In Bangkok

ขยายผลBKK Zero Waste50เขตลดขยะ ตั้งเป้าปี69ลดขยะ1,000ตันต่อวัน



กรุงเทพฯ-“เรื่องการแยกขยะเป็นนโยบายที่ยากมาก เพราะประชาชนชอบบอกว่าถึงแยกไป เจ้าหน้าที่กทม.ก็เก็บรวมอยู่ดี การทำงานครั้งนี้ทำให้เห็นถึงความพยายามที่เป็นรูปธรรม หัวใจอยู่ที่รายละเอียดการใส่ใจว่าผู้ผลิตขยะมีพฤติกรรมอย่างไร และกทม.ก็ต้องปรับตัวเองตาม ต้องให้ความสะดวก โดยแยกประเภทพฤติกรรมของผู้ผลิตขยะให้ชัดเจน กำหนดเป้าหมาย ดำเนินการระยะยาว และหาวิธีในการขยายให้ครอบคลุมทุกเขต ขอบคุณทุกคนที่ได้มาร่วมกัน และเชื่อว่าต่อไปขยะจะกลายเป็นทองคำและสิ่งที่มีค่าได้”

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวขอบคุณภาคีเครือข่าย และมอบเกียรติบัตรให้แก่แหล่งกำเนิดที่เข้าร่วมโครงการและภาคีที่ปรึกษา ในงาน “สรุปผลการดำเนินโครงการ BKK Zero Waste ต่อยอดแคมเปญไม่เทรวม” ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา กทม. 2 ดินแดง วันนี้ (5 เม.ย.67) 

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาคีเครือข่าย จัดงานสรุปผลการดำเนินโครงการ BKK Zero Waste ต่อยอดแคมเปญไม่เทรวม ภายใต้โครงการพัฒนาเขตนำร่องการจัดการขยะมูลฝอยที่ต้นทางอย่างยั่งยืนในกรุงเทพมหานคร พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่หน่วยงานที่ร่วมส่งเสริมการจัดการปัญหาขยะมูลฝอยที่ต้นทาง ส่งเสริมให้นำทรัพยากรกลับมาใช้ประโยชน์ 84 แห่ง

นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร (Chief Sustainability Officer) ร่วมกล่าวถึง ความคืบหน้าการดำเนินโครงการไม่เทรวม ว่า  กทม. ให้ความสำคัญกับการลดขยะตั้งแต่ต้นทาง คัดแยก และนำไปใช้ประโยชน์ ควบคู่กับการรณรงค์ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการขยะ ณ แหล่งกำเนิด ตามนโยบายสร้างต้นแบบการแยกขยะต่อยอดให้การแยกระดับเขตสมบูรณ์ครบวงจรเกิดผลเป็นรูปธรรมและลดปริมาณมูลฝอยเศษอาหารที่ถูกทิ้งรวมมากับมูลฝอยทั่วไป ในปี 2566 กทม. ร่วมกับ สสส. และภาคีเครือข่าย พัฒนาโครงการ “BKK Zero Waste ต่อยอดแคมเปญไม่เทรวม” นำร่องใน 3 เขต ได้แก่ 1.หนองแขม 2.พญาไท 3.ปทุมวัน เน้นส่งเสริมให้สถานประกอบการและประชาชนคัดแยกขยะเศษอาหารตั้งแต่ต้นทาง ทำให้ในปี 2566 มีแหล่งกำเนิดที่เข้าร่วมโครงการ ในปี 66 จำนวน 2,805 แห่ง แยกขยะเศษอาหารได้ ทั้งหมด 22,140 ตัน หรือ 180 ตัน/วัน

“ในปีงบประมาณ 67 กทม. ตั้งเป้าลดขยะให้ได้ 200 ตัน/วัน และเพิ่มขึ้นในปี 68 เป็น 500 ตัน/วัน ปี 69 จำนวน 1,000 ตัน/วัน สำหรับในปีนี้มีหน่วยงานที่เข้าร่วม แบ่งเป็น ตลาด 184 แห่ง แยกเศษอาหารได้ 76 ตัน/วัน สถานศึกษา 457 แห่ง แยกเศษอาหารได้ 19.4 ตัน/วัน ห้างสรรพสินค้า 114 แห่ง แยกเศษอาหารได้ 23.3 ตัน/วัน และโรงแรม 136 แห่ง แยกเศษอาหารได้ 17.7 ตัน/วัน โดยในปี 66 พบว่าจำนวนขยะลดลงจากปี 65 เฉลี่ย 204 ตัน/วัน หรือ 74,460 ตัน/ปี หรือคิดเป็นเงิน 141,474,000 บาท สำหรับในเฟสต่อไปต้องดึงประชาชนมาเข้าร่วมโครงการให้มากขึ้น โดยใช้มาตรการทางด้านเศรษฐศาสตร์ หรือภาษี ค่าธรรมเนียม และต้องทำให้เห็นว่าเมื่อแยกขยะแล้ว กทม.ก็ไม่เทรวม”

รศ.ดร.พันธวัศ สัมพันธ์พานิช ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ผลการดำเนินงานโครงการ BKK Zero Waste ใน 3 เขตพื้นที่นำร่องพบว่า ปริมาณขยะจากแหล่งกำเนิดมีปริมาณลดลง 123.70 ตัน/วัน ปริมาณขยะฝังกลบลดลง 958.91 ตัน/วัน เทียบเท่ากับช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก 1,666.10 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ขณะนี้ได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางผ่านเว็บไซต์ bkkzerowaste.org แสดงผลการจัดการขยะที่ต้นทางเป็นรายเขต เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ ติดตาม ประยุกต์ใช้ และวางแผนเชิงนโยบายต่อไป พร้อมเตรียมจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้การจัดการขยะอินทรีย์ด้วยหนอนแมลงทหารดำที่สามารถกำจัดขยะอินทรีย์กว่า 200 ตัน/ปี ช่วยลดผลกระทบปัญหาสุขภาพของประชาชน และช่วยรัฐบาลลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะในระยะยาว
 
นายศรีสุวรรณ ควรขจร กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ขยะมูลฝอย นอกจากเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ยังก่อให้เกิดการปนเปื้อนของขยะพลาสติกลงสู่แหล่งน้ำ กลายเป็นไมโครพลาสติกกลับเข้าสู่ร่างกายส่งผลกระทบต่อสุขภาพรุนแรง สสส. ได้กำหนดให้การขับเคลื่อนงานลดผลกระทบสุขภาพจากมลพิษทางสิ่งแวดล้อมเป็น 1 ใน 7 เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ระยะ 10 ปี โดยมุ่งเน้นการลดและคัดแยกขยะมูลฝอยที่ต้นทาง ปรับพฤติกรรมลดสร้างและคัดแยกขยะ รวมถึงการจัดการขยะอย่างยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อสุขภาพของประชาชน

“กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ผลิตขยะมูลฝอยมากที่สุดในไทย สสส. สานพลัง กทม. ภาคีเครือข่าย พัฒนาองค์ความรู้ทางวิชาการพร้อมสนับสนุนชุดเครื่องมือด้านการจัดการขยะ ส่งเสริมให้บ้าน วัด โรงเรียน ชุมชน อาคาร สำนักงาน องค์กร โรงแรม และห้างสรรพสินค้าในพื้นที่นำร่อง 3 เขต เกิดการมีส่วนร่วมและมีจิตสำนึกพลเมืองลดการสร้างขยะและคัดแยกขยะที่ต้นทาง ทำให้เกิดวัสดุรีไซเคิลและขยะอินทรีย์ที่นำมาใช้ประโยชน์ซ้ำ 884.51 ตัน หรือคิดเป็น 14.86% ของปริมาณขยะทั้งหมด” นายศรีสุวรรณ กล่าว

ภายในงานมีพระมหานภันต์ สนฺติภทฺโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. สำนักงานเขตปทุมวัน เขตหนองแขม เขตพญาไท เขตดินแดง และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นเกียรติในกิจกรรม