Travel Soft Power & Sport

'สรวงศ์'หารือรัฐ-เอกชนบูมเที่ยวเชียงใหม่ เปิดเส้นทางท่องเที่ยวสายมูเชียงใหม่



กรุงเทพฯ-รมว.สรวงศ์ หารือร่วม รัฐ-เอกชน เพื่อยกระดับเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามรอยศรัทธาจังหวัดเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 68 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ และโฆษกประจำกระทรวงการท่องเทึ่ยวและกีฬา, นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อหารือแนวทางการพัฒนาและยกระดับเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามรอยศรัทธาจังหวัดเชียงใหม่ (เส้นทางดอยสุเทพ : สวนรุกขชาติห้วยแก้ว-อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย-น้ำตกห้วยแก้ว-วัดผาลาด (สกิทาคามี)-วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร) ณ ห้องประชุมสถานีตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นความตั้งใจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ต้องการบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยว โดยการกระจายการท่องเที่ยวไปสู่เมืองรอง และเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิมของเชียงใหม่ให้เป็นรูทเส้นทางท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการสานต่อการดำเนินงานมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มาให้นโยบายไว้ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 7 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ , เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี , อุทยานหลวงราชพฤกษ์ , น้ำตกห้วยแก้ว , สวนสัตว์เชียงใหม่ , วัดพระธาตุดอยคำ และ โบราณสถาณเวียงกุมกาม

โดยในวันนี้เป็นการหารือแนวทางการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวในโซนน้ำตกห้วยแก้ว ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีเป้าหมายที่จะพัฒนาและยกระดับให้เส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามรอยศรัทธา หรือเส้นทางสายบุญ เป็นการเชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเข้าด้วยกัน ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และความต้องการจากภาคส่วนต่างๆในวันนี้ กระทรวงฯ จะนำไปบูรณาการร่วมกับกระทรวงต่างๆ แล้วนำมาขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยมีประเด็นหารือดังนี้ เรื่องการแบ่งแนวเขตพื้นที่และมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานให้ชัดเจน , การจัดระเบียบร้านค้าที่บริเวณศาลาจุดชมวิว และตั้งร้านค้าให้อยู่ในตำแหน่งแนวเขตที่ถูกต้อง,การจัดการขยะ , การจัดระเบียบจุดจำหน่ายสินค้าที่บริเวณหน้าวัดพระธาตุดอยสุดเทพฯ รวมถึงต้องการให้มีการพัฒนาทางเดินควบคู่ไปกับการปรับปรุงภูมิทัศทางธรรมชาติโดยให้อยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเส้นทางดังกล่าวด้วย