In News
นายกฯบุกมหาสารคามตรวจงาน3อำเภอ ติดตามจัดการน้ำชียัน1อำเภอ1ทุนเกิดแน่

มหาสารคาม-นายกฯสวมชุดผ้าไหมลายฉลองมหาสารคาม 160 ปี เปิดงาน “ออนซอนกลองยาวชาววาปี ของดีพื้นบ้าน สืบสานตำนานเมืองวาปีปทุม 142 ปี” ย้ำเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทำให้ เศรษฐกิจของมหาสารคามเติบโตได้ ก่อนหน้านี้นายกฯ ยืนยันกับชาวมหาสารคาม "หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน - SML" เกิดขึ้นจริงแน่นอน และประชาชนได้ขอบคุณนายกฯ ลงติดตามการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำชี เป้าหมายแก้น้ำท่วมน้ำแล้ง พร้อมหว่านข้าวแปลงนาปรัง ขณะที่ชาวบ้านสวมกอดด้วยความดีใจพร้อมตะโกนลั่น “นายก สู้ๆ”
วันนี้ (20 ธันวาคม 2567) เวลา 15.40 น. ณ หน้าที่ว่าการอำเภอวาปีปทุม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ออนซอนกลองยาวชาววาปี ของดีพื้นบ้าน สืบสานตำนานเมืองวาปีปทุม 142 ปี” โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี นางสาวธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่และประชาชนราว 2,000 คน เข้าร่วม
นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า “ดีใจที่ได้มาพบพี่น้องชาว มหาสารคามทุกคน เมื่อเดินเข้ามาถึงบริเวณงานรับรู้ได้ว่าจังหวัดมหาสารคามมีงานครึกครื้น นี่แหละที่เรียกว่า “ซอฟต์พาวเวอร์” อยากบอกกับพี่น้องประชาชนว่า รัฐบาลสนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์อย่างจริงจัง “กลองยาว” เป็นความน่าภูมิใจของชาวมหาสารคาม วันนี้ ตนเองสวมชุดผ้าไหมลายฉลองมหาสารคาม 160 ปี ต้องขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้ส่งเสื้อผ้ามาให้ตนสวมใส่ด้วยความภาคภูมิใจ “
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะให้ปี 2568 เป็นปีที่สามารถท่องเที่ยวได้ทุกเดือน โดยไม่อยากให้มีคำว่า โลว์ซีซั่น สำหรับจังหวัดมหาสารคาม กลองยาวเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจและจะเป็นไฮไลต์ที่จะชูของดีของเมืองมหาสารคาม รัฐบาลจะเร่งกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น และวันนี้มีสื่อมวลชนมาร่วมงานจำนวนมาก ขอให้ฟ้อนรำกันให้สวย ๆ เพื่อจะนำไปเผยแพร่ให้ชาวต่างชาติได้เห็นว่า"มหาสารคามน่าเที่ยว"
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ตีกลองยาว เปิดงาน อันเป็นสัญลักษณ์ของพิธีเปิดงาน“ออนซอนกลองยาวชาววาปี ของดีพื้นบ้าน สืบสานตำนานเมืองวาปีปทุม 142 ปี ”พร้อมรับชมการแสดง 2 ชุด ได้แก่ การแสดงกลองยาวชุด “เฉลิมฉลองออนซอนเมืองวาปีปทุม ครบรอบ 142 ปี จากกลองยาวคณะลูกปราชญ์และการแสดงฟ้อนรําจากคณะกรรมการพัฒนาสตรีอําเภอวาปีปทุม ชุด “สืบสานตํานานเมืองวาปีปทุม 142 ปี กลองยาวเฟื่องฟู”
โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังได้ร่วมฟ้อนรำกับคณะนางรำ ด้วย
นายกฯยืนยันกับชาวมหาสารคาม"หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน - SML" เกิดขึ้นจริงแน่นอน
เวลา 13.20 น. ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ต.ตลาด อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม นางสาวแพทองธาร ติดตามประเด็นโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (ODOS) และโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี นางสาวธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมคณะ
นายกรัฐมนตรีได้ร้บการต้อนรับจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยและนักศึกษาอย่างอบอุ่น โอกาสนื้ นายกฯ ได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการของมหาวิทยาลัย อาทิ ผ้าทอมหาสารคาม 14 ลาย สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน จักรวาลข้าวไทยเพื่อเกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวทาง BCG ชากิ่งหม่อน เป็นต้น โดยนายกรัฐมนตรีได้อุดหนุนเครื่องประดับเบญจรงค์มงคลเทวา ผลิตภัณฑ์ทวากันทระของนักศึกษา
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวพบปะนักเรียน นักศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคาม และประชาชน ภายในหอประชุมเฉลิมพระเกียรติว่า ดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มาเจอนักเรียน นิสิต นักศึกษา ขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น วันนี้เมื่อเดินเข้ามาก็มีโอกาสได้เห็นผลงานที่สร้างสรรค์ของนิสิตทุก ๆ คน หลาย ๆ ชิ้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญสร้างรายได้เพิ่มให้กับครอบครัวให้กับชุมชน ขอชื่นชมนิสิตที่นำความรู้ไปต่อยอด
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อถึง นโยบายทุนการศึกษา ที่เรียกว่า “หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน” หรือ (ODOS) ว่า รัฐบาลพยายามกระจายทุนการศึกษานี้ให้ลงไปถึง 878 อำเภอทั่วประเทศ รวมทั้ง 50 เขตของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้โอกาสนี้ไปถึงทุกพื้นที่ของประเทศไทย ไม่ใช่แค่ทุนสำหรับเรียนในประเทศเท่านั้น แต่เป็นทุนที่ไปเรียนต่างประเทศ โดยอยากให้เด็กที่เรียนปานกลางได้มีโอกาสไปเรียนที่ต่างประเทศ เรียน Summer Camp ช่วงปิดเทอมใหญ่ ได้ไปเรียนรู้ชีวิตรู้วัฒนธรรมต่าง ๆ เปิดโอกาสในการใช้ชีวิต ทั้งนี้ อยากให้ผู้ที่ได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ นำประสบการณ์ มาบอกต่อให้คนอื่น ๆ เพื่อให้มีแรงบันดาลใจ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายรูปกับนักเรียนนักศึกษา ซึ่งน้อง ๆ ต่างดีใจ ขอถ่ายรูปเซลฟี่เป็นที่ระลึก
จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ นั่งรถรางไปอาคารวัฒนธรรมสถาบันขงจื่อ เพื่อชมโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) อาทิ โครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านกำพี้ อ.บรบือ กลุ่มกระเป๋าสายทอง อ.กันทรวิชัย กลุ่มเสื่อกกไทบ้านแพง อ.โกสุมพิสัย เป็นต้น โดยได้รับมอบผ้ามัดหมี่ลายสร้อยดอกหมาก ผ้าลายประจำจังหวัดมหาสารคาม จากผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามเป็นที่ระลึก พร้อมชมการสาธิตทอเสื่อกก จากชาวบ้านกลุ่มหัตถกรรมบ้านแพง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีพบปะกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนชุมชนในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ย้ำถึงการลงพื้นเพื่อติดตามประเด็นการให้ทุน SML เพื่อพัฒนาศักยภาพของชุมชนและท้องถิ่น สิ่งสำคัญ คือ การพูดคุยของคนในหมู่บ้านชุมชน เพราะคนในชุมชนเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาในท้องถิ่นตนได้ดีที่สุดและรัฐบาลจะมาลงทุนให้ ย้ำว่า SML ปี 2568 มาถึงพี่น้องประชาชน และเกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอน
“วันนี้ที่มาพูดให้ฟังไม่ได้หาเสียง แต่มาพูดเรื่องจริง ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้า ตนเอง และ สส.ขอเป็นตัวแทนรัฐบาล ที่ต่างคนต่างทำงานอย่างหนักเพื่อประชาชน ขออวยพรในวันขึ้นปีใหม่ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง เดินทางปลอดภัย ได้อยู่ใกล้กับคนที่เรารัก แน่นอนว่าคิดเงินขอให้ได้เงิน คิดทองให้ได้ทอง จะรวยต้องได้รวย ” นายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพร
ชาวอีสานขอบคุณนายกฯ ลงติดตามการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำชี
เวลา 11.00 น. ณ ประตูระบายน้ำห้วยน้ำเค็ม (D5) กรมชลประทาน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม นางสาวแพทองธาร ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยลุ่มน้ำชี และบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมด้วย
นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายโครงการการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำชี-มูล และโครงการปรับปรุงพนังป้องกันตลิ่งและขุดลอกคลองระบายน้ำ (D5) ห้วยน้ำเค็ม ตำบลยางท่าแจ้ง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม โดยรองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวถึงการดำเนินโครงการดังกล่าวซึ่งแล้วเสร็จไปกว่า50 % คาดว่าจะดำเนินให้เสร็จสิ้นภายในปี 68 ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลา ซึ่งจะลงมาติดตามงานด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้น นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่เกษตรกรรม แปลงนา เพื่อรับฟังบรรยาย การใช้ประโยชน์จากการพัฒนา และการแก้ไขปัญหา และการทำนาปรัง โดยนายกรัฐมนตรี ลงมือหว่านข้าวพันธุ์ กข 89 ในแปลงนาปรังด้วยตนเอง
ตลอด 2 ข้างทางบริเวณ สะพานประตูระบายน้ำฯ มีประชาชนรอต้อนรับจำนวนมาก และส่งเสียงให้กำลังใจว่า“นายกฯ สู้ๆ ขอบคุณที่มาดูแลคนอีสาน”พร้อมปรบมือให้กำลังใจ และสวมกอดขอถ่ายรูปนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นกันเอง นายกรัฐมนตรียังรับมอบผ้าขาวม้า และกล่าวทักทายประชาชนด้วยรอยยิ้มตลอดสองข้างทาง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวทักทายประชาชนด้วยสำเนียงอีสานว่า สวัสดีจ้า สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคน รอกันนานไหม ร้อนหรือเปล่า แต่วันนี้ไม่ร้อนอากาศดี รู้สึกดีใจมาก ขอขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น ขอบคุณมากที่เป็นกำลังใจให้ทั้งตัวเอง และ สส.ทุกท่าน ถ้ามีปัญหาเดือดร้อนอะไรให้บอก สส.ได้หมดทุกคน เขาจะเป็นตัวแทนแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน วันนี้ดีใจมากที่สุด ปีนี้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งจะถูกแก้ไขอย่างเป็นระบบ
“วันนี้ มาตรงประตูน้ำจุดนี้ สมัยคุณพ่ออนุมัติงบประมาณมาสร้างประตูน้ำแห่งนี้ วันนี้ผ่านมา 20 ปี มาถึงลูกสาว ได้อนุมัติงบมาซ่อมแซมพอดี โดยรองอธิบดีกรมชลฯ ยืนยันว่าเสร็จปีนี้แน่นอน ดีใจที่จะเสร็จปีนี้ เพราะปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งจะได้ถูกแก้ปัญหาไป” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้สอบถามชาวบ้านถึง นโยบายของรัฐบาลเพื่อเกษตรกรและประชาชน อาทิ เงินช่วยเหลือ1,000 บาทต่อไร่ เงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนกลุ่มคนอายุ 60 ปี ถ้าลงทะเบียนไว้แล้ว รอรับเงินก่อนตรุษจีน ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีโดยตรง โอนทั้งหมดจำนวน 3 รอบ
“ใกล้จะปีใหม่แล้ว ขออวยพรให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะสุขภาพที่แข็งแรงคือพื้นฐานของทุกอย่าง ถ้าวันนี้สุขภาพแข็งแรง มีแรงทำต่อแน่นอน ปีหน้าขอให้รวย ๆ ทุกคน” นายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพร