Biz news
NITMXเผยสถิติใช้งานPromptPay พ.ค.68ยอดธุรกรรม2.08พันล.รายการ

กรุงเทพฯ-บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (NITMX) ในฐานะผู้พัฒนาและให้บริการระบบการชำระเงินและการโอนเงินระหว่างธนาคารของประเทศไทย ได้เปิดเผยสถิติการใช้งานระบบ พร้อมเพย์ (PromptPay) ประจำเดือนพฤษภาคม 2568 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของบริการชำระเงินดิจิทัลอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ โดยยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการผลักดันประเทศไทยสู่ “สังคมไร้เงินสด” ที่ประชาชนและภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และทั่วถึง
ยอดการลงทะเบียนและธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจาก NITMX ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2568 ระบุว่ามีการลงทะเบียนหมายเลขพร้อมเพย์รวมทั้งสิ้น 81.45 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็น:
- การลงทะเบียนของภาคประชาชน จำนวน 81.09 ล้านเลขหมาย
- การลงทะเบียนของภาคธุรกิจ จำนวน 0.36 ล้านเลขหมาย
ยอดธุรกรรมผ่านพร้อมเพย์ในเดือนพฤษภาคม 2568 มีจำนวนรวม 2.08 พันล้านรายการ เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยมีมูลค่ารวมของธุรกรรมสูงถึง 4.37 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 4% สะท้อนถึงการใช้งานที่แพร่หลายและมั่นคงในภาคการเงินดิจิทัลของไทย
วันสำคัญที่มียอดการทำธุรกรรมสูงสุดในเดือนพฤษภาคม คือวันที่ 2 พฤษภาคม 2568เป็นวันทำการวันแรกถัดจากวันหยุดวันแรงงาน ส่งผลให้เกิดธุรกรรมหลังวันหยุดยาวหลายส่วน เช่น การโอนเงินและจ่ายเงินเดือนของภาคเอกชน ที่เลื่อนไปทำธุรกรรมในวันถัดมาประชาชนทยอยทำธุรกรรมส่วนบุคคลหลังพักผ่อนวันหยุดยาว รวมถึงการชำระบิล ค่าบริการต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นวันที่ประกาศผลสลากกินแบ่งรัฐบาลประจำงวดวันที่ 2 พฤษภาคม ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่ทำให้มีการเคลื่อนไหวของธุรกรรมการโอนเงินและการใช้จ่ายในวันดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วยดังนั้น ยอดธุรกรรมที่เกิดขึ้นสูงถึง 69.55 ล้านรายการในวันที่ 2 พฤษภาคม จึงสะท้อนภาพรวมของพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงต้นเดือนที่ถัดจากวันหยุดยาวอย่างชัดเจน
Cross-Border QR Payment เติบโตต่อเนื่อง
ไม่เพียงแต่การเติบโตภายในประเทศเท่านั้น การใช้บริการ Cross-Border QR Payment ก็ยังขยายตัวต่อเนื่องเช่นกัน โดยในเดือนพฤษภาคม 2568 มีมูลค่าธุรกรรมขาเข้า (Inbound) รวม 314.38 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ประเทศที่มีการใช้จ่ายผ่าน Cross-Border QR สูงสุด 3 อันดับแรกในเดือนพฤษภาคม2568 ได้แก่:
❏อันดับที่ 1: มาเลเซีย – 170.53ล้านบาท
❏อันดับที่ 2: อินโดนีเซีย – 41.72ล้านบาท
❏อันดับที่ 3: กัมพูชา – 30.22ล้านบาท
การเติบโตนี้สะท้อนถึงความสะดวกสบายและประสิทธิภาพของระบบ QR Payment ของไทยที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นช่วงพีคของการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวอาเซียน
การเติบโตเหล่านี้เป็นผลจากความมุ่งมั่นของ NITMX ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่มั่นคง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถทำธุรกรรมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยพร้อมร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีศักยภาพในระดับสากล