In News

ครม.เคาะแล้ว!โคแสนล้านให้นำร่องก่อน ปลื้มจัดสงกรานต์สั่งลุยวันไหลพัทยาต่อ



กรุงเทพฯ-​นายกฯ เผยครม.เห็นชอบโครงการโคแสนล้าน ทดลองนำร่องบางจังหวัดก่อนขยายผลไปยังจังหวัดอื่น ต่อไป นายกฯ พอใจความสำเร็จการจัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่สื่อยกให้เป็น world class events สั่งการ ททท. จัดงานต่อเนื่องครึ่งหลังเมษาเทศกาลวันไหล เมืองพัทยา ขณะที่“รองนายกฯสมศักดิ์” ปลื้ม ครม.ไฟเขียว “โคแสนล้าน” “ขอบคุณ นายกฯเศรษฐา” เห็นความสำคัญเกษตรกร-ทำตามที่หาเสียง พร้อมเดินหน้าสร้างรายได้เสริม ให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน 100,000 ครอบครัว ย้ำ ผู้กู้ ไปเลือกซื้อโคเอง มั่นใจได้โคคุณภาพแน่นอน  ส่วนก่อนหน้านี้นายกฯได้พบปะหารือนายกฯนิวซีแลนด์และพบผู้แทนภาคเอกชนนิวซีแลนด์ มุ่งผลักดันการเจรจาการค้าร่วมกัน สร้างมูลค่าการค้าใน 4 สาขาศักยภาพ การเกษตร – พลังงาน – การศึกษา – การท่องเที่ยว

วันนี้ (18 เมษายน  2567)  เวลา 11.30 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านเสนอเรื่องโครงการโคแสนล้านนำร่อง ให้ใช้นำทดลองในบางจัดหวัดก่อนและรายงานผลให้ ครม. ทราบก่อนขยายตัวไปยังจังหวัดอื่น ๆ โดยกำหนดเงื่อนไขในการทำโครงการที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเสนอโดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เป็นผู้ให้กู้กับสมาชิกกองทุนโดยตรงและให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ เป็นผู้ซื้อแม่โคจากตลาดหรือฟาร์มในพื้นที่ไม่ใช่รัฐซื้อแจก ตรงส่วนนี้ได้มีข้อเสนอของทางรัฐมนตรีบางท่านเข้ามา โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการฯ ได้รับทราบและจะรวบรวมข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อนำไปปฏิบัติต่อไป

นอกจากนี้ นายกฯ กล่าวต่อไปว่าที่ประชุม ครม. ได้มีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 3.75 ล้านล้านบาท ตามที่สำนักงานงบประมาณเสนอ

นายกฯ พอใจความสำเร็จการจัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์ สั่งททท.จัดงานต่อเนื่องครึ่งหลังเมษาเทศกาลวันไหล เมืองพัทยา

นายเศรษฐา กล่าวถึงการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในภาพรวมถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี โดยในปีนี้มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสารธารณะเพิ่มขึ้น ทั้งการใช้บริการเดินทางด้วย บขส. เครื่องบิน และรถไฟ ทั้งนี้เพราะระบบขนส่งต่าง ๆ มีความพร้อม มีความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งต้องขอบคุณกระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยกันดูแลเรื่องความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในทุกจุดอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง สำหรับการจัดงานมหาสงกรานต์ ปี 2567 ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากกว่าหลายปีที่ผ่านมา หลายสื่อยกให้เป็น world  class events ทั้งนี้ได้มีการสั่งการให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดำเนินจัดงานต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของเดือนเมษายนนี้ เนื่องด้วยยังมีเทศกาลวันไหล ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี

นอกจากนี้ นายกฯ ได้กล่าวถึงการเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการลงโทษอย่างชัดเจน สำหรับสินค้าเกษตรที่มีการเผากันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศ และจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีการเน้นย้ำให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรรณ์ และกระทรวงการต่างประเทศ ให้มีการพูดคุยเน้นย้ำเรื่องนี้ เพราะเรามีการควบคุมไฟป่าในประเทศไทยได้บ้างพอสมควรแล้ว แต่ระยะหลังจะมีจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ

“รองนายกฯสมศักดิ์” ปลื้ม ครม.ไฟเขียว “โคแสนล้าน”

วันายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ได้มีมติเห็นชอบโครงการ”โคแสนล้าน”นำร่อง ตามที่ตน ในฐานะประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เป็นผู้เสนอ ซึ่งตนต้องขอขอบคุณ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่เห็นถึงความสำคัญในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เพื่อให้มีรายได้เสริม และเพียงพอต่อการใช้หนี้ เพราะต้องยอมรับว่า สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน กว่า 13 ล้านคน ส่วนใหญ่ยังเป็นหนี้ ดังนั้น การที่ ครม.เห็นชอบโครงการโคแสนล้านแล้ว ก็สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้ละเลยต่อปัญหาของพี่น้องประชาชน และกำลังทำตามแนวนโยบายที่หาเสียงไว้ให้กับประชาชนด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า โครงการโคแสนล้าน นำร่อง ครม.ได้เห็นชอบกรอบวงเงินสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. 5,000 ล้านบาท เพื่อให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ กู้ยืม 100,000 ครอบครัว ครอบครัวละ 50,000 บาท เพื่อนำไปซื้อโค จำนวน 2 ตัว โดย 2 ปีแรก ปลอดดอกเบี้ย เพราะรัฐจะช่วยชดเชยให้ในอัตราคงที่ร้อยละ 4.50 ต่อปี รวมเป็นเงิน 450 ล้านบาท ส่วนปีที่ 3 ปลอดชำระเงินต้น แต่ให้เริ่มชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 4.50 ต่อปี ส่วนปีที่ 4 ให้ชำระต้นเงินร้อยละ 50 ของวงเงินที่กู้ยืม พร้อมชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 4.50 ต่อปี และปีที่ 5 ชำระต้นเงินส่วนที่เหลือทั้งหมด พร้อมชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 4.50 ต่อปี

“โครงการโคแสนล้าน ถือเป็นการสร้างอาชีพเสริมให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถใช้เวลาว่างจากงานหลัก มาดูแลโคได้ โดยโค มีวิธีการเลี้ยงที่ไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาไม่มาก ซึ่งมีตัวอย่างชาวสุโขทัย เริ่มเลี้ยงโค 2 ตัว เป็นอาชีพเสริม ผ่านมา 4 ปี มีโคแล้ว จำนวน 10 ตัว หากคำนวนตามมูลค่า ตัวละ 25,000 บาท ก็จะมีมูลค่าถึง 250,000 บาท โดยจะเห็นได้ว่า เพียงพอต่อการใช้หนี้กองทุนหมู่บ้านฯ รวมถึงสามารถใช้หนี้สินส่วนตัวได้ด้วย ส่วนข้อกังวัลคุณภาพโคนั้น ผมขอเน้นย้ำว่า ประชาชน จะเป็นผู้ถือเงินไปเลือกซื้อโคคุณภาพด้วยตัวเอง จึงทำให้มั่นใจได้เลยว่า ผู้เข้าร่วมโครงการ จะได้โคคุณภาพไปขยายพันธุ์สร้างรายได้อย่างแน่นอน” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกฯ พบผู้แทนภาคเอกชนนิวซีแลนด์ มุ่งผลักดันการเจรจาการค้าร่วมกัน สร้างมูลค่าการค้าใน 4 สาขาศักยภาพ การเกษตร – พลังงาน – การศึกษา – การท่องเที่ยว

ก่อนหน้านี้เมื่อ 17 เมษายน 2567 นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ นำคณะผู้แทนภาคเอกชนนิวซีแลนด์ เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยมีผู้แทนระดับสูงของภาครัฐนิวซีแลนด์ พร้อมด้วยผู้แทนจากภาคเอกชนนิวซีแลนด์ จำนวน 8 บริษัท/หน่วยงาน ใน 4 สาขา ได้แก่ การเกษตรและอาหาร พลังงาน บริการและการศึกษา และเรือยนต์และการบิน โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ โดยสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะผู้แทนภาคเอกชนฯ โดยเชื่อมั่นว่าการเยือนครั้งนี้ ทุกฝ่ายจะได้หารือเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อขยายโอกาสทางการค้าการลงทุนระหว่างไทย – นิวซีแลนด์ โดยรัฐบาลได้ผลักดันนโยบายทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลายประการ ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และการปฏิรูปโครงสร้างระยะยาวเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย 

ด้านนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ชื่นชมนายกรัฐมนตรีของไทยที่มีบทบาทกระตุ้นความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ เป็นโอกาสสำคัญที่ได้นำผู้แทนจากภาคธุรกิจชั้นนำของนิวซีแลนด์ ในภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้ทราบถึงแนวทางการทำงานร่วมกันในอนาคต ซึ่งนิวซีแลนด์เชื่อมั่นว่าการบูรณาการความร่วมมือด้านการเกษตรจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้

ด้านการเกษตร บริษัท Fonterra สหกรณ์โคนมที่ใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ เห็นพ้องถึงการสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย หรือฟาร์มขนาดเล็ก การสร้างแหล่งทรัพยากรน้ำให้เพียงพอ และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการเกษตร เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างเท่าเทียมกัน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าหลักการสำคัญควรคำนึงถึงการสร้างความไว้วางใจ และการเพิ่มบทบาทให้กับเทคโนโลยีทางการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ บริษัท Fonterra ได้แนะนำถึงการทำงานร่วมกับบริษัทผลิตภัณฑ์นมขนาดใหญ่ในระดับโลกเพื่อสร้างตลาดและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ผ่านการรวมกลุ่มสหกรณ์รายย่อยทั้งหมด สู่สหกรณ์โคนมที่ใหญ่ระดับชาติเพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์นมไปยังต่างประเทศ

ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เห็นพ้องถึงแนวทางการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภาคเกษตรกรรม โดยไทยตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net-zero) ภายในปี ค.ศ. 2065 ซึ่งการทำนาข้าวของไทย เป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดก๊าซมีเทนด้วย ขณะที่นิวซีแลนด์กล่าวถึงการมี AgriZero NZ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับภาคอุตสาหกรรม รัฐบาล และเกษตรกร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2050 พร้อมทั้งลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากภาคปศุสัตว์ด้วยการสนับสนุนนวัตกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพต่าง ๆ เช่น การตัดต่อพันธุกรรมของหญ้าที่มีอัตราการปล่อยก๊าซต่ำ ซึ่งสามารถขายเชิงพาณิชย์ได้ โดยไทยพร้อมแลกเปลี่ยนแนวทางทั้งในด้านนวัตกรรมการเกษตรและการศึกษาวิจัย

ด้านพลังงานทดแทนและอุตสาหกรรม EV ไทยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและต้องการครอบคลุมระบบนิเวศทั้งหมด (Ecosystem) ทั้งการเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ แบตเตอรี่ และอื่น ๆ ที่สามารถผลิตจากวัตถุดิบในท้องถิ่นได้ ขณะที่บริษัทจากนิวซีแลนด์ เช่น บริษัท Morrison ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการลงทุน ให้ความสนใจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน การลงทุนในพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และแบตเตอรี่ในไทย บริษัท Hiringa Energy Ltd. บริษัทด้านพลังงานสีเขียวแบบครบวงจร ยินดีที่จะสนับสนุนบริษัทในไทยที่ต้องการพัฒนาพลังงานไฮโดรเจนในประเทศ 

ด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายพร้อมผลักดันให้เกิดเที่ยวบินตรงระหว่างไทย – นิวซีแลนด์อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยยกระดับการเชื่อมต่อระหว่างกันได้ทั้งในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนและการค้า โดย บริษัท Air New Zealand เห็นถึงขีดความสามารถในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศต่างเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวระหว่างกัน ขณะที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในปี 2567 นี้จะเป็นปีแห่งการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งมีทั้งเทศกาล คอนเสิร์ต และกิจกรรมด้านวัฒนธรรมไทยต่าง ๆ จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวได้อีกมาก

ด้านการศึกษา ทั้งสองฝ่ายหารือถึงการจัดตั้งโรงเรียนนานาชาติในไทย รวมไปถึงการจัดหลักสูตรและความร่วมมือทางสาขาวิชาชีพ การฝึกอบรมต่าง ๆ ทั้งในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย อาชีวศึกษา และมหาวิทยาลัย ซึ่งสำนักงานการศึกษานิวซีแลนด์พร้อมแลกเปลี่ยนความร่วมมือ ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักเรียนแลกเปลี่ยนของทั้งสองประเทศด้วย