Authority & Harm
คืบ!เจ้าอาวาสวัดที่สีคิ้วกร่างด่ากราดโยม ล่าสุดเจ้าคณะอำเภอลุยเองแต่ไร้เงา
นครราชสีมา-คืบหน้าพระโคราชกร่างด่ากราดชาวบ้านล่าสุดเจ้าคณะอำเภอลงพื้นที่เตรียมสอบสวนแต่ไร้เงาเจ้าอาวาสคาดหลบหนีออกจากวัด
วันที่ 22 มกราคม 2568 จากกรณีเมื่อวานนี้กลุ่มชาวบ้านตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นับสิบรายได้รวมตัวกันลงชื่อเพื่อเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อถอดถอนพระเจ้าอาวาสวัดหนองรี ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยชาวบ้านอ้างว่าเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวนั้นมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง เช่น เรื่องการพูดจาไม่เหมาะสมกับการเป็นพระโดยเฉพาะอยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาส ,ไม่ยอมให้ชาวบ้านตรวจสอบบัญชีวัด นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมที่ชอบไล่พระลูกวัดออกไปจากวัด จนทำให้ปัจจุบันนี้เหลือพระภายในวัดอยู่เพียงรูปเดียวก็คือตัวเจ้าอาวาสเอง และยังมีพฤติกรรมอีกหลายอย่างที่ทางชาวบ้านรู้แต่ยังไม่มีหลักฐานที่จะนำเสนอได้ ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่วัดหนองรี ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา อีกครั้งโดยพบว่าเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวได้หลบหนีออกจากวัดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดซึ่งได้ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งออกไปจากวัดในช่วงเย็นของเมื่อวาน โดยวันนี้ได้มีเจ้าคณะอำเภอเขต 1และ 2 ได้ลงพื้นที่ไปที่วัดเพื่อจะสอบสวนแต่พบว่ากุฏิของเจ้าอาวาสได้ปิดล็อคกุญแจไว้ซึ่งคาดว่าน่าจะหลบหนีไปแล้ว
ด้านพระครูอุดม ชัยสิริ รองเจ้าคณะอำเภอสีคิ้ว เปิดเผยว่า สำหรับวันนี้ทางคณะสงฆ์ได้เดินทางมาเป็นคณะกรรมการในฐานะปกครองพื้นที่อำเภอสีคิ้ว ซึ่งเป็นมติของพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาได้ลงมาตรวจสอบวัดหนองรี โดยวันนี้ได้มีการตรวจสอบและสอบสวนเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวที่ประพฤติไม่เหมาะสมเกี่ยวกับสงฆ์รูปนี้ ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร แล้วอีกเรื่องก็คือเรื่องเกี่ยวกับปัจจัยหลายอย่างในวัดที่ทางชาวบ้านหรือคณะสงฆ์เครือบแครงใจ จะให้ชี้แจ้งในประเด็นนี้ แต่ปรากฏว่ามาวันนี้ก็พบว่าเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวไม่อยู่วัด ซึ่งไม่ทราบว่าไปไหน ได้รู้จากทางชาวบ้านในพื้นที่ว่าหลบหนีไปแล้ว จึงไม่สามารถทำการสอบสวนได้ในวันนี้ อย่างไรก็ตามตามมติคณะสงฆ์ก็ต้องมาใหม่อีกทีในวันพรุ่งนี้ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะเจอตัวเจ้าอาวาสหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ได้ทราบข้อมูลว่าจะเจ้าอาวาสรูปนี้จะนำหลักฐานมาชี้แจ้งให้กับคณะสงฆ์ภายใน 2 วันก็อาจจะตั้งตารอรับเรื่องดังกล่าวนี้ไว้ด้วย หากจะมายืนหลักฐานดังกล่าวจริงๆเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ
ณัฐพงศ์ อรชร/ข่าวนครราชสีมา