In News

บสย.ประกาศลดดอกเบี้ยPrime Rateอีก เหลือ5.85%ต่อปีหนุนSMEsเริ่มแล้ววันนี้



กรุงเทพฯ-ลูกค้า บสย. ฟังทางนี้ ประกาศลดดอกเบี้ย Prime Rate ครั้งที่ 2 ของปี เหลือ 5.85% ต่อปีหนุน SMEs ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ – เริ่มแล้ววันนี้

วันนี้ (15 พฤษภาคม 2568)  เวลา 08.30 น. นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 2.00% เหลือ 1.75% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และสถานการณ์การค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากการปรับลดดังกล่าว 

บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ลงอีก 0.05% ต่อปี เหลือ 5.85% ต่อปี ซึ่งนับเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในปัจจุบัน เพื่อบรรเทาภาระทางการเงินของผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ระหว่างกระบวนการชำระหนี้จากการจ่ายเคลม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ บสย. ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ไปแล้ว 0.15% ต่อปี เหลือ 5.90% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2568  โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 2.00% เหลือ 1.75% ต่อปี เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจ

ปัจจุบัน บสย. ได้ดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้แนวทาง “บสย. พร้อมช่วย” หรือมาตรการ 3 สี ได้แก่ สีม่วง สีเหลือง และสีเขียว ซึ่งสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อลดภาระ ฟื้นฟู และแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน 

จุดเด่นของมาตรการนี้ คือ การขยายระยะเวลาชำระหนี้สูงสุดถึง 7 ปี การผ่อนชำระแบบเบาแรง “ตัดเงินต้นก่อนดอกเบี้ย” รวมถึงข้อเสนอพิเศษ เช่น ดอกเบี้ย 0% สำหรับบางกรณี เพื่อช่วยให้ลูกหนี้สามารถกลับมาอยู่ในระบบปกติได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีแนวทางการ “ปลดหนี้” โดย บสย. พร้อมให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น การลดเงินต้นสูงสุดถึง 30% และการยกเว้นดอกเบี้ยบางส่วน เพื่อเป็นการต่อลมหายใจและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมาเดินหน้าธุรกิจได้อย่างมั่นคง

“การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้สามารถประคองธุรกิจต่อไปได้ท่ามกลางความผันผวนของสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน 

รัฐบาลจะยังคงเดินหน้าในการสนับสนุนและฟื้นฟูผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนหยัดเคียงข้างประชาชนในทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันสร้างระบบเศรษฐกิจไทยที่เข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืนในระยะยาว” นางสาว ศศิกานต์ กล่าว