Think In Truth

'องค์บาป'ตอน: ลงทะเลตามหาเรือดำน้ำ โดย ฟอนต์ สีดำ



การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (28ก.ย.66) นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสด ให้นายสุทิน คลังแสง รมว.กระทรวงกลาโหมตอบ กรณีการแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์เรือดำน้ำ โดยส่วนตัวเห็นว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการจัดการคลัง ควรใช้โอกาส เดินทางไปประเทศจีน ยกเลิกสัญญา และ ขอค่าชดเชย เพราะเงิน 7,000 ล้านบาทที่จ่ายไปแล้ว เมื่อมีการผิดสัญญา อย่าดันทุรัง เอาเงินมาทำอย่างอื่นจะดีกว่า ที่มาจากสำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์

เสียงตระโกนถามลั่นสภา  “เรือดำน้ำ กูอยู่ไหน” พร้อมกับการโชว์ตัวของไอ้หนุ่ม จิรัฏฐ์ ณ บางมังกง ยืนผงาดอยู่กลางสภา ท่ามกลางสายตาของฝ่ายตรงข้าม ที่คอยระแวดระวัง และกำลังเพ่งพิศว่า ได้หนุ่มคนนี้ จะมาไม้ไหน ดูอาการที่ตระโกนถามถึงเรือดำน้ำ มันช่างไม่น่าไว้ใจ หรือไอ้หนุ่มคนนี้ มันพกความสงสัยและเล่ห์เหลี่ยมเชิงยุทธ์ ที่จะมาไถ่ถามถึงข้อมูลเรือดำน้ำ ที่ทางผู้ยินยอมให้หน่วยบัญชาการทางทะเลส่งกองกำลังมาอารักขาลุงเทือก และร่วมแสดงละครมุดน้ำในถ้ำเพื่อช่วยนักฟุตบอลไอ้หนูหมูแฮม เมื่อภาระกิจสำเร็จแล้ว เรือดำน้ำมันเป็นของรางวัลที่ทำภาระกิจจบ แต่ไอ้หนุ่มจิรัฏฐ์ ณ บางมังกง เขามองว่ารางวัลที่มอบให้กองบัญชาการทางทะเล มันเป็นเงินที่เก็บมาจากคุณยายและญาติพี่น้องของเขา และการที่จะเอาไปซื้อเรือดำน้ำ ก็เป็นสิ่งที่ดี ทำให้คนบนฝั่งสบายใจ ที่มีกองกำลังทางทะเลมีอาวุธป้องกันชายฝั่ง แต่นี่มันเป็นเวลานานแล้วที่เอาเงินไป แต่ไม่เห็นแม้เงาของเรือดำน้ำ พอรู้อีกทีก็ทราบว่า อ้าว!!!...เรือเสร็จแล้ว แต่ไม่มีเครื่อง ก็เลยกลายเป็นความรู้สึกไม่ค่อยจะแฮปปี้กับการดำเนินการของจ่าฝูงกองกำลังป้องกันน่านน้ำทางทะเลนัก เขาหันมองยังหัวหน้าใหญ่ของจ่าฝูงกองทัพที่พึ่งมารับงานใหม่ ซึ่งก็ไม่เคยคุมนักเลงมาก่อน เพราะท่านเองก็มาจากพระสังฆาธิการ ไอ้หนุ่มจิรัฏฐ์ ณ บางมังกง ก็ไม่ไว้หน้าเช่นกัน เพราะมารับงานแล้ว สองแขนที่เยียดตรึง สองหมัดที่กำแน่น

พร้อมทั้งร้องถามขึ้นว่า “เรือดำน้ำ กูอยู่ไหน”

และก็หันมามองท่านประทานที่นั่งจดจ่อด้วยความตั้งใจฟัง ไอ้หนุ่มจิรัฏฐ์ ณ บางมังกง พูดออกมาว่า “เขาเอาเงินไป ไปทำสัญญาซื้อขายกันแล้ว จนป่านนี้ยังไม่ได้ ทำไมไม่ทำตามสัญญา ถ้าผิดสัญญาทำไมไม่ยกเลิก เครื่องก็ไม่มี จะเอาเครื่องให้ก็ผิดสเป็ค ไม่ตรงตามสัญญา ยังจะเอาอีกเหรอ จะเอาให้ได้เลยใช่ไหม??” แล้วเขาก็หันไปรอบรอบ

พร้อมกับบอกออกมาว่า “ได้ข่าวว่าจะไปคุยกับเยอรมัน เพื่อขอร้องให้เขาขายเครื่องยนต์ให้ อยากรู้จริงๆ หัวหน้าใหญ่กองทัพ กับนายใหญ่ เป็นตัวแทนขายเรือนดำน้ำให้บริษัทคู่สัญญาหรือไง??....ทำไมไม่ไปคุยกับจีน เพื่อยกเลิกสัญญา หรือตกลงในการหาทางออกกัน”

ไอ้หนุ่มจิรัฏฐ์ ณ บางมังกง ยังเปล่งเสียงออกมา บอกว่า “ท่านไม่รู้เลยหรือ??...ว่าระบบการสื่อสารมันมีระบบไม่เหมือนกัน ได้เรือมาก็ยังต้องมาแปลงระบให้เข้ากันจึงจะสื่อสารกันได้”

เออ...สรุปมันสื่อสารกันได้นี่นา เออ..เหมือนระบบแอนดรอยด์ กับไอโฟน กับวินโดว์ กับยูนิก สรุปแล้วมันสามารถทรานสเฟอร์ข้อมูลถึงกันได้ เพียงแค่มีสื่อกลางมาแปลงข้อมูล อืม....แล้วสงสัยได้หนุ่มคงมองว่าต้องใช้เงินจ้างล่ามมาแปลคงอย่างนั้นนะ ท่านหัวหน้าใหญ่ของจ่าฝูงกองทัพ ท่านก็ได้แต่นั่งฟังนิ่งๆ ยิ้มๆ อย่างเอนดู แล้วท่านประทานก็เชิญท่านหัวหน้าใหญ่ของจ่าฝูงกองทัพ ได้ชี้แจง ท่านหัวใหน้าใหญ่อดีท่านสังฆาธิการก็ลุกขึ้นพูดอย่างใจเย็น ว่า “ผมรู้สึกยินดีนะ ที่เพื่อนสมาชิกหนุ่มจิรัฏฐ์ ณ บางมังกง ได้ร่วมตรวจสอบการทำงานของกองทัพ ทั้งกองรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองรักษาความปลอดภัยทางเกวียน และกองรักษาความปลอดภัยทางท้องฟ้า เมื่อพบอะไรไม่ดี ไม่ถูกต้องก็เอามาพูดจากันในสภานี่แหละเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เรามาช่วยกันแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาให้ดีขึ้น เรื่องเรือดำน้ำ ก็ให้ใจเย็นนิดหนึ่งนะ มันมีปัญหาอะไร ปัญหานั้นก็จะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน” ไอ้หนุ่มจิรัฏฐ์ ณ บางมังกง ได้ยินดังนั้นจึงมีสีหน้าที่ชื้นขึ้นมา พร้อมทั้งลดมือลง และนั่งฟังอย่างสงบ

หังหน้าจ่าฝูงกองทัพก็พูดต่อว่า “ผมสัญญา ว่าปัญหาทุกปัญหา จะต้องได้รับการแก้ไข พร้อมทั้งสร้างความสบายใจให้กับทุกฝ่าย และจะทำให้ดีที่สุดในช่วงเวลาที่ผมดูแลอยู่นี้”

ท่านหัวหน้าใหญ่ของจ่าฝูงกองทัพ ยืนยืดอกอย่างสง่าผ่าเผย และเปล่งเสียงให้สัญญาในการที่จะจัดการกับปัญหาให้ออกมาดีที่สุด ดูท่าทีของท่านหัวหน้าใหญ่จ่าฝูงกองทัพี้แจงอย่างนุ่มนวล ครบถ้วนในสาระ ท่าทีที่จริงใจและอ่อนละมุน อย่างนี้ ก็อุ่นใจว่า ถึงแม้ว่าท่านจะไม่เคยคุมนักเลงมาก่อน การได้ตำแหน่งหัวหน้าใหญ่ของจ่าฝูงกองทัพ ท่านคงจะใช้บุคคลิกที่มีความเหมาะสม และท่าทีที่เป็นมิตร สามารถโน้มน้าวให้ทุกฝ่ายได้เห็นเจตนารมณ์ของท่านหัวหน้าใหญ่จ่าฝูงกองทัพ ได้ร่วมกันแก้ปัญหา และพัฒนากองทัพไปถึงขีดความสามารถที่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ และสร้างความอุ่นใจให้กับ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้าอา และทุกๆ คนได้อุ่นใจ แม้แต่ไอ้หนุ่มจิรัฏฐ์ ณ บางมังกง ยังมีสีหน้าที่คลายความกังวลและดูมีความหวังมากยิ่งขึ้น อยากเห็นสภาที่สร้างสรรค์แบบนี้ ฝ่ายหนึ่งเปิดข้อสงสัยให้กับสาธรณะได้ อีกฝ่ายก็ชี้แจงในข้อสงสัยนั้นให้กระจ่าง อย่านี้แหละที่ทุกคนอยากเห็นบรรยากาศของสภา