Biz news
เมสเซ่ฯประเมินไทยยังรั้งเบอร์ต้นผู้ผลิต บรรจุภัณฑ์คุณภาพสูงแห่งภูมิภาค

สมุทรสาคร 25 มิถุนายน 2568 – เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ร่วมกับสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย สมาคมการพิมพ์ไทย สมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูก ชี้ศักยภาพอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ของไทยมีมูลค่ากว่า 565,560 ล้านบาทในปี 2025 พร้อมเปิดเทรนด์นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ลูกฟูกรับกระแสและตลาดสงครามส่งด่วน ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมไทยที่พร้อมรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ชู อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ หรือ TIPAK เป็นต้นแบบโรงงานยุคใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านความรวดเร็ว คุ้มค่า และยั่งยืน โดยเป็นรายแรกในไทยที่ใช้ระบบพิมพ์ Flexography ร่วมกับหมึกน้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดคาร์บอน พร้อมยกระดับคุณภาพงานพิมพ์สู่มาตรฐานตลาดทั้งในและต่างประเทศ เดินหน้าปักหมุดจัดงานมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การพิมพ์ และกระดาษลูกฟูกแห่งภูมิภาคเอเชีย หรือ PACK PRINT INTERNATIONAL 2025 and CorruTec ASIA 2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 กันยายนนี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
นางสาวบีทริซ โฮ ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย กล่าวว่า จากการประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การพิมพ์ และบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกของไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคงศักยภาพผู้ส่งออกบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของอาเซียน ด้วยจุดแข็งด้านเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและการดำเนินงานตามมาตรฐานคุณภาพระดับสากล สอดรับกับข้อมูลจาก Mordor Intelligence บริษัทวิจัยทางการตลาดชั้นนำจากอินเดีย ที่ระบุว่า ตลาดบรรจุภัณฑ์ของไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 15.71 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 565,560 ล้านบาท) ในปี 2568 และเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.46% โดยมีแนวโน้มแตะ 19.54 พันล้านดอลลาร์ (ราว 703,440 ล้านบาท) ภายในปี 2573 ซึ่งชี้ให้เห็นถึงโอกาสของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูงของภูมิภาค โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับการบริหารซัพพลายเชนอย่างยืดหยุ่นและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
นางสาวบีทริซ กล่าวต่อว่า “อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการพิมพ์ บรรจุภัณฑ์ และกระดาษลูกฟูกของไทยในปี 2568 คือการเติบโตอย่างมั่นคงของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค การใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น และความต้องการบริการที่เน้นความสะดวกสบาย โดยในปี 2567 ประเทศไทยครองอันดับ 2 ในภูมิภาค ด้วยส่วนแบ่งตลาด 16.4% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมในปี 2566 ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 980,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตแตะระดับ 2 ล้านล้านบาทภายในปี 2573 แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในฐานะเส้นเลือดใหญ่ที่เชื่อมโยงผู้ผลิต สินค้า และผู้บริโภคยุคใหม่เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ”
จากบริบทเศรษฐกิจโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทยยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในระดับสากล ด้วยศักยภาพของประเทศที่มีมาตรฐานการผลิตระดับสูง เครือข่ายส่งออกที่แข็งแกร่ง และความสามารถในการปรับตัวต่อความต้องการของตลาด ทำให้ไทยพร้อมรองรับบทบาทสำคัญในเวทีโลก นอกจากนี้ ยังสะท้อนความแข็งแกร่งของประเทศไทย และความพร้อมในการจัดงาน PACK PRINT INTERNATIONAL และ CorruTec ASIA อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 10 ปีของงาน PACK PRINT INTERNATIONAL ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17–20 กันยายน ณ ไบเทค บางนา ซึ่งไม่เพียงเป็นเวทีแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีล่าสุด แต่ยังสะท้อนบทบาทของไทยในฐานะผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ในอาเซียน พร้อมเชื่อมโยงผู้ประกอบการในภูมิภาคกับแนวโน้มระดับโลก และตอกย้ำศักยภาพของภูมิภาคในการเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของหลาย ๆ อุตสาหกรรมในอนาคตอีกด้วย”
นายวีรชัย มั่นสินธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPAK และนายกสมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย กล่าวว่า “ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกมายาวนานกว่า 70 ปี TIPAK มองเห็นแนวโน้มและโอกาสในการลงทุนที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญทั้งความรวดเร็ว คุ้มค่า และความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจภายใต้มาตรฐานระดับสากล อาทิ BRCGS, ISO 9001, ISO 14001, HACCP, GHP, ISO 22001 รวมถึงมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอย่าง FSC-CoC, Carbon Footprint, Green Industry และ HALAL เพื่อเสริมความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ พร้อมยกระดับการดำเนินงานสู่ความยั่งยืนในระดับโลก โดยหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่เรานำมาใช้คือเฟลกโซกราฟี (Flexography) ระบบพิมพ์ที่ใช้หมึกพิมพ์ชนิดน้ำเป็นตัวทำละลาย ช่วยลดมลพิษทางอากาศและลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ได้อย่างเป็นรูปธรรม”
นายวีรชัย กล่าวต่อว่า สำหรับเทคโนโลยีการพิมพ์ด้วยระบบเฟลกโซกราฟี (Flexography) ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคนิคการพิมพ์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความยั่งยืน โดยใช้แม่พิมพ์ชนิดโฟโต้โพลิเมอร์ ร่วมกับหมึกพิมพ์ฐานน้ำที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในกระบวนการ Flexographic Pre-Printing ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในยุคใหม่ ระบบนี้เน้นการพิมพ์ล่วงหน้าบนแผ่นกระดาษก่อนเข้าสู่กระบวนการขึ้นรูปเป็นแผ่นลูกฟูก จึงช่วยให้ได้งานพิมพ์ที่มีความละเอียดสูง สีสม่ำเสมอ ควบคุมคุณภาพได้แม่นยำ และรองรับการผลิตในปริมาณมากภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ในกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแนวทางของ TIPAK ที่มุ่งพัฒนานวัตกรรมควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
“TIPAK เชื่อมั่นว่าเวที PACK PRINT INTERNATIONAL และ CorruTec ASIA เป็นมากกว่างานแสดงสินค้า แต่คือความร่วมมือระดับภูมิภาคที่ขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรม และบทบาทสำคัญในการเปิดรับนวัตกรรม เทคโนโลยี และแนวคิดใหม่ ๆ จากทั่วโลก งานนี้จึงเป็นกลไกสำคัญในการเร่งการเปลี่ยนผ่านของภาคการผลิตไทยให้ก้าวทันโลก ทั้งในมิติของเทคโนโลยีที่แม่นยำ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นระบบ งานในปีนี้ไม่เพียงเป็นเวทีที่ TIPAK ใช้แสดงศักยภาพในฐานะผู้บุกเบิกนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นจุดบรรจบของความรู้ เทคโนโลยี และเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ ที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยในเวทีโลกอย่างยั่งยืน” นายวีรชัย กล่าวสรุป
สำหรับงาน PACK PRINT INTERNATIONAL 2025 และ CorruTec ASIA 2025 นับเป็นมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การพิมพ์ และกระดาษลูกฟูกที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุก 2 ปี และในปีนี้จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 โดยเมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย ร่วมกับ 3 สมาคมอุตสาหกรรมหลักของไทย ระหว่างวันที่ 17–20 กันยายน ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา สำหรับปีนี้ นอกจากจะมาพร้อมกับการจัดแสดงไฮไลต์นวัตกรรมล้ำสมัยจากทั่วโลกแล้ว ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงจังหวะสำคัญของการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรม ที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ขับเคลื่อนด้วยเศรษฐกิจสีเขียว และให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน ภายในงานจะรวบรวมนวัตกรรม เทคโนโลยี เครื่องจักร และโซลูชันล่าสุดจากบริษัทชั้นนำมาจัดแสดงอย่างครบวงจร พร้อมทั้งเปิดเวทีเสวนาและสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางธุรกิจ เพื่อเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยและภูมิภาคอาเซียน ให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน