Think In Truth

'ปัญญาบารมี'ที่มีเหตุผลเป็นสัจจะเหนือ ธรรมใดๆทั้งปวง  โดย: ฟอนต์ สีดำ



พระคาถาชัยมงคลคาถา บทที่หกมีว่า สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง,วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตังปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท, ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ฯ เป็นเรื่องยุทธวิธีในการเอาชนะการนำเสนอความเป็นเหตุเป็นผล อย่างมีความสัมพันธ์ของเหตุและปัจจัยตามหลักอิทปปจยตา ด้วยพระปัญญาบารมีที่เหนือกว่า เป็นที่ยอมรับมากกว่า  และเป็นข้อยุติที่ไม่สามารถโต้แย้งของเหล่านิครนถ์นอกศาสนาได้

เรื่องราวของการโต้วาทีระหว่างพระพุทธเจ้ากับสัจจกะนิครนถ์เป็นที่เล่าขานกันอย่างกว้างขวาง โดยสัจจกะนิครนถ์ได้ท้าทายพระพุทธเจ้าให้มาโต้วาทีด้วยความเชื่อมั่นในความรู้ของตนเอง แต่ผลปรากฏว่าสัจจกะนิครนถ์ไม่สามารถเอาชนะพระพุทธเจ้าได้ด้วยปัญญาและเหตุผลของพระองค์

เหตุผลที่พระพุทธเจ้าทรงชนะ

  • พระปัญญาอันลึกซึ้ง: พระพุทธเจ้าทรงมีพระปัญญาที่เหนือกว่าใครๆ ทรงสามารถมองเห็นสรรพสิ่งได้อย่างแจ่มแจ้งและเข้าใจธรรมชาติของความจริง
  • การใช้เหตุผล: พระพุทธเจ้าทรงใช้เหตุผลที่ถูกต้องและสมเหตุสมผลในการโต้ตอบ ทำให้สัจจกะนิครนถ์ไม่สามารถหาช่องโหว่ได้
  • ความสงบและเมตตา: แม้จะถูกท้าทายแต่พระพุทธเจ้าก็ทรงรักษาความสงบและเมตตาต่อสัจจกะนิครนถ์ ทำให้สัจจกะนิครนถ์เกิดความเคารพและเลื่อมใส

ผลของการโต้วาที

การโต้วาทีครั้งนี้ทำให้สัจจกะนิครนถ์ได้ตระหนักถึงความรู้ที่แท้จริงและเข้าใจธรรมะของพระพุทธเจ้ามากขึ้น แม้ว่าจะยังไม่ได้บรรลุธรรม แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการแสวงหาความรู้และความจริง

บทเรียนที่ได้จากเรื่องราวนี้

  • ความรู้ที่แท้จริง: ความรู้ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การจำหรือการโต้ตอบ แต่มาจากการเข้าใจธรรมชาติของสรรพสิ่ง
  • ความสำคัญของเหตุผล: การใช้เหตุผลที่ถูกต้องและสมเหตุสมผลเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาและในการโต้ตอบ
  • ความเมตตา: การมีเมตตาต่อผู้อื่นเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของผู้มีปัญญา

กรณีศึกษาในปัจจุบัน

  • พระพุทธทาส เจ้าคุณได้สอนธรรมตามหลักของพระไตรปิฎก จนขัดต่อผลประโยชน์ในวงการพุทธพาณิช ที่พระสงฆ์ในดงขมิ้นส่วนหนึ่งที่มีอำนาจในการบริหารคณะสงฆ์เกิดความไม่พอใจ จนต้องออกมาต่อต้านและกลั่นแหล่ง แต่ท่านก็ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อประเด็นเหล่านั้น ท่านก็ยังคงสอนธรรมตามแนวของท่าน ซึ่งก็ทำให้ผู้ไม่เห็นด้วยและคอยกลั่นแกล้งท่าน ไม่สามารถหยุดการทำหน้าที่พุทธทาสของท่านได้
  • พระสงฆ์ที่ยึดมั่นในพระธรรมวินัย ส่วนใหญ่จะถูกท้าทายด้วยวบากกรรมแห่งมาร แต่ท่านเหล่านั้นก็ผ่านวิบากกรรมเหล่านั้นมาได้ด้วยปัญญาบารมี ที่อยู่เหนือกิลเลสที่คอยก่ออวิชชา ให้เป็นเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดสัญญาและลำดับต่างๆ ตามปฏิจสมุปบาท และทุกท่านก็ผ่านพ้นวิบากกรรมเข้าสู่วิมุตติ ที่อุเบกขาด้วยนิพพาน
  • ฆารวาสสอนธรรม ไม่ว่า อ.เบียร์ ฅนสอนธรรม หรืออาจารย์สุจินต์ อาจารย์กล้วย หรือใครอีกหลายคน ที่อกมาสอนธรรม เมื่อมีกระแสแห่งการได้รับความนิยม ก็มักจะเผชิญกับวิบากกรรม ถูกคนบางกลุ่มต่อต้าน หรือท้ายทาย การที่จะเอาชนะมารเหล่านั้นได้ ก็ต้องมีปัญญาบารมีที่เหนือกว่า บนพื้นฐานแห่งความเมตตา

การพัฒนาคนเพื่อให้เป็นผู้มีปัญญาบารมี

การพัฒนาคนให้มีปัญญาที่แท้จริง มีเหตุผล และมีเมตตา ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สามารถนำไปสู่การเอาชนะ "มาร" ทั้งภายนอกและภายในได้นั้น เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง และประกอบด้วยหลายปัจจัย ดังนี้ครับ

1. การศึกษาหาความรู้:

  • ความรู้ทั่วไป: การศึกษาหาความรู้ในหลากหลายสาขาวิชา ช่วยให้เรามีพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับโลกและสิ่งรอบตัวมากขึ้น
  • ความรู้เฉพาะทาง: การเลือกศึกษาในสาขาที่สนใจ จะช่วยให้เราเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การเรียนรู้ตลอดชีวิต: การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง และแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ จะช่วยให้เราพัฒนาปัญญาและความคิดได้อย่างต่อเนื่อง

2. การฝึกฝนจิตใจ:

  • การทำสมาธิ: การฝึกสมาธิช่วยให้จิตใจสงบและมีสติ ทำให้เราสามารถคิดวิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างรอบคอบ
  • การศึกษาธรรมะ: การศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของความทุกข์และความดับทุกข์ ทำให้เราสามารถปล่อยวางอารมณ์ที่ไม่เป็นประโยชน์ได้
  • การฝึกฝนคุณธรรม: การฝึกฝนคุณธรรม เช่น เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ช่วยให้เราเป็นคนดี มีจิตใจที่งดงาม และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

3. การปฏิบัติตน:

  • การดำเนินชีวิตอย่างมีสติ: การตระหนักรู้ถึงการกระทำของตนเองในปัจจุบัน จะช่วยให้เราสามารถควบคุมตนเองได้ดีขึ้น
  • การคบคนดี: การคบหาสมาคมกับบุคคลที่มีคุณธรรม จะช่วยส่งเสริมให้เราเป็นคนดีขึ้นได้
  • การให้ทาน: การให้ทานไม่เพียงแต่ช่วยเหลือผู้อื่น แต่ยังช่วยให้จิตใจของเราเบิกบานและเป็นสุข

4. การเอาชนะมาร:

  • มารภายนอก: คือ อุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น ความยากลำบาก ปัญหาอุปสรรค การถูกวิจารณ์ การถูกหลอกลวง เป็นต้น การเอาชนะมารภายนอกได้นั้น เราต้องมีความอดทน มีความเข้มแข็ง และมีสติ
  • มารภายใน: คือ กิเลสตัณหา เช่น ความโลภ ความโกรธ ความหลง การเอาชนะมารภายในได้นั้น เราต้องฝึกฝนจิตใจให้บริสุทธิ์ และปล่อยวางสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่น

กระบวนการพัฒนาตนเองเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่สิ่งสำคัญคือการมีความตั้งใจจริง และปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเราสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง เราจะสามารถเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตได้ และบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้