 ตัว(บวก) ได้อพยพเข้ามาหากินในพื้นที่การเกษตรของราษฎรสร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรเป็นอย่างมาก
โดยได้ทำการมาลงพื้นที่ป่าอ้อยข้างหมู่บ้านโดยใช้ โดรนบินสำรวจ ได้พบโขลงช้างป่าจำนวนดังกล่าวกำลังพ่กันหากินและอาศัยอยู่ในป่าอ้อยทึบสร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย
อาสาสมัครและผู้นำท้องถิ่นท้องที่เฝ้าระวังฝูงช้างป่าไม่ให้อยู่ในที่ควบคุมหากฝูงช้างป่า คนต้อนผลักดัน มีความพร้อมที่จะอพยพ ชุดผลักดันก็จะทำการผลักดันช้างป่าให้ออกจากพื้นที่กลับไปอยู่ในพื้นที่ของป่าอนุรักษ์
พร้อมกับแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้เฝ้าระวังหน้าที่จะคอยกัน ไม่ให้ช้างป่าหมู่บ้านอาจจะทำความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ระยะต่อไปจะหารือกันงานกันในทุกๆฝ่ายผลักดันช้างป่าให้กลับพื้นที่อนุรักษ์ ไม่ให้ออกมาหากินในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาให้แก่เกษตรกรที่ได้รับการเสียหายเร่งการช่วยเหลือตามกฎเป็นของทางราชการที่กำหนดไว้ ส่วนใหญ่ช้างป่าที่เข้ามาหากินในพื้นที่ของเกษตรกรลักษณะฉาบฉวยไม่ได้เสียหายแบบ 100%
ทางอบต.จะสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือตามตามสมควร นั้นได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจครูนาตยา เรืองศรี ที่ถูกช้างป่าเข้ามาพังยุ้งข้าวและกินเปลือกไปกินเมื่อคืนวานก่อน
ด้านนายสุนทร คมคาย แกนนำวิสาหกิจชุมชนว่าที่ผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรีพรรคก้าวไกล เขต3 และอาสาสมัครเฝ้าระวังผลักดันช้างป่า ต.เขาไม้แก้ว อ. กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า โขลงช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขา อ่างฤาไน( ในผืนป่าราบต่ำแห่งสุดท้ายในป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออกจ.ฉะเชิงเทรา จ.สระแก้ว จ.จันทบุรี จ. ชลบุรี จ.ระยอง) จำนวนมากกว่า100ตัว(บวก)ดังกล่าว ข้ามฝั่งมาจากพื้นที่ริยต่อจ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านทำการผลักดัน เมื่อกลางดึก ช่วงคนเผลอ้ช้าวันนี้ก็หวรกลับคืนมาไม่ยอมกลับคืนถิ่นเดิม
โดยยกโขลงเข้ามาพัก ที่อยู่อาศัยที่บริเวณสวนป่ายูคาลิปตัสที่ถูกปล่อยรกร้างว่างเปล่าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่หมดสัญญาการทำสัมปทานจากกรมป่าไม้เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื้อที่รวมมากกว่า 2,000 ไร่ ตั้งแต่ช่วงสมัยอดีตพลตรีสนั่น หรือเสธฯหนั่น ขจรประศาสตร์อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่มี โขลงช้างป่าได้เข้ามาอาศัยอยู่ก่อนหน้ากว่า30ตัว(บวก) โขลงช้างป่ารวมจำนวนกว่า 100 ตัว(บวก) ได้ข้ามฝั่งจากแปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา เข้ามาหากินและ อาศัยอยู่ ในสวนป่ายูคาลิปตัสร้างดังกล่าวหลังถูกผลักดัน
โดยในแต่ละวัน ในช่วงกลางคืนจะยกโขลงออกหากิน ถึงจะถูกผลักดันก็ ไม่ยอมยกโขลง กลับคืนผืนป่าราบต่ำฯ ถิ่นที่อยู่ดั้งเดิม ที่ป่า แปดริ้ว หรือ จ.ฉะเชิงเทรา เพราะพื้นที่ฝั่งต.วังท่าช้าง ต.เขาไม้แก้วมีแหล่งอาหารคือไร่อ้อย - ไร่มันสำปะหลังที่ช่วงแล้ง-หนาวนี้กำลังให้ผลผลิต-กำลังตัดส่งโรงหีบน้ำตาล และมีที่อยู่พร้อม นายสุนทร กล่าว
และ กล่าวต่อไปว่า ได้เสนอเป็นนโยบายพรรคก้าสไกลใรกาแก้ไขปัญหาช้างป่าภาคตะวันออก เสนอแนวทาง เพื่อแก้ไขแหล่งอยู่อาศัยของโขลงช้างป่า ที่เข้ามาใช้สวนป่ายูคาลิปตัสร้าง ที่ครบสัมปทานไปแล้วนี้ เป็นไปได้หรือไม่ที่ทางรัฐบาลฯหรือกรมป่าไม้ จะมอบหมายอำอาจทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) อาทิ องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ได้เข้าไปดูแล-จัดสรรให้ราษฎรได้ใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตรต่างๆ(?) หรือ ทำพื้นที่ทั้งฝั่งปราจีนบุรี-แปดริ้วแถบป่าพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว แบบซาฟารี มีการปลูกอาหาร แหล่งน้ำ คูกันช้างป่า นายสุนทร กล่าว
มานิตย์ สนับบุญ / ปราจีนบุรี