Biz news

'คาร์เทียร์'ร่วมเชิดชูเกียรติผู้ได้รับรางวัล  Impact Awards2025



กรุงเทพฯ-โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น, 4 มิถุนายน 2568 – คาร์เทียร์จัดพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่ผู้ประกอบการหญิง 9 คนจากทั่วโลก ในงาน Impact Awards 2025 ณ ศูนย์ศิลปะการแสดงซาไกเพื่อยกย่องอดีตผู้ได้รับทุนโครงการ Cartier Women’s Initiative ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างผลงานอย่างเป็นรูปธรรมและผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20–23 พฤษภาคม ภายในงาน World Expo 2025 ณ เมืองโอซาก้า ภูมิภาคคันไซ โดยคาร์เทียร์มีส่วนร่วมออกแบบและจัดสร้าง Women’s Pavilion อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญ ภายใต้แนวคิด “Forces for Good” โดยในพิธีมอบรางวัล ได้สะท้อนความเชื่อมั่นของคาร์เทียร์ที่ว่า “เมื่อผู้หญิงก้าวหน้า มนุษยชาติก็ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน”

โดยตลอดระยะเวลากว่า 17 ปีที่ผ่านมา โครงการ Cartier Women’s Initiative มุ่งมั่นยกย่องและสนับสนุนผู้ประกอบการหญิงที่ใช้พลังของธุรกิจขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างเป็นรูปธรรม กว่า 330 ราย จาก 66 ประเทศทั่วโลก โดยมอบเงินทุนรวมกว่า 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการเพื่อสังคมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 500 คน

ปัจจุบัน โครงการ Cartier Women’s Initiative ได้เชิดชูเกียรติอดีตผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 9 ท่าน ที่ดำเนินการขับเคลื่อนธุรกิจของตนให้เกิดผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ได้รับรางวัล Impact Awards ประจำปีนี้ได้รับการคัดเลือกใน 3 สาขาหลัก ได้แก่ การพิทักษ์รักษ์โลก (Preserving Planet), การพัฒนาคุณภาพชีวิต (Improving Lives) และการสร้างสรรค์และส่งมอบโอกาส (Creating Opportunities) ซึ่งล้วนสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ และครอบคลุมทั้ง 17 เป้าหมายหลัก

โครงการฯ ให้การสนับสนุนทั้งในด้านเงินทุน และโปรแกรมพัฒนาศักยภาพระยะเวลา 1 ปี ซึ่งประกอบด้วยหลักสูตรการบริหารระดับผู้บริหารจาก INSEAD การฝึกอบรมธุรกิจที่ออกแบบเฉพาะบุคคล การให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ และการส่งเสริมภาพลักษณ์ ประชาสัมพันธ์ในระดับสากล

  • ผู้ได้รับรางวัลสาขาการพิทักษ์รักษ์โลก (Preserving the Planet) จากโครงการ Cartier Women’s Initiative ได้แก่ เทรซี โอรูร์ก จากไอร์แลนด์ ผู้ก่อตั้ง Vivid Edge ที่ช่วยธุรกิจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 36,000 ตันด้วยบริการจัดการพลังงาน, เครส เวสลิง จากสหราชอาณาจักร ผู้ร่วมก่อตั้ง Elvis & Kresse ที่แปรรูปขยะอุตสาหกรรมเป็นสินค้าแฟชั่นและบริจาคเงินกว่า 500,000 ดอลลาร์ให้การกุศล, และคริสติน คาเก็ตสึ จากอินเดีย ผู้ร่วมก่อตั้ง Saathi ที่ผลิตแผ่นอนามัยย่อยสลายได้จากใยกล้วย ช่วยลดขยะพลาสติกและสร้างงานให้กับผู้หญิงในชนบทกว่า 485 คน.
  • ผู้ได้รับรางวัลสาขาการพัฒนาคุณภาพชีวิต (Improving Lives) จากโครงการ Cartier Women’s Initiative ได้แก่ เคทลิน ดอลการ์ต จากเคนยา ผู้ก่อตั้ง Flare แพลตฟอร์มบริหารเหตุฉุกเฉินที่ลดเวลาการช่วยเหลือเหลือฉุกเฉินในเคนยาจาก 3 ชั่วโมงเหลือเพียง 16 นาที, นามิตา บังกา จากอินเดีย ผู้ก่อตั้ง Banka Bioloo ที่ติดตั้งห้องน้ำชีวภาพกว่า 30,000 หน่วยในพื้นที่ชนบทและสถานีรถไฟ รองรับผู้ใช้งานวันละ 10 ล้านคน, และอีเวตต์ อิชิมเว จากรวันดา ผู้นำ IRIBA Water Group ที่ให้บริการน้ำดื่มสะอาดผ่านตู้กดพลังงานแสงอาทิตย์แก่ประชาชนกว่า 517,000 คน ลดโรคติดเชื้อในโรงเรียนลงถึงร้อยละ 37.
  • ผู้ได้รับรางวัลสาขาการสร้างสรรค์และส่งมอบโอกาส (Creating Opportunities) จากโครงการ Cartier Women’s Initiative ได้แก่ รามา คายาลี จากจอร์แดน ผู้ก่อตั้ง Little Thinking Minds ที่พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอาหรับให้เด็กกว่า 400,000 คนใน 11 ประเทศ, มาเรียม โทโรเซียน จากอาร์เมเนีย ผู้ก่อตั้ง Safe YOU แพลตฟอร์มมือถือช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงทางเพศที่รองรับการแจ้งเหตุฉุกเฉินกว่า 18,000 ครั้ง, และแจ็กกี้ สเตนสัน จากอินเดีย ผู้ร่วมก่อตั้ง Essmart ที่ส่งมอบเทคโนโลยีชีวิตประจำวันให้ชุมชนชนบทกว่า 1.4 ล้านคน พร้อมสนับสนุนร้านค้าในท้องถิ่นกว่า 5,000 ราย เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

ผู้ประกอบการเพื่อสังคมที่ได้รับรางวัล Impact Awards ทั้ง 9 ท่าน ไม่เพียงได้รับการยกย่องจากความสำเร็จจากการดำเนินการขับเคลื่อนธุรกิจของตนให้เกิดผลกระทบเชิงบวกที่ผ่านมา แต่ยังรวมถึงศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยผู้ได้รับรางวัลแต่ละท่านจะได้รับทุนสนับสนุนจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมโอกาสในการเพิ่มการรับรู้ผ่านสื่อระดับนานาชาติ และเข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพระยะเวลา 1 ปี ซึ่งออกแบบมาเพื่อเสริมทักษะด้านการวัดผลกระทบ พัฒนาภาวะผู้นำ และขยายขอบเขตการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปีนี้ โครงการดังกล่าวได้เพิ่มเนื้อหาใหม่ในด้านการบริหารเวลา การเรียนรู้ร่วมกับผู้ประกอบการรายอื่น และการวางแผนกลยุทธ์ ซึ่งดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรโครงการรายใหม่

พิธีมอบรางวัล Cartier Women’s Initiative Impact Awards ปี 2568 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในบรรยากาศแห่งแรงบันดาลใจและความอบอุ่น พร้อมการแสดงศิลปะสุดพิเศษจากศิลปินญี่ปุ่นและการเสวนาจากผู้ประกอบการหญิงผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก โดย จูน มิยาชิ (June Miyachi) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารคาร์เทียร์ ประเทศญี่ปุ่น ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตและความเป็นผู้นำของผู้หญิงอย่างเต็มศักยภาพ ขณะที่ คุณวินจี ซิน (Wingee Sin) ผู้อำนวยการระดับโลกโครงการ Cartier Women’s Initiative  ได้ร่วมแลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับพัฒนาการของความเป็นผู้นำสตรีในภาคธุรกิจ 

ซีริลล์ วิญเญอรอง ประธานกรรมการด้านวัฒนธรรมและสาธารณกุศล คาร์เทียร์ ตอกย้ำพันธกิจของเมซงในการสนับสนุนผู้หญิงผู้ขับเคลื่อนโลกอย่างยั่งยืน ไว้ว่า  “ผู้ประกอบการเพื่อสังคมหญิงที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ต่างเปี่ยมด้วยพลังร่วมกันอันยิ่งใหญ่ ในการขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในค่ำคืนนี้ เราได้ร่วมเฉลิมฉลอง ไม่เพียงแค่ความสำเร็จในการต่อยอดแนวคิดเล็ก ๆ ให้เติบโตเป็นผลลัพธ์ที่ทรงพลัง หากยังรวมถึงศักยภาพ อันน่าทึ่งของพวกเธอในการเปิดทางสู่โอกาสใหม่ ๆ ให้กับคนรุ่นต่อไป ความกล้าหาญและวิสัยทัศน์ของพวกเธอเปรียบเสมือนแสงแห่งความหวังและแรงบันดาลใจที่ส่องสว่างสำหรับพวกเราทุกคน”

เนื่องในโอกาสที่การจัดงานประจำปี 2568 ได้สิ้นสุดลง ทางคาร์เทียร์ขอประกาศเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ Cartier Women’s Initiative ประจำปี 2569 ซึ่งเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2568 และจะปิดรับสมัครในวันที่ 24 มิถุนายน 2568 (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.cartierwomensinitiative.com   ก่อนจะปิดท้ายด้วยพิธีมอบรางวัลระดับโลกที่จะจัดขึ้น ณ ประเทศไทย ในปี 2569 การประกวดในปีนี้จะมุ่งเน้นไปที่การคัดเลือกผู้ประกอบการเพื่อสังคมหญิงที่มีความโดดเด่น จำนวน 30 ราย ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ผ่านการคัดเลือกเป็น 3 อันดับแรกในแต่ละหมวดรางวัลทั้ง 10หมวดหมู่ การจัดงานในปี 2569 นี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของโครงการในการขยายบทบาทและเสียงของผู้หญิงเร่งส่งเสริมผู้ประกอบการที่ครอบคลุมทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง รวมถึงการร่วมกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เท่าเทียม และครอบคลุมสำหรับทุกคน