Travel Soft Power & Sport

AirAsia MOVE ชี้เทรนด์ท่องเที่ยวปี68 ในงานMOVE Thailand Launch2568



กรุงเทพฯ- 4 มิถุนายน 2568 – MOVE แอปจองการเดินทางชั้นนำแห่งภูมิภาคภายใต้เครือ Capital A เปิดตัวแท็กไลน์ใหม่ ‘Travel More for Less’ พร้อมเผยโฉมลวดลายเครื่องบินใหม่ สะท้อนอัตลักษณ์แบรนด์ยุคใหม่ พร้อมกันนี้ยังได้เปิดเผยข้อมูลเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2568 ซึ่งเป็นข้อมูลพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่ใช้งานจริงบนแพลตฟอร์มเพื่อนำเสนอแนวโน้มสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของการท่องเที่ยวในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนในปี 2568 ณ ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานดอนเมือง,  บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด   

ข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึกที่เก็บรวบรวมจากผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม AirAsia MOVE โดยตรง ระบุว่า “การท่องเที่ยวภายในประเทศ” ยังคงครองสัดส่วนสูงถึง 79.89% ของการจองทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยหันมาให้ความสนใจกับ “เมืองรอง” อย่างเชียงราย ขอนแก่น และสุราษฎร์ธานีเพิ่มมากขึ้น สะท้อนกระแสการแสวงหาความเป็นท้องถิ่นแท้ ๆ (Local Authenticity) และประสบการณ์ที่แปลกใหม่ นอกเส้นทางยอดนิยม

พฤติกรรมการวางแผนท่องเที่ยวของผู้บริโภคยังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดย 26.52% ของการจองถูกทำล่วงหน้ากว่า 1 เดือน ขณะที่อีก 18.04% เป็นการจองแบบเร่งด่วน ภายใน 4–7 วันก่อนออกเดินทาง สะท้อนเทรนด์ “Flexi Planning” ที่มาแรง หรือหมายถึงนักท่องเที่ยวกำลังส่งสัญญานมองหาการเดินทางที่เปิดกว้างให้ความยืดหยุ่นและการตัดสินใจที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มคนเมืองและคนรุ่นใหม่

สำหรับกลุ่มคนทำงานในเมือง Mini Trips และ Staycations กลายเป็นเรื่องปกติใหม่ (New Normal) ในกรุงเทพฯ การจองที่พักรูปแบบ Staycation เพิ่มขึ้นถึง 15.9% จากความต้องการพักผ่อนระยะสั้นแบบฟื้นฟูร่างกาย จุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ จังหวัดที่มีสนามบินขนาดเล็กและเข้าถึงง่าย เช่น ประจวบคีรีขันธ์ อุดรธานี และเชียงราย ขณะเดียวกัน รูปแบบการเดินทางแบบ “2 วัน 1 คืน” ก็กำลังได้รับความนิยม แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจากการเดินทางเฉพาะโอกาส ไปสู่การเดินทางสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำมากขึ้น

ในขณะที่การเดินทางระหว่างประเทศกำลังฟื้นตัวอย่างมั่นคง โดยปัจจุบันคิดเป็น 20.11% ของการจองทั้งหมด จุดหมายปลายทางยอดนิยม ได้แก่ มาเลเซีย จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย โดยมีเมืองหลักที่ถูกจองมากที่สุด ได้แก่ โตเกียว โอซาก้า โฮจิมินห์ และกัวลาลัมเปอร์ สะท้อนว่านักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงต้องการประสบการณ์การเดินทางระหว่างประเทศ แต่ให้ความสำคัญกับระยะทางที่ใกล้ ความสะดวกสบาย และความคุ้มค่า โดยกลุ่มอายุ 25–39 ปี ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเดินทางออกนอกประเทศ พร้อมด้วยพฤติกรรมที่วางแผนล่วงหน้าและมีความเป็นระบบมากขึ้น

ในด้าน inbound ประเทศไทยยังคงครองตำแหน่งจุดหมายปลายทางระยะใกล้ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในภูมิภาค  โดยเฉพาะจากประเทศมาเลเซีย อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และจีน สำหรับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ พบว่ามีการวางแผนล่วงหน้า 1–2 เดือน และนิยมเข้าพักในโรงแรมระดับ 4–5 ดาวมากกว่า 60% แม้จะพักเฉลี่ยเพียง 1–2 คืนก็ตาม เทรนด์นี้ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ขับเคลื่อนด้วยคุณภาพ ซึ่งให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่มีความหมาย มากกว่าปริมาณหรือราคาถูกเพียงอย่างเดียว

นักท่องเที่ยวชาวไทยเองก็มีแนวโน้มใช้จ่ายอย่างมีวิจารณญาณมากขึ้น โดยค่าเฉลี่ยตั๋วเครื่องบินภายในประเทศอยู่ที่ 2,523.48 บาท ขณะที่เที่ยวบินระหว่างประเทศอยู่ที่ 4,130.58 บาท ส่วนอัตราค่าที่พักเฉลี่ยอยู่ที่ 3,864.41 บาทในประเทศ และ 3,409.66 บาทในต่างประเทศ โรงแรมที่มีการจองมากที่สุดคือระดับ 4 ดาว (36.7%) รองลงมาคือ 3 ดาว (29.9%) และ 5 ดาว (15.4%) สะท้อนความสนใจของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่ามากกว่าราคาเพียงอย่างเดียว

จากข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ AirAsia MOVE ได้สรุปเทรนด์สำคัญที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวควรจับตาในปี 2025 ได้แก่:

  • การท่องเที่ยวเชิงเป้าหมาย (Purposeful Travel) เช่น ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และรีทรีตด้านจิตใจ

  • ความต้องการโซลูชันการจองแบบครบวงจรผ่านแอปเดียว (All-in-one Booking Solutions)

  • บริการหลังการจองที่ทันสมัย เช่น การแจ้งเตือนเที่ยวบินแบบเรียลไทม์ การยกเลิกแบบยืดหยุ่น และการผ่อนชำระ 0%

  • การรีวิวที่เชื่อถือได้ และคำแนะนำแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจให้กับผู้ใช้

นาเดีย โอมาร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AirAsia MOVE กล่าวว่า “ข้อมูลเชิงลึกที่เราแบ่งปันในวันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงพฤติกรรมของนักเดินทางเท่านั้นแต่เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในการกำหนดอนาคตขอ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ที่ AirAsia MOVE เรามุ่งมั่นในการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นสามารถออกแบบประสบการณ์ที่ยืดหยุ่น คุ้มค่า และตอบโจทย์นักเดินทางอย่างแท้จริง”

AirAsia MOVE ยังตอกย้ำบทบาทของตนในฐานะแพลตฟอร์มผู้ให้บริการด้านการเดินทางท่องเที่ยวที่ครบวงจร ไม่เพียงแต่ให้บริการจองเท่านั้น แต่ยังเป็นระบบวางแผนการเดินทางแบบครบวงจร รวมทั้งเที่ยวบิน โรงแรม รถรับส่งสนามบิน การช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี และบริการเสริมครบจบในแอปเดียว ภายใต้วิสัยทัศน์ “Travel More For Less” บริษัทมุ่งมั่นที่จะทำให้การเดินทางที่มีคุณภาพเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้และราบรื่นสำหรับทุกคน พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยในระยะยาว