ECO & ESG
ร.ผวจ.กาญจน์ประชุมบกปภ.ช.ติดตาม สถานการณ์และการแก้ไขปัญหาไฟป่า

กาญจนบุรี-จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เพื่อติดตามสถานการณ์ และการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
วันนี้(14 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมแควน้อยชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เพื่อติดตามสถานการณ์ และการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) พร้อมด้วย นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมรับฟังการประชุมทางไกลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Zoom Meeting) โดยมี นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานในการประชุมฯ ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
โดยในที่ประชุมได้มีการรายงานสถานการณ์ และคาดการณ์แนวโน้ม โดยกรมควบคุมมลพิษ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) และกรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานสถานการณ์ และคาดการณ์แนวโน้ม การรายงานผลการจัดการไฟในพื้นที่ป่า การจัดการไฟในพื้นที่เกษตร รวมไปถึงการจัดการฝุ่นละอองในเขตเมือง อีกทั้งรายงานการลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และการประชาสัมพันธ์ อีกทั้งติดตามสถานการณ์ และการรายงานผลการดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดตาก และจังหวัดเพชรบูรณ์
สำหรับจังหวัดกาญจนบุรี มีจุดความร้อนสะสม ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 2,387 จุด ซึ่งจุด hotspot ในพื้นที่ตำบลบ้องตี้ ตำบลวังกระแจะ และตำบลศรีมงคล ของอำเภอไทรโยค ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ บริเวณชายแดนติดกับประเทศเมียนมาร์ ซึ่งลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง มีกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยเคลื่อนไหวอยู่บริเวณสันเขาชายแดน จากการสอบถามกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ทราบว่าไฟลามมาจากเขาฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ยากแก่การควบคุมและเข้าไปดับไฟ จึงทำให้เกิดจุด hotspot ต่อเนื่องหลายวัน ซึ่งในห้วงที่ผ่านมาเคยนำกำลังไปป้องกันไฟลาม ได้ยินเสียงระเบิดเกิดขึ้น คาดว่าเป็นกับระเบิดที่ถูกวางไว้ จึงได้ถอนกำลังเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ โดยยังคงลาดตระเวนเฝ้าระวังในระยะที่ปลอดภัย และทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลาม ซึ่งมีการจัดตั้งจุดเฝ้าระวังไฟป่า พร้อมจัดชุดปฏิบัติการลาดตระเวนป้องกันไฟป่า ติดตาม ตรวจสอบการบุกรุก/การเผา และดับไฟป่า ประกาศปิดป่า และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมไปถึงพิจารณาตัดสิทธิให้ความช่วยเหลือหรือชดเชยต่าง ๆ จากภาครัฐกับราษฎรที่กระทำความผิดหรือฝ่าฝืนข้อกำหนด จัดทำแนวกันไฟบริเวณพื้นที่ล่อแหลม ติดกับพื้นที่การเกษตร ดำเนินการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เสี่ยงเพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิงและลดความรุนแรงของไฟเมื่อเกิดไฟป่า พร้อมทั้งเร่งสร้างการรับรู้ ปลุกจิตสำนึกให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย
พร้อมทั้งได้มีการ จัดการไฟในพื้นที่เกษตร (เขต สปก. /พื้นที่เกษตรกรรม/ไร่อ้อย) โดยพื้นที่เกษตรกรรมให้นายอำเภอสั่งการให้เกษตรอำเภอลงพื้นที่ตรวจสอบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่เกษตรกรรม และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการเผาให้เกษตรกร หากพบการกระทำผิดให้แจ้งความดำเนินคดี และหากไม่พบให้บันทึกเป็นหลักฐาน สำหรับการเผาอ้อย ให้เกษตรอำเภอตรวจสอบร่วมกับฝ่ายปกครอง สอบถามข้อมูลหัวหน้าโควตาและโรงงานรับซื้ออ้อยไฟไหม้ แจ้งอุตสาหกรรมจังหวัดและโรงงานน้ำตาลเพื่อหาวิธีแก้ไข พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจแปลงเกษตรกรและกำหนดมาตรการดำเนินคดีหากพบการเผา สำหรับพื้นที่เขต สปก. ประกาศห้ามเผาในทุกพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม – 31 พฤษภาคม 2568 หากตรวจพบเหตุเผา หรือจุดความร้อนแล้วตรวจพบว่าเกษตรกรผู้ได้รับอนุญาตเป็นต้นเหตุทำให้เกิดเพลิงไหม้ จะดำเนินการตักเตือน และแจ้งรายชื่อตัดสิทธิเข้าร่วมโครงการ/มาตรการช่วยเหลือของทางราชการ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ
ซึ่งได้มีการลงบันทึกประจำวันไปจำนวน 11 ครั้ง และจัดทำหนังสือแจ้งเตือน ไปจำนวน 42 ครั้ง และการจัดการฝุ่นละอองในเขตเมือง มีการตั้งด่านตรวจ ดำเนินการตรวจรถ ตาม พรบ.ขนส่ง จำนวน 493 คัน ดำเนินการแจ้งเตือน 26 คัน ระงับการใช้งาน 12 คัน และรถตาม พรบ.รถยนต์ (อาทิ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล) จำนวน 410 คัน ค่าควันดำเกิน 2 คัน ซึ่งได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับ รวมไปถึงการจัดการฝุ่นละอองในเขตเมือง (ภาคอุตสาหกรรม โรงงาน/ชุมชน) จากการลงพื้นที่ตรวจสอบกำกับดูแลโรงงาน พร้อมทั้งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ (Kick off) “หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา” จำนวน 13 โรงงาน ไม่สนับสนุนให้มีการรับซื้ออ้อยที่มีการเผาเข้าสู่โรงงานน้ำตาล พร้อมทั้งปิดโรงงาน จำนวน 1 โรงงานเนื่องจากประกอบการแปรรูปพลาสติก โดยไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี อีกทั้งจังหวัดกาญจนบุรี ได้จับกุมผู้ฝ่าฝืนประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาดในทุกพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ประจำปีงบประมาณ 2568 ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ 2568 มีการลงบันทึกประจำวันไปแล้วกว่า 56 ราย ดำเนินคดี 7 ราย และตักเตือน 8 ราย รวมทั้งสิ้น กว่า 71 ราย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี : ข่าว/ภาพ