Authority & Harm
ชาวบ้านชัยภูมิถูกหลอกปลอมโฉนดกู้เงินสูญไปกว่า10ล้าน

ชัยภูมิ-ชาวอำเภอบำเหน็จณรงค์กว่า 96 ครอบครัวเศร้า ร้องขอความช่วยเหลือหน่วยงานภาครัฐและสื่อมวลชน หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกปลอมโฉนดที่ดินกู้เงินบริษัทลิสซิ่ง สูญไปกว่า 10 ล้าน
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 14.00น. ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ ไปที่สำนักงานเทศบาลบำเหน็จณรงค์ เนื่องจากได้รับหนังสือร้องเรียน ขอความช่วยเหลือ จากนาง อุไร อู่สำราญ ผู้แทนชาวบ้าน ว่าถูกหลอกลวงให้นำโฉนดที่ดินปลอม ไปกู้เงินกับบริษัทลิสซิ่ง แห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในอำเภอบำเหน็จณรงค์ ทำให้ตนและพวกรวม 96 คน ถูกแจ้งความดำเนินคดี ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทั้งเงินที่ได้มาก็ได้รับเพียงนิดหน่อย ส่วนเงินก้อนใหญ่ นายหน้า เอาไปหมด นอกจากนี้ผู้แทนที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 30 รายได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือจาก นาย วัชระ บำรุงสงฆ์ นายกเทศมนตรีตำบลบำเหน็จณรงค์ อย่างเป็นทางการด้วย
ด้าน นาง อุไร อู่สำราญ ผู้แทนชาวบ้านที่เดือดร้อน เล่าว่า เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งช่วงนั้นยังมีโรคระบาดโควิดอยู่ ได้มี นาง สัมพันธ์ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนตนมาถามว่าอยากได้เงินใช้ไหม ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนมาให้ ต่อมาประมาณ 3 วัน นางสัมพันธ์ได้นำโฉนดที่ดินมาให้ และให้ตนไปกู้เงินกับบริษัท ลิสซิ่งฯ ได้เงินมาประมาณ 50,000 บาท นาง สัมพันธ์ แบ่งให้ตน 5000 บาทส่วนที่เหลือบอกว่า จะนำไปส่งให้นาง แอน ซึ่งเป็นแฟนตำรวจ ไม่ต้องกลัวมีเรื่อง ส่วนเงิน ตนจะเป็นคนส่งใช้หนี้เอง ต่อมาอีก 3 อาทิตย์ นาง สัมพันธ์ ก็นำโฉนดมาให้กู้อีก 2 ใบ ได้เงินมาใช้อีก 5000 บาท ส่วนคนอื่นๆก็ทำคล้ายกันเช่นนี้ ต่อมาตนได้รับแจ้งจากบริษัทว่าไม่ส่งเงินมา 3 เดือนแล้ว สอบถามไปยัง นาง สัมพันธ์ก็บอกว่าติดต่อนางแอนไม่ได้ จึงถูกบริษัทลิสซิ่งแจ้งความในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ตนและพรรคพวกอีกหลายคนถูกจับดำเนินคดีได้รับความเดือดร้อนจึงมาขอความช่วยเหลือจากนายกฯ และชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดชัยภูมิ ให้หาทางช่วยเหลือตนกับพวกด้วย
ด้านนาย วัชระ บำรุงสงฆ์ นายกเทศมนตรีตำบลบำเหน็จณรงค์ กล่าวว่า ตนได้ให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนไปหลายราย โดยให้เจ้าหน้าที่ของตนไปประกันตัวออกมา พร้อม ให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย และอื่นๆ ซึ่งคงต้องนำเรียนผู้ใหญ่ และผู้มีความรู้ด้านกฎหมายต่อไปหลังจากได้พูดคุย หาข้อมูล รายละเอียดซึ่งมีความแตกต่างกันบ้างในด้านตัวบุคคลที่มาติดต่อ กับจำนวนเงินที่กู้มาแล้วชาวบ้านจึงเดินทางกลับ