Infor Cars

หอฯแปดริ้วดันให้หันใช้พลังงานทดแทน มุ่งลดมลภาวะหนุนการท่องเที่ยว 



ฉะเชิงเทรา-หอการค้าฉะเชิงเทรา ดันคนแปดริ้วหันใช้พลังงานทดแทนมุ่งลดมลภาวะ ช่วยสร้างบรรยากาศสู่เมืองน่าเที่ยว น่าอยู่ น่าลงทุน จัดทำโครงการหนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้า กระตุ้นการตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อม ขณะผู้ผลิตและจำหน่ายนำส่วนแบ่งที่ได้จากยอดขายมอบเป็นกองทุนช่วยเหลือผู้ขาดโอกาสมีรายได้น้อยในสังคม

วันที่ 1 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายคณิตศร นิ่งเจริญวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอนด์เลส อีโค่ จำกัด บริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจาก จ.นครปฐม ซึ่งได้เข้ามาเป็นสมาชิกหอการค้า จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากได้เข้ามาลงทุนเปิดศูนย์บริการและจำหน่ายในพื้นที่ว่า ทางบริษัทได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการใช้มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า ที่จัดขึ้นโดยหอการค้า จ.ฉะเชิงเทรา ให้เป็นโครงการนำร่อง ซึ่งถือเป็นการช่วยส่งเสริมให้เกิดสภาวะแวดล้อมที่ดีต่อ จ.ฉะเชิงเทรา

โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ได้นำมาจำหน่ายและนำเข้าร่วมโครงการของรัฐบาลนั้นมีจำนวน 7 รุ่น ทั้งขนาด 1,000 วัตต์ 2,000 วัตต์และ 3,000 วัตต์ ที่จะได้รับส่วนลดจากทางรัฐบาลเป็นเงินจำนวน 18,000 บาทต่อคัน โดยในการเข้ามาร่วมโครงการกับทางหอการค้านี้จะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากโครงการมอบให้เป็นทุนสำหรับหอการค้า เพื่อนำไปพัฒนาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยใน จ.ฉะเชิงเทรา 

สำหรับราคาจำหน่ายรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าของทางบริษัทนั้นเริ่มต้นที่ 47,000 บาทในรุ่น 1 พันวัตต์ หลังหักส่วนลดจากรัฐบาลลงแล้วจะเหลือราคาเพียง 28,000 บาท ส่วนรุ่นอื่นๆ นั้นจะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4 -6 หมื่นบาทตามลำดับ โดยที่รถขนาด 1 พันวัตต์นั้นจะวิ่งได้ระยะทางประมาณ 60 กม. ทำความเร็วได้ประมาณ 60-70 กม.ต่อชั่วโมง ขณะที่ขนาด 2 พันวัตต์มีจำนวน 2 รุ่น คือ รุ่นแรกทำความเร็วได้ประมาณ 70-90 กม./ชม. และมีอีกรุ่นที่วิ่งได้ระยะทางไกลมากขึ้นเป็น 120 กม. ทำความเร็วสูงสุดได้ 90 กม.ต่อ ชม.

นอกจากนี้ยังมีรุ่นสำหรับแกร็บฟู้ด เดลิเวอรี่ ขนาด 3 พันวัตต์ ที่สามารถทำระยะทางวิ่งได้ไกลสูงสุดประมาณ 140 กม. และทำความเร็วได้ประมาณ 90-100 กม.ต่อ ชม. ซึ่งมีราคาจำหน่ายอยู่ที่คันละ 63,040 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ลดลงตามโครงการสนับสนุนจากรัฐบาลแล้ว จากราคาเดิมอยู่ประมาณ 82,000 บาท ขณะที่จุดเด่นของผลิตภัณฑ์รถมอเตอร์ไซดืไฟฟ้านั้น เป็นแบรนด์เดโก้ (Deco) จากไต้หวัน ที่นำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบภายในประเทศไทย

โดยมีชิ้นส่วนอะไหล่บางชิ้นผลิตภายในประเทศ จึงมีคุณภาพดีทั้งแบตเตอรี่ มอเตอร์ และกล่องควบคุมที่ผ่านการวิจัยมาแล้วว่า สามารถทำงานได้โดยที่จะไม่เกิดการเสียหายระหว่างการใช้งาน จากการใช้ระยะเวลาในการพัฒนามานานกว่า 5-10 ปี ในการเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย เพื่อให้เหมาะต่อสภาพการใช้งานในประเทศไทยรวมถึงอุปนิสัยของคนไทยโดยเฉพาะ ที่ไม่เหมือนกับคนในต่างประเทศ โดยจุดที่สำคัญ คือ แบตเตอรี่ลิเธียมที่มีคุณสมบัติด้านน้ำหนักเบาและมีรอบการชาร์จที่สูงกว่ารวมถึงตัว EMS ที่คอยควบคุมให้อยู่ในมาตรฐานไม่โอเวอร์เวิร์คตัวเอง 

ทั้งยังใช้สายไฟฟ้าที่ใหญ่จึงไม่มีปัญหาเรื่องโอเวอร์ฮีทหรือเป็นไปได้ยาก ทำให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น อีกทั้งในด้านการเซอร์วิสนั้นสามารถรับประกันสินค้าได้ เนื่องจากมีโรงงานอยู่ภายในประเทศ จึงมีอะไหล่ที่สามารถเปลี่ยนให้แก่ลูกค้าได้ตลอดเวลา ทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะไม่ทอดทิ้งลูกค้าและสามารถดูแลหลังการขายได้เป็นอย่างดี สำหรับสิทธิพิเศษของผู้เข้าร่วมโครงการจะได้สิทธิประโยชน์เป็นเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจำนวน 18,000 บาท ต่อคัน นายคณิตศร กล่าว

ด้านนายจิตรกร เผด็จศึก ประธานหอการค้า จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การจัดโครงการส่งเสริมการใช้มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าในครั้งนี้ สอดคล้องกับการพัฒนา จ.ฉะเชิงเทรา สู่เมืองอัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นรูปธรรม ช่วยลดมลภาวะจาก PM 2.5 ในการเป็นเมืองน่าเที่ยวน่าอยู่น่าลงทุนไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้จริงๆ โดยผู้เข้าร่วมโครงการซื้อรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าทุกคัน จะได้รับส่วนลดในราคาพิเศษ และจะมีการให้บริการหลังการขายให้เป็นกรณีพิเศษ 

โดยผู้ใช้สามารถนำรถเข้ามาชาร์จแบตเตอรี่ฟรีได้ตลอดที่ศูนย์บริการและจำหน่ายของทางบริษัทฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และทางบริษัทผู้จำหน่ายรายนี้ยังจะได้สนับสนุนเงินส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า นำมามอบให้เป็นกองทุนเพื่อใช้ในการช่วยเหลือส่งเสริมการประกอบอาชีพแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ในขณะเดียวกันผู้เข้าร่วมโครงการยังจะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นเงินอุดหนุนจากภาครัฐจำนวน 18,000 บาทต่อคันด้วย นายจิตรกร กล่าว

สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา