In News

นายกฯสั่งเข้มเหตุผู้รับเหมาทำชุ่ยซ้ำชาก 'สุริยะ'พลิ้ว!อ้างรอสมุดพกเสร็จเม.ย.นี้



กรุงเทพฯ-นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายกับผู้รับเหมาที่กระทำความผิดอย่างเคร่งครัด ย้ำไม่ต้องกลัวถูกฟ้องกลับมอบหมายให้พิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพิ่มบทลงโทษ วางกรอบป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซาก 'สุริยะ'เต้นตามน้ำ รับข้อสั่งการเดินหน้าฟันโทษผู้รับเหมาหากพบผิด พร้อมดันมาตรการสมุดพกเสร็จ - บังคับใช้ เม.ย. 68 ลั่น! พร้อมเอาจริง ตัดแต้มลดชั้น - งดรับงาน

วันนี้ (17 มีนาคม 2568) เวลา 10.15 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานรับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง ถึงเรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนและเส้นทาง โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมทางหลวง อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และอธิบดีกรมบัญชีกลาง เข้าร่วมประชุม
 
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์คานเหล็กถนนพระราม 2 ในโครงการทางทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนองฯ ทรุดตัวทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เมื่อกลางดึกของวันที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้ลงนามสัญญาในรัฐบาลชุดปัจจุบัน แต่รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นปัญหาและเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกระทรวงคมนาคมกำหนดบทลงโทษให้ชัดเจน เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นต้องการให้รับผิดชอบทางแพ่งด้วย ในส่วนของที่ปรึกษาโครงการและผู้รับผิดชอบในวิชาชีพ จะต้องดูว่ามีการละเลยในขั้นตอนต่าง ๆ หรือไม่ และการควบคุมการก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐาน และตามข้อกำหนด ตามกฎเกณฑ์หรือไม่ ทั้งนี้ จะต้องรับผิดชอบทางอาญาด้วย ซึ่งจะต้องเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน รวมถึงต้องยึดใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือไม่ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง พร้อมกับตั้งโจทย์ว่าหากเกิดปัญหาขึ้นอีก จะมีผู้รับผิดชอบในด้านใดบ้าง

“อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น คือสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดการเสียชีวิต ชีวิตของคนมันไม่ควรจะเกิดแบบนี้ เพราะฉะนั้นต้องชัดเจน ในเรื่องของความรับผิดชอบต่าง ๆ ขอให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง” นายกรัฐมนตรี ย้ำ
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะต้องดูในรายละเอียดของการสอบสวนด้วยว่าเกิดขึ้นอย่างไร โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้ชัดเจน หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในอนาคต ไม่ต้องการให้ปล่อยผ่าน แล้วเกิดความรับผิดชอบเป็นครั้ง ๆ ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจริงจังกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำ ๆ อีก พร้อมกับกำชับเรื่องการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัด และเรื่องของความปลอดภัยของผู้สัญจร จะต้องให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก

“สุริยะ”พลิ้ว! อ้างรอมาตรการสมุดพกเสร็จเดือนเม.ย.นี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังจากการประชุมเรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนและเส้นทางคมนาคม โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม

โดยการประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการและกำชับให้กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้การกับกำดูแล หารือเพื่อเร่งมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุดในการดำเนินการก่อสร้างทุกโครงการ พร้อมกับเร่งจัดทำมาตรการการลงโทษที่รุนแรงต่อผู้รับเหมาที่กระทำความผิด หากพบผิดจริงต้องพิจารณาไม่ให้ประมูลงานหรือยื่นรับงานอีกต่อไป 

ทั้งนี้ มาตรการที่เริ่มใช้ได้ทันทีระหว่างรอมาตรการสมุดพกผู้รับเหมาบังคับใช้นั้น คือพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 หมวด 12 มาตรา 109 นำไปสู่ลักษณะเป็นการทิ้งงาน     แต่อย่างไรก็ตามยังต้องดุลยพินิจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการตัดสินซึ่งต่างจากมาตรการสมุดพก หากเริ่มบังคับใช้ จะมีเงื่อนไขที่ชัดเจนในการตัดสินการลงโทษผู้กระทำความผิดทันที 

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมที่จะดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ได้เร่งทำมาตรการ “สมุดพกผู้รับเหมา” ให้แล้วเสร็จพร้อมบังคับใช้ได้ทันทีภายในเดือนเมษายน 2568 จากเดิมที่คาดแล้วเสร็จช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งมั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะใช้ได้ผลอย่างแน่นอน เนื่องด้วยหากมีผู้รับเหมากระทำผิด และโดนหักคะแนน จะไม่รับงานได้อีก ซึ่งมีผลต่อผลประกอบการบริษัทรายนั้น และส่งผลเชิงลบต่อการรับงานที่อื่น ๆ อีกด้วย 

สำหรับสาเหตุของคานสะพานก่อสร้างทรุดตัวบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนองของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเร่งตรวจสอบ คาดใช้เวลา 1 เดือน ถึงได้เห็นความขัดเจนของสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งบริษัทผู้รับเหมาและบริษัทที่ปรึกษา หากผลสอบพบกระทำผิดจริง จะดำเนินคดีอาญาทันที