ชาวบ้านศรัทธาหลวงพ่อวัดไร่ขิงไม่เสื่อม ห่วงการสานต่อช่วยสังคมที่เคยเป็นมา 

วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 - 23:49 น.

---

นครปฐม-ชาวบ้านขอให้ตบเรื่องปัญหาโดยไว บางคนบอกเสียดายไม่คิดว่าจะเป็นเรื่อง แต่สุดท้ายคือยังมั่นคงต่อศรัทธาต่อหลวงพ่อวัดไร่ขิง ส่วนกระแสอดีตเจ้าคุณแย้มเป็นเรื่องส่วนตัว โดยตอนนี้ยังไม่ทราบใครจะมารักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อีกส่วนยังห่วงเรื่องการสานต่อโครงการต่างๆ ที่วัดเคยให้การสนับสนุนทั้งทางการแพทย์และการศึกษาในชุมชน 

วันที่ 15 พฤษภาคม 68 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหลังจากที่ พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ชื้อ หรือ จัดการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบัง หรือ ทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน , เป็นเจ้าพนักงาปฏิบัติหรือละเว้นการปติหน้าที่โดยมิชอบ และ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต” กรณีทุจริตยักยอกเงินจากบัญชีธนาคารของวัดโอนเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัว เพื่อนำไปเล่นพนันบาคาร่าออนไลน์ กว่า 300 ล้านบาท ได้ตัดสินใจยอมลาสิกขา สึกจากความเป็นพระ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้นำพระพุทธรูปเข้าไปในห้องสอบสวน เพื่อให้ใช้ทำพิธีลาสิกขาด้วยตนเอง ซึ่งทำให้การให้ปากคำเป็นไปอย่างคล่องตัวและชัดเจน 

โดยในช่วงเย็นที่ผ่านมา พระสงฆ์ ได้ลงมาทำวัดเย็นประมาณ 4-5 รูป ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบสงบ โดยมีรายงานว่ามีพระเลขาและพระที่มีความสนิทกับอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เดินทางไปให้การด้วย 2 รูป ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าไม่มีใครออกมาให้ข้อมูลหรือชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น และไม่ปรากฏคณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของวัดไร่ขิง พระอารามหลวงออกมาแจ้งหมายกำหนดการหรือให้ข้อเท็จจริงกับสื่อมวลชนที่เดินทางมาปักหลักเฝ้าติดตามสถานการณ์แต่อย่างใด โดยสื่อที่เข้ามาเกาะติดสถานการณ์ ได้มารอในส่วนที่อาจจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางเข้ามาตรวจสอบสอบภายในวัดไร่ขิง โดยเฉพาะที่กุฏิอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ส่วนบรรยากาศบริเวณพระอุโบสถที่ประดิษฐาน หลวงพ่อวัดไร่ขิง พบว่ายังมีประชาชนเดินทางเข้ามากราบขอพรและร่วมทำบุญอย่างต่อเนื่องแม้จะเป็นช่วงเย็น และมีการมาให้อาหารปลาที่แม่น้ำท่าจีนหลังวัด ซึ่งวัดไร่ขิงได้มีการเปิดสถานที่ไว้ให้ประชาชนเดินทางเข้ามากราบขอพรหลวงพ่อวัดไร่ขิงตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีการปิดประตู 

นายชยานนท์ นาคา อายุ 31 ปี บอกว่าวันนี้ได้เข้ามากราบหลวงพ่อวัดไร่ขิงตามปกติที่เคยได้ปฏิบัติกันมา ซึ่งตนเองเป็นคนพื้นที่ระแวกวัด พ่อกับแม่ได้มายกตนเองให้เป็นหลวงพ่อวัดไร่ขิง ซึ่งทราบข่าวที่เกิดขึ้นก็รู้สึกตกใจ ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีเรื่องราวกันแบบนี้ ส่วนตัวก็ไม่ได้หวั่นไหวเพราะจิตใจตั้งมั่นอยู่กับหลวงพ่อวัดไร่ขิงเป็นหลัก โดยกระแสชาวบ้านก็ยังให้ความศรัทธากับหลวงพ่อวัดไร่ขิงอย่างเหนียวแน่นเพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์  และแยกประเด็นกันกับอดีตเจ้าอาวาสที่กำลังมีประเด็น 

"ในฐานะลูกหลวงพ่อวัดไร่ขิง ผมก็คิดว่าตอนนี้อยากให้เรื่องที่ไม่ดีได้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และเชื่อว่าฟ้าหลังฝนย่อมดีกว่าเสมอ" นายชยานนท์ กล่าวปิดท้าย 

ขณะที่ ลุงช้าง เจ้าของร้านไก่ย่างลุงช้าง ตั้งอยู่ที่เข้าวัดไร่ขิง พระอารามหลวง บอกว่า เพิ่งทราบข่าวเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาและก็เพิ่งทราบว่า อดีตเจ้าคุณแย้ม ได้ลาสิกขาไปแล้ว ก็รู้สึกตกใจตอนแรกก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็คิดว่าน่าจะมีมูลอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็รู้สึกเสียดาย แต่ก็ต้องแยกออกระหว่างอดีตเจ้าอาวาสกับหลวงพ่อวัดไร่ขิง โดยในพื้นที่ส่วนใหญ่พ่อแม่จะนำเด็กผู้ชายมายกให้เป็นลูกหลวงพ่อวัดไร่ขิงกันทั้งหมด ซึ่งบอกได้ว่าท่านศักดิ์สิทธิ์และเรื่องนี้ไม่กระทบกับความศรัทธาแน่นอน

ลุงช้างบอกอีกว่า แต่ในส่วนอดีตเจ้าคุณแย้ม ที่ผ่านมาท่านก็ได้ช่วยเหลือสังคมรอบวัดไว้เยอะมากทั้งการพัฒนาวัดไร่ขิง การส่งเสริมสนับสนุนโรงพยาบาลวัดไร่ขิง (เมตตาประชารักษ์) โรงพยาบาลสามพราน โรงเรียนวัดไร่ขิง การพัฒนาถนนหนทางจนมีรถโดยสารเข้ามาถึงที่วัด ซึ่งพอมาเกิดเรื่องนี้ก็ต้องบอกว่าเสียดายจริงๆ 

ขณะที่นับจากการลาสิกขา ของอดีตเจ้าคุณแย้ม หลายคนได้จับตาว่าจะมีใครได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามารับเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง เนื่องจากยังไม่มีใครได้มีการคิดถึงเรื่องการเกิดคดีความมาก่อน ซึ่งยังมีส่วนที่จะต้องติดตามเรื่องของมูลนิธิของวัดไร่ขิง พระอารามหลวง เนื่องจากมีความเป็นห่วงในส่วนงานราชการหลายแห่งที่วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้เคยสนับสนุนไว้ทั้งโรงพยาบาลวัดไร่ขิง (เมตตาประชารักษ์) โรงพยาบาลสามพราน โรงเรียนวัดไร่ขิง และได้มีการก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรม รวมถึงอีกหลายโครงการซึ่งได้มีการปฏิบัติอยู่ในพื้นที่ ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป