Authority & Harm
เจ้าอาวาสกร่างแอบย่องกลับวัดกลางดึก เจอชาวบ้านดักทวงถามเผ่นขึ้นรถหนี
นครราชสีมา-เจ้าอาวาสกร่างย่องเงียบกลับวัดยามวิกาลเจอชาวบ้านดักทวงถามการชี้แจ้งเงินภายในวัดก่อนทนแรงกดดันไม่ไหวกระโดดขึ้นรถหลบหนี
วันที่ 23 มกราคม 2568 จากกรณีกลุ่มชาวบ้านตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นับสิบรายได้รวมตัวกันลงชื่อเพื่อเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อถอดถอนพระเจ้าอาวาสวัดหนองรี ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยชาวบ้านอ้างว่าเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวนั้นมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง เช่น เรื่องการพูดจาไม่เหมาะสมกับการเป็นพระโดยเฉพาะอยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาส ,ไม่ยอมให้ชาวบ้านตรวจสอบบัญชีวัด นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมที่ชอบไล่พระลูกวัดออกไปจากวัด จนทำให้ปัจจุบันนี้เหลือพระภายในวัดอยู่เพียงรูปเดียวก็คือตัวเจ้าอาวาสเอง และยังมีพฤติกรรมอีกหลายอย่างที่ทางชาวบ้านรู้แต่ยังไม่มีหลักฐานที่จะนำเสนอได้ ล่าสุดเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวได้กลับมาที่วัดในช่วงเวลา 22.00 น. โดยกลับมาพร้อมกับพระอีก 3 รูปพร้อมกลับมาเหมือนจะเก็บข้าวของภายในกุฏิก่อนชาวบ้านในพื้นที่จะรวมตัวเข้ามาตรวจสอบและทวงถามการชี้แจ้งเงินและปัจจัยภายในวัดในวันพรุ่งนี้ ซึ่งขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สีคิ้วเข้าดูแลความเรียบร้อยและตรวจค้นภายในตัวและกระเป๋าของเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวว่าได้เอาอะไรในกุฎิไปหรือมีสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ จนกระทั่งเจ้าอาวาสทนแรงกดดันไม่ไหวได้กระโดดขึ้นรถสีดำนิลสันมาสสีดำเลขทะเบียน งธ 4647 นครราชสีมา หลบหนีออกจากวัดไป ในระหว่างขึ้นรถทางผู้สื่อข่าวก็พยายามสอบถามทางเจ้าอาวาสว่าได้หายตัวไปไหนมากกว่า 2 วัน ทางเจ้าอาวาสเองก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามแต่อย่างใดและทำสีหน้าไม่พอใจผู้สื่อข่าวอีกด้วย
โดยนายเกษม พิมใส อายุ 65ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ในตอนแรกมีชาวบ้านก็พากันแจ้งมาว่าเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวได้กลับมาที่วัดและมาพร้อมพระอีก 3 รูป ตนจึงได้รีบไปดูและแจ้งชาวบ้านคนอื่นไป ซึ่งก็จะพากันไปทวงถามเรื่องการชี้แจ้งเงินและปัจจัยภายในวัด แต่ก็อยู่ได้ไม่นานทางเจ้าอาวาสเหมือนจะไม่อยากคุยก็ได้ขึ้นรถเก๋งออกไปจากวัดเหมือนเดิม ซึ่งระหว่างที่พูดคุยนั้นก็เหมือนว่าทางเจ้าอาวาสจะมาเก็บของในกุฎิด้วย ซึ่งเข้ามายามวิกาลแบบนี้ก็มีทางเดียวคือมาเก็บของและจะหลบหนี ในขณะเดียวกันชาวบ้านก็ทวงถามว่าจะมาชี้แจ้งไหมในวันพรุ่งนี้ ทางเจ้าอาวาสก็ไม่ได้รับปากอะไรจนกระทั่งขึ้นรถหลบหนีไปอีกรอบ
ด้านนายไพรัตน์ วาดเขียน อายุ 25 ปี ชาวบ้านที่ขับรถตามเจ้าอาวาสไป เปิดเผยว่า ตนก็อาสาขับรถตามรถเก๋งไปดังกล่าวไป แต่ด้วยความที่รถเก๋งขับเร็วมากและฝ่าไฟแดงไปอีกด้วย ทำให้ตนเองตามไปไม่ทัน ซึ่งตามไปได้ล่าสุดก็ไฟแดงใกล้ๆหลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าขับรถหนีไปทางไหนอีก ซึ่งทั้งนี้ก็งงว่าทำไมต้องหนี หากไม่มีความผิดจริงจะหนีไปทำไมก็ต้องอยู่รอและกลับมาชี้แจ้งให้ชาวบ้านเข้าใจ
ณัฐพงศ์ อรชร/ข่าวนครราชสีมา