Authority & Harm

จับแก๊งขุนเดชลอบขนไม้พะยูงใต้ส่งอีสาน กว่า2ล.ปลายทางโพนพิสัยหนองคาย



ชุมพร-เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 มิถุนายน 68 พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.พร้อมด้วย ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ สมบุญ รอง สว.(ป.) กก.5 บก.ปทส.,ร.ต.อ.จำนง เต็งประยูร รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ชพ. ,พ.ต.กอบศักดิ์ นาคหาญ จนท.ฝ่ายการข่าว กอ.รมน.ชุมพร และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ป่าไม้  ร่วมกันจับกุมตัวนายสมัย เครือสีดา  อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 10 ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรีพร้อมด้วยของกลางเป็นไม้พะยูง ความยาวประมาณ 2 เมตร รวมทั้งสิ้น 73 ท่อน และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุสีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒฌ 5915 กทม.ในฐานความผิด “มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ,นำไม้หวงห้ามเคลื่อนที่โดยไม่ได้รับอนุญาต(ไม่มีใบเบิกทาง) ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 39

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 68เวลาประมาณ 05.30 น. ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป.)ส.ทล.ชุมพร พร้อมด้วย ร.ต.ต.ชัยเทพ สาลี รอง สว.(ป.)ส.ทล.ชุมพร และ ด.ต.ธนพล เกิดเขาทะลุ ผบ.หมู่งานป้องกัน ส.ทล.ชุมพร ได้นำรถวิทยุ หมายเลข2406 ออกตรวจพื้นที่ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จนมาถึงบริเวณถนนเพชรเกษม ทล.4 กม.470 ขาเข้า กทม.เขตพื้นที่ ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้พบรถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒฌ 5915 กทม. ได้ขับรถแซงขึ้นมาในช่องทางเดินรถทางขวา ด้วยความเร็ว และมีเหตุสงสัยว่าจะมีสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการเปิดสัญญาณไฟเพื่อเรียกรถคันดังกล่าวให้หยุด 

เจ้าหน้าที่สอบถามทราบชื่อ นายสมัย เครือสีดา เป็นผู้ขับขี่มาเพียงคนเดียวโดยอ้างว่า บรรทุกทุเรียนมาจาก อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากไม่มีกลิ่นของทุเรียนเล็ดรอดออกมาแต่อย่างใด ประกอบกับนายสมัยแสดงอาการพิรุธ ลุกลี้ลุกลน จึงขอทำการตรวจสอบภายในรถ พบท่อนไม้ซึ่งยังไม่ได้แปรรูป จำนวนมากบรรทุกมาเต็มคันรถ ทราบภายหลังเป็นไม้พยูง และไม่มีเอกสารหลักฐานมาแสดงต่อทางเจ้าหน้าที่ จึงได้นำตัวพร้อมของกลางมายังสถานีตำรวจทางหลวงชุมพร เพื่อสอบสวนหารายละเอียดของที่มา

จากการสอบถามนายสมัย ในเบื้องต้นให้การว่า ไม้ที่ตนบรรทุกมานั้น เป็นไม้พะยูง โดยตนได้บรรทุกมาจาก พื้นที่  จังหวัดสงขลา โดยมีชายชาวมาเลเซีย จำนวน 4 คน พร้อมรถบรรทุกติดแผ่นป้ายทะเบียนมาเลเซียจำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ได้นำไม้พะยูงมาให้ตน ซึ่งนัดรับกัน บริเวณริมป่าทึบข้างทางและไม่ทราบจุดที่แน่นอน ในพื้นที่ อำเภอสะเดาจังหวัดสงขลา และนำไปส่ง บริเวณ ริมแม่น้ำโขง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย

นายสมัยให้การต่อว่า โดยตนได้รับการว่าจ้างจาก จากนายชัยยพล ถาวรหิรัญพัทธ์ โดยได้ติดต่อและรับงานดังกล่าว ผ่านทางแอบพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งใช้ชื่อ”ขุนเดช” ได้รับค่าจ้างครั้งล่ะ 15,000 บาท  โดยค่าจ้างดังกล่าว ได้รับโอนผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลขบัญชี 09082XXXX ชื่อบัญชี นายชัยยพล ถาวรหิรัญพัทธ์ โดยนายสมัยให้การเพิ่มเติมว่าตนได้รับการว่าจ้างให้บรรทุกไม้พะยูง จากนายชัยยพลมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 จนกระทำถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว

พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล.กล่าวว่า จากการตรวจสอบโดยละเอียด พบว่าไม้พะยูงขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร จำนวน 73 ท่อน มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เนื่องจากไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้าม ประเภท ก.(ไม้หวงห้ามธรรมดา) ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2530 ลำดับที่ 53 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ นำไม้หวงห้ามเคลื่อนที่โดยไม่ได้รับอนุญาต(ไม่มีใบเบิกทาง) ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ก่อนนำตัวพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป