Think In Truth

เหลียวหน้าแลหลังรัฐนาวานายกฯคนที่30 โดย : หมาเห่าการเมือง



หลังจากการโหวตรับรองการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ผ่านไป และผลการโหวตก็เป็นที่ทราบกันแล้วว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดท คนที่ 1 ของพรรคเพื่อไทยได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมันก็มีบ้างที่ต้องผิดหวัง เจ็บปวด และก็มีบ้างที่สมหวัง ได้ปลื้ม ตรงนั้นเราคงไม่หยิบยกขึ้นมาให้สะกิดอารมณ์ เพราะหลายคนยลตามช่อง ต่างคนต่างมองย่อมเห็นต่างกัน สิ่งเท่าเราทำได้คือเคารพต่อมุมมองของเขา ซึ่งอาจจะเห็นหรือไมไม่เห็นด้วยนั่นคือมุมมองของเรา ที่เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปตัดสิน ในมาตรฐานทางความคิดของเรา เพราะสังคมมีมาตรฐานในการตัดสินถูกผิดอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ตรงเสียทีเดียว เพราะเป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่ เมื่อมันถูกตัดสินแล้ว เราก็มากำหนดหรือวิเคราะห์ในการที่จะก้าวไปข้างหน้า ในมุมมองต่างๆ กันไป เพื่อให้สังคมได้เก็บมุมมองเหล่านั้นไปตกผลึกทางความคิดของตนเอง ในการกำหนดวิธีการดำเนินไปข้างหน้า

รัฐนาวาภายใต้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นายเศรษฐา ทวีสิน จะมีรัฐมนตรีคนใด จากพรรคไหน มาร่วมในการบริหารเป็นคณะรัฐมนตรีบ้างนั้น ก็คงเป็นลำดับต่อไป เพราะที่แน่ๆ เราได้นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 แล้ว และจะมีรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล ส่วนรายละเอียดเบื้องลึกอย่างไรนั้นก็คงปล่อยให้เป็นกระบวนการของพรรคร่วมรัฐบาลเขาได้ดำเนินกันไป ซึ่งนั่นคือหน้าที่คนไทยก็ต้องคอยเฝ้าดูช่วยกันแนะ ประคับประคอง ช่วยกันทำ ช่วยกันป้องกัน และช่วยกันแก้ไข ร่วมรับผลประโยชน์และร่วมภาคภูมิใจ บ้านเมืองจึงจะเดินหน้าไปได้ด้วยความเจริญ ก่อนที่เราจะร่วมลงเรือรัฐนาวาภายใต้ใต้ก๋ง เศรษฐา ทวีสิน เรามาช่วยกันเตรียมความพร้อม ในการร่วมชะตากรรมบนเรือรัฐนาวาลำนี้กัน

ภาษิตอีสานเขาเขียนได้เพื่อเตือนให้ตั้งสติเพื่อความพร้อมไว้ดังนี้

“คันสิเทียวทางกว้าง  ให้หาฮ่มบังหัว  คันสิไปทางไก  ไถ่ถงให้มีพร้อม

คันสิเทียวทางเวิ้ง  ให้หาทิงบั้งใหญ่  คันสิขึ้นต้นไม้  ให้เบิ่งหม่องบ่อนสิลง

คันสิไปทางหน้า  ให้เหลียวหลังเบิ่งก่อน  คันหากเป็นมะลึดทึดเท่า  เซาถ่อนอย่าสิไป” 

นี่เป็นภาษิตอีสาน ที่ถูกเขียนไว้เมื่อนานมาแล้ว ซึ่งก็บอกไม่ได้ว่าใครเป็นผู้เขียน รู้แต่ว่ามีมาแต่สมัยโบราณแล้ว เป็นภาษิตไว้เตรียมความพร้อมในการทำงาน ที่เขียนเปรียบเปรยกับการดำเนินชีวิตง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน แต่มีความลึกชึ้ง ยิ่งกว่าการทำ SWOT Analysis ในการศึกษาความเป็นไปได้ Feasibility Study และบทประพันธ์ที่เป็นสุภาษิตอีสานบทนี้ น่าจะได้มาจากนิทานาดกพระเจ้าสิบชาติ ในชาติที่ห้า ตอนพระมโหสถ โดยความหมายของบทประพันธ์ภาษิตอีสานบทนี้ มีดังนี้

“คันสิเทียวทางกว้าง ให่หาฮ่มบังหัว” แปลเป็นภาษากลางว่า ถ้าจะเดินทางไปในถิ่นแดนกว้าง ให้หาร่มมามากางบังศรีษะ หมายความว่า การที่เราจะทำการใหญ่นั้น เราจะต้องหาผู้มีอำนาจที่เหนือกว่าขึ้นไปมาคอยเป็นร่มเงา ที่ปรึกษา หรือคอย่วยเหลือคุ้มภัยในบางโอกาส ซึ่งเชื่อว่า นายเศรษฐา ทวีสิน น่าจะมีความพร้อมในเรื่องนี้แล้ว โดยประเมินจากการโหวตรับรองการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

“ คันสิไปทางไก  ไถ่ถงให้มีพร้อม” ในภาษากลาง คือ ถ้าจะเดินทางไกล ให้เตรียมกระเป๋าให้พร้อม หมายความว่า หากจะต้องทำงานใหญ่แล้วยังต้องใช้เวลาในการทำงานที่ยาวนาน ต้องมีการเตรียมแผนการทำงาน สำภาระ คนทำงาน เครื่องมือ พร้อมทั้งงบประมาณในการทำงาน กระบวนการทำงาน รวมทั้งความเข้าใจในแผนงานและกระบวนการทำงานของคนทำงานให้พร้อม

“คันสิเทียวทางเวิ้ง  ให้หาทิงบั้งใหญ่” ภาษากลาง คือ ถ้าจะเดินทางกว้าง ต้องเตรียมกระบอกน้ำขนาดใหญ่ นั่นหมายความว่า ถ้าจะทำงานใหญ่ ต้องเตรียมเงินก้อนโตให้พร้อม นั่นหมายถึงเงินสำรอง เงินลงทุน เงินดำเนินการ และเงินในหมวดการเงินต่างๆ ให้พร้อม

“ คันสิขึ้นต้นไม้  ให้เบิ่งหม่องบ่อนสิลง” ภาษากลาง คือ ถ้าจะปีนต้นไม้ ต้องดูทางลงด้วย หรือที่เราเข้าใจกัน “ขึ้นหลังสือต้องรู้วิธีลงจากหลังสือ” นั่นเอง นั่นหมายความว่า ตอนนี้นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ขึ้นไปแล้ว แล้วก็ไม่นู้หรอกว่า ได้ดูทางลงไว้แล้วหรือยัง ว่าจะลงอย่างไรจึงจะปลอดภัย จะลงอย่างไรจึงจะได้รับความื่นชมจากประชาชน จะลงอย่างไรจึงจะทำให้คนยังคิดถึงอยู่

“คันสิไปทางหน้า  ให้เหลียวหลังเบิ่งก่อน” ภาษากลาง คือ ถ้าจะไปข้างหน้า ให้หันกลับมามองข้างหลังก่อน หมายความว่า ก่อนที่จะทำอะไร ให้ศึกษาอดีดในเรื่องนั้นๆ ให้รู้อย่างแจ่มแจ้ง และทำความเข้าใจปัจจุบันนี้มันเป็นอย่างไร สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันได้รับผลจากอดีดอย่างไร เพื่อให้เรากำหนดอนาคตว่าจะให้มันเกิดอะไรแล้วจะทำอย่างไรมันจึงจะเกิดสิ่งนั้นในอนาคต

“ คันหากเป็นมะลึดทึดเท่า  เซาถ่อนอย่าสิไป” ภาษากลางคือ ถ้าบรรยากาศมันอึมครึม ให้หยุดอย่าไป หมายความว่า ความตั้งใจที่อยากจะทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้าบรรยากาศในการทำงาน สภาพแวดล้อม ความพร้อมในการทำงาน ไม่มีความพร้อม มีบรรยากาศที่อึมครึม ไม่มีความชัดเจน ว่าตามภาษาทางวิาการ ว่า ศึกษา Feasibility แล้ว ไม่ Sig ก็ให้หยุดคิดที่จะทำ ทำไปแล้วจะเสียมากกว่าได้  หรือไม่ก้เสียอย่างเดียวไม่มีได้  ต่อประเด็นนี้ ผู้ใหญ่หรือที่ปรึกษาท่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ ก็คงจะมีเมตตาในการให้คำแนะนำที่ดิน ในการตัดสินใจจะทำหรือไม่ทำ

วันนี้จึงขอหยิบยกภาษิตอีสานมอบให้ไว้แด่ ท่านนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 คณะรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาลของไทยไว้เป็นเครื่องมือเตือนในการทำงาน ขอมอบไว้ให้กับประชาชนคนไทย ได้เตรียมความพร้อมในการโดยสารร่วมในรัฐนาวา ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นกัปตัน และขอมอบให้พรรคฝ่ายค้านได้เตรียมความพร้อมในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างมีความตรงไปตรงมา ให้รัฐบาลสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับบ้านเมือง โดยไม่เอาอคติและเป้าหมายในการล้มรัฐบาลเพื่อเปลี่ยนขั้วอำนาจในหรือยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ นอกจากสุดวิสัยที่จะปรับกระบวนการทำงานของรัฐบาลให้ประโยชน์กับประเทศ หรือประเทศจะเสียหายหนักถ้าหากยังปล่อยให้รัฐบาลดันทุรังดำเนินงานต่อ ขอให้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้ปฏิบัติงานโดยยึดเอาประโยชน์ของประเทศชาติและประชานเป็นสำคัญ