Biz news

PwCและSAPเปิดตัวกลยุทธ์นวัตกรรมใหม่ ช่วยธุรกิจบรรลุเป้าอีเอสจี-Net Zero



กรุงเทพฯ, 31 มกราคม 2566 – PwC และ SAPเปิดตัวกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมร่วมกันเพื่อให้ความยั่งยืนเป็นส่วนสำคัญของมาตรฐานการดำเนินธุรกิจโดยกลยุทธ์นี้มุ่งเน้นที่การสร้างโซลูชันที่น่าเชื่อถือเพื่อจัดการกับความท้าทายทางธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล(Environmental, Social and Governance: ESG) ครอบคลุมการวัดผล การรายงานและการควบคุมปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดจนการลดก๊าซคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทาน ความเสี่ยงด้านสภาพอากาศและการวิเคราะห์การแข่งขันทางธุรกิจ

กลยุทธ์ใหม่ด้านอีเอสจีนี้ ถือเป็นการต่อยอดความแข็งแกร่งของการร่วมมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระหว่าง PwC และ SAPซึ่งประสบความสำเร็จในการส่งมอบโซลูชันด้านการเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้กับลูกค้าในมากกว่า 80 ประเทศ

ทั้งนี้ กลยุทธ์ดังกล่าว ประกอบด้วยโซลูชันที่สร้างสรรค์ร่วมกัน โดยอาศัยความเชี่ยวชาญเชิงลึกในด้านอีเอสจีและการบัญชีของPwC โดยมีเป้าหมายช่วยให้ธุรกิจสามารถประยุกต์ใช้เกณฑ์อีเอสจีในการดำเนินงานได้อย่างน่าเชื่อถือ โปร่งใส และตรวจสอบได้ผสมผสานด้วยโซลูชัน ‘SAP® Cloud for Sustainable Enterprises’ โซลูชัน ‘SAP Sustainability Control Tower’และโซลูชัน ‘SAP Product Footprint Management’ ซึ่ง PwC และ SAPช่วยให้องค์กรใช้ประโยชน์จากโซลูชันที่จำเป็นในการปฏิบัติตามข้อกำหนด และขับเคลื่อนการเติบโต

เพื่อรองรับความคาดหวังของลูกค้าและนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังช่วยลูกค้าในการกำหนดทิศทางของกลยุทธ์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)และการรายงานความยั่งยืนกลยุทธ์ของ PwC และ SAP ประกอบด้วยโซลูชันที่ครอบคลุมกลยุทธ์อีเอสจีทั่วทั้งองค์กร ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขายและการยอมรับเครดิตภาษี ไปจนถึงจัดการความเสี่ยงจากบุคคลภายนอก และการวิเคราะห์การแข่งขันทางธุรกิจ

นอกจากนี้ความท้าทายสามอันดับแรกในการรายงานด้าน ESG การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์และการรายงานความยั่งยืนจะถูกระบุอยู่ในกลยุทธ์นี้ด้วย ดังต่อไปนี้
 การรายงานและการเปิดเผยข้อมูลให้เป็นไปตามข้อกำหนดของการรายงานและเปิดเผยข้อมูลการวัดก๊าซคาร์บอนในระดับกลุ่มนักลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน ผู้ให้กู้ หน่วยงานกำกับดูแล และลูกค้า 
 การดำเนินงานด้านความยั่งยืน ที่สนับสนุนการผนวกมาตรการด้านอีเอสจี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผนวกประเด็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนเข้ากับหน่วยงานของธุรกิจโดยตรง เช่น การค้า การแปลงเงินกำไรเป็นทุนและภาษี 
 การจัดการความเสี่ยง การตรวจสอบ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบของห่วงโซ่อุปทานที่ขยายการสนับสนุนสำหรับมาตรการด้านอีเอสจีเพื่อให้ครอบคลุมผลกระทบของซัพพลายเออร์ต่อประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร
โซลูชันต่าง ๆ เช่น เครื่องมือความเป็นเลิศด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Excellence tool) ที่ได้รับรางวัลของ PwCประเทศเยอรมนี ซึ่งใช้ SAP Business Technology Platformแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของการร่วมมือระหว่างสององค์กรในการนำนวัตกรรมด้านอีเอสจีออกสู่ตลาด

PwC และ SAP มีความมุ่งมั่นในการช่วยให้องค์กรต่าง ๆสามารถตอบสนองต่อข้อกำหนดด้านการรายงานและการตรวจสอบที่กำหนดโดยคณะกรรมการที่ปรึกษาการจัดทำรายงานทางการเงินแห่งสหภาพยุโรป (European Financial Reporting Advisory Group: EFRAG)และคณะกรรมการมาตรฐานความยั่งยืนระหว่างประเทศ (International Sustainability Standards Board: ISSB) นอกจากนี้ยังสนับสนุนบริษัทต่าง ๆ ในการปฏิบัติตามคำวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องและเสนอโดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ โซลูชันที่ให้บริการโดย PwCและ SAPส่งมอบสภาพแวดล้อมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์ให้แก่ลูกค้าที่จำเป็นต้องดำเนินธุรกิจและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

นาย บ็อบ มอริตซ์ ประธาน บริษัท PwC โกลบอล กล่าวว่า “ESGกลายเป็นสิ่งจำเป็นทางธุรกิจและเป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ระดับโลกของ PwC นั่นคือ “สมการใหม่”ซึ่งมีเป้าหมายในการช่วยให้ลูกค้าสร้างความไว้วางใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของพวกเขา และส่งมอบผลลัพธ์ที่ยั่งยืนข้อกำหนดในการรายงานอีเอสจี และการเปิดเผยข้อมูลใหม่กำลังได้รับการจัดตั้งขึ้น และความโปร่งใสที่มากขึ้นจะมีความสำคัญต่อการสร้างความไว้วางใจ ซึ่งความเชื่อนี้ คือ แกนหลักของกลยุทธ์การร่วมสร้างนวัตกรรมใหม่ของเรากับ SAPเพื่อขยายความร่วมมือที่มุ่งเน้นเฉพาะในการพัฒนาโซลูชันด้านอีเอสจีตลอดเวลาที่ผ่านมา PwC ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ
ส่งมอบตามข้อกำหนดที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านอีเอสจี ด้วยความเชี่ยวชาญและชื่อเสียงในด้านความไว้วางใจและความซื่อตรงของเรา ร่วมกับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของ SAP
จะช่วยนำเสนอศักยภาพและโซลูชันที่ครอบคลุมเพื่อตอบสนองความท้าทายขององค์กรในการปฏิบัติตามพันธสัญญาด้านอีเอสจีและความยั่งยืน”

นาย คริสเตียน ไคลน์ ซีอีโอและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร บริษัท SAP SE กล่าวว่า“กุญแจสำคัญที่ทำให้ทุกองค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก คือ ความโปร่งใสความร่วมมือของเราจะผสมผสานความเชี่ยวชาญเชิงลึกในอุตสาหกรรมและข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าของ PwCเข้ากับพอร์ตโฟลิโอเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนชั้นนำของเรา ซึ่งความโปร่งใสด้านอีเอสจีที่เกิดขึ้นจะช่วยให้บริษัทต่าง ๆ
ปฏิวัติรูปแบบทางธุรกิจใหม่ ๆ และส่งมอบผลลัพธ์ที่ยั่งยืนที่โลกต้องการอย่างเร่งด่วน”

ด้านนาย จิรพล ตังทัตสวัสดิ์ หุ้นส่วนสายงานที่ปรึกษา บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “PwCเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ SAP มาอย่างยาวนานทำให้เราสามารถดึงจุดแข็งมาผสมผสานกับบริการด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจและด้านเทคโนโลยีเพื่อช่วยลูกค้ากำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจและตอบโจทย์ด้านอีเอสจีรวมไปถึงให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าที่ต้องการเป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืน หรือ Dow Jones Sustainability Indexผ่านการประเมินความยั่งยืนตามตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การร่วมมือสร้างนวัตกรรมใหม่ระหว่าง PwCกับ SAP นี้ จึงถือเป็นการต่อยอดและพัฒนาโซลูชันโดยใช้พื้นฐานด้านเทคโนโลยีของ SAPซึ่งใช้ระบบคลาวด์ในการติดตามผลการดำเนินการด้านอีเอสจีโดยมีการคำนวณปริมาณคาร์บอนที่บริษัทใช้เพื่อให้สามารถออกรายงานสนับสนุนการตรวจสอบและปฏิบัติตามเกณฑ์ที่ต้องการได้”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์สร้างนวัตกรรมใหม่ด้านอีเอสจีของ PwC และ SAP ได้ที่เว็บไซต์ของเรา