Think In Truth

บล็อกเชน(Blockchain)ของดีที่ถูกด้อยค่า โดย : หมาเห่าการเมือง



บล็อกเชน (Blockchain) คือ ฐานข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (decentralized ledger) ที่ใช้บันทึกข้อมูลต่างๆ ไว้อย่างถาวรและไม่สามารถแก้ไขได้ ข้อมูลบนบล็อกเชนจะถูกบันทึกไว้เป็นชุดข้อมูล (block) เชื่อมต่อกันเป็นโซ่ (chain) ทำให้ข้อมูลทุกรายการถูกบันทึกไว้อย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้

ตัวอย่างการใช้งานบล็อกเชน เช่น

  • เงินดิจิทัล เช่น Bitcoin, Ethereum
  • การซื้อขายสินค้าและบริการ
  • การทำธุรกรรมทางการเงิน
  • การจัดเก็บข้อมูล
  • การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
  • ข้อดีของบล็อกเชน ได้แก่

ความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ข้อมูลบนบล็อกเชนสามารถตรวจสอบได้โดยทุกคน ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลมีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ

ความปลอดภัยสูง ข้อมูลบนบล็อกเชนถูกเข้ารหัสอย่างแข็งแกร่ง ทำให้ไม่สามารถแก้ไขหรือแฮกได้

ประสิทธิภาพสูง บล็อกเชนสามารถประมวลผลธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ข้อจำกัดของบล็อกเชน ได้แก่

  • ความซับซ้อน เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อน ทำให้อาจเป็นเรื่องยากสำหรับประชาชนทั่วไปที่จะเข้าใจและใช้งาน
  • ความพร้อมใช้งาน เทคโนโลยีบล็อกเชนยังไม่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้อาจมีปัญหาด้านความพร้อมใช้งานของอุปกรณ์และซอฟต์แวร์

บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูง สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับหลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับนโยบายเงินดิจิทัลของรัฐบาลเศรษฐ1 ได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากมีคุณสมบัติหลายประการที่ตรงกับความต้องการของนโยบายดังกล่าว ดังนี้

  • ความโปร่งใสและตรวจสอบได้ บล็อกเชนเป็นระบบบันทึกข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (decentralized ledger) ทำให้ข้อมูลทุกรายการถูกบันทึกไว้อย่างถาวรและตรวจสอบได้ ทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าเงินดิจิทัลของตนจะได้รับการจัดการอย่างโปร่งใสและยุติธรรม
  • ความปลอดภัยสูง บล็อกเชนใช้อัลกอริธึมการเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง ทำให้ข้อมูลบนบล็อกเชนไม่สามารถถูกแก้ไขหรือแฮกได้ ทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าเงินดิจิทัลของตนจะปลอดภัย
  • ความเร็วและประสิทธิภาพ บล็อกเชนสามารถประมวลผลธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายเงินดิจิทัลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

นอกจากนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชนยังสามารถช่วยรัฐบาลประหยัดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการเงินดิจิทัลได้อีกด้วย เนื่องจากระบบบล็อกเชนไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางกลางในการดำเนินการธุรกรรม ทำให้รัฐบาลสามารถลดต้นทุนในการดำเนินการชำระเงินและแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลได้

อย่างไรก็ตาม การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนกับนโยบายเงินดิจิทัลของรัฐบาลเศรษฐ1 ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ต้องพิจารณา ดังนี้

  • ความซับซ้อน เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและอาจเป็นเรื่องยากสำหรับประชาชนทั่วไปที่จะเข้าใจและใช้งาน
  • ความพร้อมใช้งาน เทคโนโลยีบล็อกเชนยังไม่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ทำให้อาจมีปัญหาด้านความพร้อมใช้งานของอุปกรณ์และซอฟต์แวร์

ทั้งนี้ รัฐบาลควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้กับนโยบายเงินดิจิทัล

การเตรียมความพร้อมนำบล็อกเชนมาใช้ในการบริหารจัดการเงินดิจิทัลตามนโยบายเงินดิจิทัล10000บาทของรัฐบาล สามารถทำได้โดยพิจารณาจากข้อจำกัดของเทคโนโลยีบล็อกเชนข้างต้น ดังนี้

1.ความซับซ้อน รัฐบาลควรมีแผนการสื่อสารและสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าใจและใช้งานเงินดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.ความพร้อมใช้งาน รัฐบาลควรส่งเสริมให้ภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปพัฒนาอุปกรณ์และซอฟต์แวร์เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนให้แพร่หลายยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้งานเงินดิจิทัลได้อย่างสะดวก

นอกจากนี้ รัฐบาลควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

  • กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลควรมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้รองรับการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการบริหารจัดการเงินดิจิทัล
  • โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี รัฐบาลควรมีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการใช้งานเงินดิจิทัล เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและเครือข่ายคอมพิวเตอร์

โดยสรุป การเตรียมความพร้อมนำบล็อกเชนมาใช้ในการบริหารจัดการเงินดิจิทัลตามนโยบายเงินดิจิทัล10000บาทของรัฐบาล รัฐบาลควรดำเนินการดังต่อไปนี้

  • สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชน
  • ส่งเสริมให้ภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปพัฒนาอุปกรณ์และซอฟต์แวร์เกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชน
  • ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
  • ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี
  • นอกจากนี้ รัฐบาลควรศึกษาและทดลองนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการบริหารจัดการเงินดิจิทัลในวงจำกัดก่อน เพื่อประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยก่อนที่จะนำมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ

บล็อกเชน (Blockchain) เป็นเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมมากในการนำมาสู่การบริหารจัดการนโยบายเงินดิจิทัล 10000 บาทของรัฐบาลเศรษฐา1 แต่กลับมีเสียงคัดค้านจากหลายภาคส่วน ซึ่งหลักการในการคัดค้านก็เป็นเพียงความรู้สึก และอธิบายโดย Solution ในการใช้งานของ Application ที่เข้าไปใช้ฐานข้อมูล บล็อกเชน (Blockchain) เท่านั้น นั่นหมายถึง ความพร้อมทางด้านบุคคลากรในการบริหารจัดการยังไม่พร้อม หรือเพราะยังไม่มีการจัดสรรประโยชน์ในการร่วมในการบริหารจัดการเทคโนโลยี่ บล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งจำเป็นต้องมีการเอาความจริงมาพูดกันเพื่อร่วมกันในการแก้ปัญหาและพัฒนา หากเราขากแคลนบุคลากรด้านดทคโนโลยี บล็อกเชน (Blockchain) เราสามารถนำเข้าแล้วมาเรียนรู้ได้อย่างไร หากยังจัดสรรประโยชน์ของฝ่ายลงทุนด้านเทคโนโลยี บล็อกเชน (Blockchain) จะต้องมีการจัดสรรอย่างไร หรือการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) มีผลกระทบกับส่วนได รัฐจะเยียวยาอย่างเหมาะสมอย่างไร ที่สอดคล้องกับผละประโยชน์ที่ประเทศาติจะได้รับ หวังว่าท่านผู้รู้ ผู้ลงทุน ผู้บริหารจัดการ จะมองความสมดุลที่เป็นผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ