In News

เปิดภารกิจนายกฯบุกชายแดนไทย-เขมร ถกผลกระทบรุดให้กำลังใจจนท.ชายขอบ



กรุงเทพฯ-ติดตามภารกิจนายกฯเยือนชายแดนไทย-เขมรที่อรัญประเทศในวันนี้  นายกฯ ถึงอรัญฯ สั่งการ พณ. มท. เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ชายแดนโดยเร็ว พร้อมให้เดินหน้าเร่งปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเต็มที่หลังจากนั้นนายกฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่านพรมแดน บ้านคลองลึก เน้นย้ำ หน่วยงานราชการดูแลพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการและลงพื้นที่ให้กำลังใจทหารพรานชายแดนสระแก้ว ย้ำรัฐบาลพร้อมดูแล ความเป็นอยู่ สวัสดิการอย่างเต็มที่ นอกจากนี้นายกฯขอบคุณทุกภาคส่วนที่เตรียมความพร้อมทั้งหลุมหลบภัย และแผนเผชิญเหตุ หลังตรวจเยี่ยม รร.ตชด.ประชารัฐบำรุง 1 พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์การเรียนการสอนย้ำรัฐบาลสนับสนุนทุกมิติเพื่อสวัสดิภาพ ของประชาชนในพื้นที่และส่งท้ายด้วยนายกฯให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับความมั่นคงและความเป็นอยู่ของประชาชน

นายกฯเรียกมท.-พณ.ถกผลกระทบชายแดนที่อรัญฯ

วันนี้ (26 มิ.ย. 68) เวลา 10.15 น. ณ ห้องประชุมโสต 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติ  โรงเรียนอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือประเด็นผลกระทบมาตรการการปิดด่านชายแดนไทย - กัมพูชา โดยมีพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว แม่ทัพภาคที่ 1 และผู้บริหารส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วมประชุม

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับฟังบรรยายสรุปผลกระทบมาตรการการปิดด่านชายแดนไทย - กัมพูชา หลังจากที่มีการประกาศปิดจุดผ่านแดนและจุดผ่อนปรนในพื้นที่รับผิดชอบของด่านศุลกากรอรัญประเทศ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ไม่มีการนำเข้าและส่งออกสินค้าในทุกจุดผ่านแดน ส่งผลให้ในแต่ละวันของทุกจุดผ่านแดน ได้รับผลกระทบต่อมูลค่าการค้าอยู่ที่วันละประมาณ 330 ล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน รวมถึงขอให้มีการสื่อสารทำความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือความเข้าใจคลาดเคลื่อนด้านข้อมูลข่าวสาร

ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 1 ได้รายงานผลการกำหนดมาตรการผ่อนปรนการเดินทางผ่านด่านคลองลึก จังหวัดสระแก้ว เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศ โดยชาวกัมพูชา สามารถเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้ เฉพาะผู้ถือ Border Pass ของจังหวัดบันเตียเมียนเจยเท่านั้น โดยไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะเข้ามา ยกเว้นจักรยาน 2 ล้อ และอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ไม่เกิน 1 วัน ซึ่งเปิดให้เข้าวันละ  3 รอบ ดังนี้ 1. 08.00 - 09.30 น. (300 คน) 2. 10.30 - 12.00 น. (300 คน) และ 3. 13.00 - 15.00 น. (400 คน)

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินมาตรการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นปัญหาที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน โดยรัฐบาลตระหนักดีว่าการจำกัดการเข้า-ออกบริเวณชายแดนส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาคธุรกิจในพื้นที่ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหารือแนวทางในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยประสานความช่วยเหลือผ่านกลไกของผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง พร้อมเน้นย้ำให้มีการตรวจสอบกระบวนการร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชน และทบทวนมาตรการที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม รวมถึงได้มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ให้เร่งให้ความช่วยเหลือในด้านการระบายสินค้าคงค้าง และเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว

“สำหรับบริษัทเอกชนที่อยู่นอกอำนาจรัฐแต่มีพฤติกรรมหรือการดำเนินงานที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะกรณีเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ จะมีการพิจารณาดำเนินการอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศอย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ระบุ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการเรียนการสอนของนักเรียนโรงเรียนอรัญประเทศ โดยได้อวยพรให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการสอบ พร้อมกับร่วมถ่ายภาพกับนักเรียนอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณด่านชายแดน พูดคุยกับประชาชน ผู้ประกอบการ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ณ บริเวณด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ต่อไป

นายกฯลงพื้นที่ติดตามความเป็นอยู่ประชาชนและผู้ประกอบการ

เวลา 11.00 น. ณ บริเวณด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดน โดยมี พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม  นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 และนายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร เข้าร่วมด้วย

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณพื้นที่ด่านพรมแดนคลองลึก โดยมี พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว กล่าวรายงานความคืบหน้าและปัญหาในพื้นที่ โดยปัจจุบันพื้นที่ด่านชายแดนคลองลึก โดยเฉพาะบริเวณตลาดโรงเกลือ มีพี่น้องผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาเป็นจำนวนประมาณ 10,000 คน ซึ่งจากมาตรการกำหนดเวลา เปิด- ปิด ด่านพรมแดน ทำให้มีชาวกัมพูชาบางส่วนไม่สามารถเดินทางไปกลับได้ แต่อย่างไรก็ตามได้มีข้อสั่งการให้ผ่อนผันมาตรการดังกล่าวให้กับชาวกัมพูชาได้เดินทางกลับ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาตรการเปิด-ปิด ในขณะนี้ คาดว่าคนในพื้นที่สามารถปรับตัวได้แล้ว แต่ยังมีความเป็นห่วงผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่  ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ให้รวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการทั้งหมด เพื่อเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้พบปะประชาชน และผู้ประกอบการที่มาต้อนรับ โดยประชาชนได้มอบดอกกุหลาบสีแดง และถือป้ายให้กำลังใจ โดยมีข้อความระบุว่า “คนสระแก้ว รักนายกอุ้งอิ้ง ชาวสระแก้วเป็นกำลังใจให้ท่านนายกแพทองธาร พวกเราชาว สระแก้ว เลิฟยู นายกแพทองธาร”

นายกให้กำลังใจทหารพรานชายแดนสระแก้ว 

เวลา 13.00 น. ณ กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร โดยมีพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และพลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 เข้าร่วม

นายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมบังเกอร์ และพบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลพื้นที่ชายแดน พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนที่เสียสละแรงกายแรงใจ ทำหน้าที่เป็น “รั้วของชาติ” เพื่อปกป้องประเทศและรักษาสันติภาพ

“เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชายแดนต้องเผชิญกับภารกิจที่ท้าทายและมีความเสี่ยงสูง ตนเองขอนำคำขอบคุณจากพี่น้องประชาชนมายังเจ้าหน้าที่ทุกคน ขอให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน มุ่งมั่น และปลอดภัย รัฐบาลพร้อมสนับสนุนและดูแลเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละเพื่อประเทศ ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ลืมความเป็นอยู่และสวัสดิการของทหารแนวหน้า รวมถึงจะดำเนินการดูแลอย่างเต็มที่ ภายใต้ขอบเขตอำนาจของรัฐบาล” นายกรัฐมนตรี ย้ำ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และแม่ทัพภาคที่ 1 ร่วมกันมอบเครื่องอุปโภคและบริโภคแก่กำลังพลทหารพราน พร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางลงพื้นที่พบปะครูและเยี่ยมนักเรียน ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ต่อไป

นายกฯขอบคุณทุกภาคส่วนที่เตรียมความพร้อมทั้งหลุมหลบภัย

เวลา 13.20 น. ที่โรงเรียน ตำรวจตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม  พร้อมส่วนราชการต่างๆ ร่วมกันเดินทางไปที่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 โดยร่วมกันมอบเครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์เครื่องครัวพื้นฐาน อุปกรณ์การเรียนการสอน และอุปกรณ์การกีฬาให้กับโรงเรียน

โดยนายกรัฐมนตรีได้พบปะพูดคุยกับนักเรียนชั้นเรียนประถมศึกษา คุณครู และบุคลากรทางการศึกษา จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เข้าตรวจพื้นที่หลุมหลบภัย ที่อยู่ภายในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1  โดยนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามความพร้อมของหลุมหลบภัย จากนางสาวพรหมภัสสร ลิ้มตระกูล หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์ฯ สนง.ป้องกัยภัยฯ จังหวัดสระแก้ว  ได้รายงานว่า ขณะนี้จังหวัดสระแก้วมีหลุมหลบภัยที่มีความพร้อมรองรับสถานการณ์แล้ว กว่า 900 หลุม  ทั้งนี้ นายกฯ ขอบคุณที่ทุกภาคส่วนร่วมกันดูแลสวัสดิภาพของประชาชนในพื้นที่ และรัฐบาลพร้อมให้การดูแลและสนับสนุนในทุกมิติ 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปยัง ค่ายสุรสิงหนาท ร.12 พัน.3 รอ. ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เพื่อพบปะพูดคุยและเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต่อไป

นายกฯให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ชายแดน

เวลา14.00 น. ณ ร.12 พัน.3 รอ. (ค่ายสุรสิงหนาท) อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยมี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และพลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 เข้าร่วม

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน พร้อมแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นปัญหาเกี่ยวกับชายแดน อาชญากรรมข้ามชาติ และกลุ่มเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชน

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ถือโอกาสมารับฟังปัญหาและความต้องการจากประชาชนโดยตรง พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะพิจารณาแนวทางสนับสนุนและช่วยเหลือเพิ่มเติมในทุกมิติ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ต้องขอบคุณกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร และตำรวจทุกคนที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น อดทน และบูรณาการการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อดูแลความปลอดภัยและความสงบสุขของประชาชนในพื้นที่

“ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนและขอบคุณในความเสียสละที่ทุกคนได้ทำเพื่อประเทศชาติ รัฐบาลจะไม่ลืมความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน และพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีขวัญและกำลังใจ” นายกรัฐมนตรี ระบุ

นายกรัฐมนตรีกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถในการดูแลประชาชน และประสานงานกับทุกภาคส่วนในพื้นที่เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรีได้ตรวจแถวเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งมาตลอด จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร