Think In Truth

ปชป.เปิดตัวนโยบายเกษตรทันสมัย26-26 ตั้งฟู้ดวัลเลย์ดันไทยพี่เบิ้มด้านอาหารโลก



กรุงเทพฯ-“ประชาธิปัตย์” ประกาศนโยบายเกษตรทันสมัย 26-26 สู่เกษตรมูลค่าสูง ดันไทยมหาอำนาจอาหารโลก สร้างเงินให้ประเทศเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ตั้งฟู้ดวัลเลย์ทั่วประเทศสู่เกษตรมูลค่าสูงภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรฐานราก เกษตรฐานโลก”

(พรรคประชาธิปัตย์)-ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แถลงข่าว วาระประเทศไทย ครั้งที่ 4 “ปชป. กับนโยบายเกษตร” นำโดย นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์, ม.ร.ว. ศศิพฤนท์  จันทรทัต อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์  กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการขนาดใหญ่ ณ ห้องประชุมชั้น 3 พรรคประชาธิปัตย์ อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เล็งเห็นว่า เกษตรคืออนาคตของประเทศและเป็นดีเอ็นเอ (DNA) ของพรรคจึงมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปภาคเกษตรเพื่อให้เกษตรกรเข้มแข็ง เกษตรไทยแข็งแกร่งจึงกำหนดเป้าหมายของนโยบายเกษตรทันสมัยภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรฐานราก เกษตรฐานโลก”และยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต 1.ประเทศไทยต้องเป็นมหาอำนาจอาหารโลก Top10 2.เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น 100 % และ3.เพิ่ม GDP เกษตรเป็น 10% 

นโยบายเกษตรทันสมัยของพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 จึงกำหนด 26 นโยบายสำคัญๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการยกระดับอัพเกรดภาคเกษตรสู่การบรรลุเป้าหมาย เช่น ต่อยอดประกันรายได้จ่ายส่วนต่าง เกษตรแปลงใหญ่ 3 ล้าน เติมทุนชาวนา 3 หมื่นต่อครัวเรือน องค์กรประมงท้องถิ่น1แสน ตอบแทน อาสาสมัครเกษตร1พันต่อเดือน ธนาคารหมู่บ้านชุมชน2ล้าน ปรับลดปลดหนี้พักหนี้เกษตรกร ปลดล็อก”พรก.ประมง" 

วางรากฐานใหม่เกษตรอุตสาหกรรมจัดตั้งฟู้ดวัลเลย์(Food Valley) 18 กลุ่มจังหวัด มหานครผลไม้   รับเบอร์วัลเลย์ ฮาลาลฟู้ดปาร์คและศูนย์เทคโนโลยีนวัตกรรมทุกจังหวัด ส่งเสริมเกษตรอัจฉริยะเกษตรกรรมยั่งยืนเกษตรอินทรีย์ เกษตรแม่นยำ5 ล้านไร่ ขยายศูนย์ปุ๋ย-น้ำชุมชนและชลประทานตำบล พัฒนาโลจิสติกส์และระบบห่วงโซ่ความเย็น ส่งเสริมอาหารแห่งอนาคต อาหารฮาลาล ปฏิรูปปศุสัตว์-ประมงครบวงจร  ปฏิรูปธกส. ปฏิรูปกระทรวงเกษตรฯ เป็นต้น

“พรรคประชาธิปัตย์สร้างเงินจากการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ให้ประเทศและเกษตรกรกว่า5ล้านล้านบาทในช่วง4ปีที่ผ่านมา สร้างประวัติศาสตร์ส่งออกทุเรียนทะลุแสนล้าน ทำให้ภาคเกษตรมีจีดีพีไตรมาสแรกของปีนี้เติบโตถึง 5.5% เป็นมูลค่าเกือบ2แสนล้านบาท เราจะสานงานต่อก่อนงานให้เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 100% ก้าวข้ามความยากจนก้าวพ้นหนี้สินด้วย26นโยบายเกษตรทันสมัยของพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 พรรคขวัญใจเกษตรกร2ปีซ้อน จากผลงานทำได้ไวทำได้จริงที่พิสูจน์แล้ว”นายอลงกรณ์ กล่าว

นโยบายเกษตรทันสมัย 26-26 พรรคประชาธิปัตย์

4ปีที่ผ่านมาที่พรรคประชาธิปัตย์ดูแลกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภายใต้ยุทธศาสตร์”ตลาดนำการผลิต เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด”สามารถสร้างเงินสร้างรายได้ให้ประเทศและเกษตรกรจากการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ กว่า 5  ล้านล้านบาท เฉลี่ยปีละ 1.39 ล้านล้านบาท ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารอันดับ 13 ของโลก
   อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 ภาคเกษตรมีสัดส่วนประมาณ 8.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วน 32.1% และภาคบริการมีสัดส่วน 59.4% และ 30 %ของครัวเรือนเกษตรอยู่ใต้เส้นความยากจนติดกับดักหนี้สินเพราะความไม่แน่นอนของรายได้และราคาสินค้าเกษตร อีกทั้งการส่งออกสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ยังเป็นสินค้ามูลค่าต่ำมีการแปรรูปสร้างมูลค่าน้อย
   พรรคประชาธิปัตย์เล็งเห็นว่า ภาคเกษตรคืออนาคตของประเทศจึงมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปภาคเกษตรอย่างต่อเนื่องเพื่อให้”เกษตรกรเข้มแข็ง เกษตรไทยแข็งแกร่ง”จึงกำหนดเป้าหมายของนโยบายเกษตรภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรฐานราก เกษตรฐานโลก 2030 “
1.ประเึไทยต้องเป็นมหาอำนาจอาหารโลกTop10
2.เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น 100 %
3.เพิ่มGDPเกษตรเป็น 10%
ขับเคลื่อนด้วย3 กลยุทธ์เกษตรของพรรคประชาธิปัตย์
1. เปลี่ยนเกษตรกรยากจน เป็นเกษตรกรร่ำรวย
2. เปลี่ยนเกษตรดั้งเดิมสู่เกษตรทันสมัยรายได้สูง
3. เปลี่ยนเมืองเกษตร เป็นเมืองอาหาร
ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์เกษตรของพรรคประชาธิปัตย์
1.ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต
2.ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 5.0
3.ยุทธศาสตร์ เกษตรปลอดภัย เกษตรกรรมยั่งยืน
4.ยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมเกษตร
5.ยุทธศาสตร์เกษตรฐานราก เกษตรฐานโลก
ทั้งนี้จะสร้าง 5 ฐานใหม่ให้กับเกษตรกรและภาคเกษตร
1.สร้างฐานแปรรูปอุตสาหกรรมเกษตรใหม่
โดยเปลี่ยนเมืองเกษตร เป็น เมืองอาหาร
ส่งเสริมการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร18กลุ่มจังหวัด และเขตเศรษฐกิจเกษตร(Zoning)ทุกจังหวัด
2.สร้างฐานรายได้ใหม่เป็นเกษตร 4 ประเภท
1.เกษตรอาหาร
2. เกษตรพลังงาน 
3.เกษตรท่องเที่ยว 
4.เกษตรสุขภาพ
3.สร้างฐานตลาดใหม่
ยกระดับราคาสินค้าเกษตร
1.ตลาดออนไลน์(E-commerce) ตลาดประมูลออนไลน์และออฟไลน์
2.ขยายตลาดใหม่ๆในต่างประเทศ
3.สร้างแต้มต่อด้วยFTAและMini-FTAข้อตกลงการค้าเสรี
4.สร้างฐานสินค้าใหม่ 
เข่น อาหารแห่งอนาคต ( Future Food) เกษตรอินทรีย์ และอาหารฮาลาล( Halal Food) สร้างแบรนด์สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์
5.สร้างฐานแปลงเกษตรใหม่
เช่น ยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ 10,000 แปลง และเกษตรแม่นยำ(Precision Agriculture) 5 ล้านไร่

นโยบายเกษตรทันสมัยของพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 จึงกำหนด 26 นโยบายสำคัญๆเพื่อเป็นเครื่องมือในการยกระดับอัพเกรดภาคเกษตรสู่การบรรลุเป้าหมาย
1.    ต่อยอดโครงการประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง
เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด 
2.    ยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ 3 ล้าน (พืช ประมง ปศุสัตว์)
3.    เติมทุนชาวนา30,000 บาทต่อ 1 ครัวเรือน
4.    ฟรีนมโรงเรียน 365 วัน เพื่อส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและสุขภาพเด็กนักเรียน
5.    สนับสนุนองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นอย่างน้อย 2,800 กลุ่มๆละ 100,000 บาทต่อปี 
6.    ธนาคารหมู่บ้านและธนาคารชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาท ส่งเสริมสินเชื่อเงินออมชุมชน
7.    ปลดล็อก พรก.ประมงภายใต้กติกา IUU โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบจบใน 90 วัน จัดตั้งสภาการประมง และกองทุนประมง พัฒนาศักยภาพประมงพื้นบ้านประมงพาณิชย์ประมงนอกน่านน้ำและอุตสาหกรรมประมง
8.    ออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลง ภายใน 4 ปี ออกกรรมสิทธิ์ทำกินให้เกษตรกรในที่ดินของรัฐทุกประเภท กระจายการถือครองที่ดิน ปฏิรูปที่ดิน ธนาคารที่ดิน โฉนดชุมชน
9. พัฒนาปศุสัตว์ครบวงจร ยกระดับกีฬาประเพณีท้องถิ่นสู่มาตรฐานใหม่ เช่น วัวลาน วัวชน ตีไก่ประกวดนก 
10. ค่าตอบแทนอาสาสมัครเกษตร 1,000 บาทต่อเดือน
11.    แก้หนี้ แก้จน ปรับลดปลดหนี้พักหนี้ 4 ปีอย่างมีวินัย ปฏิรูปธกส.  ปฏิรูประบบสินเชื่อ-เงินฝาก-ดอกเบี้ย พัฒนากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรและกองทุนเกษตรอื่นๆ
12. จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอาหาร 18 กลุ่มจังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษทางการเกษตรทุกจังหวัด นิคมอุตสาหกรรมยาง(Rubber Valley) นิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล
13. ยกระดับศูนย์เทคโนโลยีเกษตร นวัตกรรมและเครื่องจักรกล(Agritech Innovation  and Machine Center) 
14. พัฒนาพันธุ์พืช พันธุ์ประมง และพันธุ์ปศุสัตว์เพื่อเพิ่มผลผลิตและตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ยกระดับศูนย์ข้าวชุมชน
15. ส่งเสริมเกษตรอัจฉริยะ เกษตรแม่นยำ เกษตรออนไลน์ เกษตรกรรมยั่งยืนตำบล เกษตรอินทรีย์ เกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง เกษตรคาร์บอนต่ำเพิ่มรายได้ลดโลกร้อน 
16. พัฒนาโลจิสติกส์เกษตร เชื่อมเกษตรไทย เชื่อมตลาดโลก
17.    ประกันภัยพืชผล ประมงและปศุสัตว์
18. ส่งเสริมพลังงานทดแทนทุกรูปแบบในภาคการเกษตรเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพ พลังงานชีวมวลและพลังงานแก๊สชีวภาพ ฯลฯ
19. ส่งเสริมอาหารแห่งอนาคต เกษตรอินทรีย์และอาหารฮาลาล
20. การบริหารจัดการน้ำมิติใหม่ ชลประทานอัจฉริยะ ขยายเขตชลประทานเป็น 50 % พัฒนาแหล่งน้ำใหม่ ชลประทานตำบล ธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบส่งน้ำแบบใหม่ เพิ่มแก้มลิงและสระน้ำในพื้นที่เกษตรของเกษตรกร
21. ยกระดับการบริหารจัดการผลไม้และจัดตั้งมหานครผลไม้
22.     ส่งเสริมสถาบันเกษตรกรซื้อปุ๋ยตรง เพิ่มศูนย์บริการดิน-ปุ๋ยชุมชนหมู่บ้านตำบล ปุ๋ยสั่งตัด เพิ่มการผลิต ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก 5 ล้านตัน
23.     พัฒนาสหกรณ์ เพิ่มกองทุนพัฒนาสหกรณ์ 
24.    ส่งเสริมสถาบันเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน เกษตรกรรุ่นใหม่ แม่บ้านเกษตร สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี.เกษตร อกม.และศพก. ยกระดับมาตรฐานวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเกษตร เพิ่มวิทยฐานะชำนาญเฉพาะทาง  คุณวุฒิวิชาชีพเกษตรกรและการศึกษาการเกษตรมิติใหม่ พัฒนาวิทยาลัยประมง เดินเรือ เพาะเลี้ยง  
ปศุสัตว์ สัตวแพทย์ สัตวบาล
25.    โลจิสติกส์เกษตรและระบบห่วงโซ่ความเย็น เชื่อมเกษตรไทย เชื่อมตลาดโลก
26.    ปฎิรูปกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ให้เป็นกระทรวงที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีโดยโครงการดิจิตอล ทรานสฟอร์เมชั่น(Digital Transformation).