ECO & ESG
ลพบุรีตรวจใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายใบอ้อย แทนการเผาลดปัญหาPM2.5
ลพบุรี-จังหวัดลพบุรี ติดตามการดำเนินงานการใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายใบอ้อยแทนการเผา ลดปัญหา PM2.5 และการปลูกพื้นใช้น้ำน้อย เพื่อส่งเสริมการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นางสาววัลภา ปันต๊ะ เกษตรจังหวัดลพบุรี นางสวามินี อิสระทะ ประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี นายอำเภอพัฒนานิคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่ แปลงปลูกอ้อยของกลุ่ม “เกษตรกรแปลงใหญ่อ้อยโรงงาน” หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำสุด อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี
เพื่อติดตามผลการดำเนินงานด้านการเกษตร โดยใช้จุลินทรีย์ในการย่อยสลายใบอ้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทาง “ลดการเผาในพื้นที่การเกษตร” เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และรักษาสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นของ นายมนตรี บุญเปลี่ยน กำนันตำบลน้ำสุด อำเภอพัฒนานิคม และเป็นประธานแปลงใหญ่อ้อยโรงงาน หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำสุด ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของนโยบาย มาตรการ และแนวทางการขับเคลื่อนป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในภาคการเกษตร และมีแนวคิดว่าจะเป็นตัวอย่างในการบริหารจัดการแปลงปลูกอ้อยของตน แบบปลอดการเผา จึงได้ทำการทดลองใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายในพื้นที่ปลูกอ้อย ของตนเอง จำนวน 5 ไร่ โดยหลังจากตัดตออ้อยแล้ว เมื่อช่วง เดือนกุมภาพันธ์ 68 ที่ผ่านมาก ตามสโลแกน ที่ว่า.. “ หยุดเผา เราทำได้ ”
โดยทำการวางสายน้ำหยด ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ในแปลงอ้อย เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้น จากนั้น จึงนำจุลินทรีย์ย่อยสลายมาฉีดให้ทั่ว ซึ่งในช่วงแรกจะฉีดพ่นโดยการใช้รถไถ โดยจะทำการฉีดพ่นทุก ๆ 10 วัน เป็นเวลา 1 เดือน หลังจากนั้นฉีดเดือนละ 1 ครั้ง ปัจจุบัน ได้ให้จุลินทรีย์ย่อยสลายไปพร้อมกับน้ำที่ผสมปุ๋ยหมัก ปล่อยไปตามสายน้ำหยด ซึ่งจากการดำเนินงานพบว่า ใบอ้อยเริ่มย่อยสลาย ใน 1 เดือน จากปกติที่ไม่ใช้จุลินทรีย์ย่อยสลาย จะต้องใช้เวลาเปื่อยย่อยสลายนานถึง 3 เดือน
อีกทั้ง ยังช่วยทำให้ต้นอ้อยโตเร็ว ลำต้นอวบโต แตกกอดี ใบเขียว ดินร่วนซุย หนอนกอลดน้อยลง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว เป็นผลดีกว่าการเผา เพราะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญ คือต้นโตไว สำหรับอัตราส่วนในการผสม ใช้จุลินทรีย์ย่อยสลาย 100 cc ต่อน้ำ 10 ลิตร และนำไปผสมน้ำ 200 ลิตร เพื่อฉีดพ่น
ด้าน นางสาววัลภา ปันต๊ะ เกษตรจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า.ที่ผ่านมา สำนักงานเกษตรจัดหวัดลพบุรี ได้ทำการ “รณรงค์ งดการเผา” ในพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะการตัดอ้อยสด และใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายฟางข้าวของกรมการข้าว มาปรับใช้ในการย้อยสลายใบอ้อย ทดแทนการเผา ซึ่งผลพลอยได้ หลังทดลองใช้ภายใน 3 เดือน ทำให้ต้นอ้อยโตวัย อ้อยแตกกอดี ซึ่งจากการทดลองได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงอยากเชิญช่วยเกษตรกรที่สนใจ สามารถไปดูต้นแบบได้ที่กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่อ้อยโรงงาน ต.น้ำสุด อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
หลังจากนั้น คณะยังได้ได้ลงพื้นเยี่ยมชมผลผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกพืชใช้น้ำ ซึ่งเมื่อหมดฤดูฝน พื้นที่เกษตรจำนวนมาก ของตำบลน้ำสุด อำเภอพัฒนานิคม จะถูกปล่อยทิ้งว่าง ส่งผลให้เกษตรกรไม่มีรายได้ต่อเนื่องในช่วงฤดูแล้ง เกษตรจังหวัดลพบุรี จึงได้แนะนำให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนแนวทางการใช้พื้นที่ โดยแบ่งพื้นที่บางส่วน จำนวน 8 ไร่ มาปลูกพืชฤดูแล้ง คือ มันแครอท เป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย และสามารถเจริญเติบโตในสภาพแห้งแล้งได้ เพื่อสร้างรายได้เสริม ในช่วงที่ไม่สามารถปลูกพืชหลักได้ สามารถสร้างผลิตได้ไร่ละ 2.5 ตัน ราคา ตันละ 8,000 บาท รวมรายได้ทั้งสิ้น รวม 127,150 บาท
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว...ได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร หรือโครงการส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ค่อยให้ความรู้เรื่องการบริหารจัดการน้ำ การเลือกพืชให้เหมาะสมกับฤดูกาล แก่เกษตรกร ตลอดจนให้คำปรึกษาด้านการตลาด ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และใช้ทรัพยากรในพื้นที่อย่างคุ้มค่าตลอดทั้งปี อีกด้วย
ทวีศักดิ์/ลพบุรี