In News

ภาวะเศรษฐกิจการคลังภูมิภาคพ.ค.2568 จับจ่ายดีแต่การท่องเที่ยวชะลอตัวทุกภาค



กรุงเทพฯ-“เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนพฤษภาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภคโดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคใต้ อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวมีสัญญาณชะลอตัวลงในภาคใต้ กทม. และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคกลาง”

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนพฤษภาคม 2568 ว่า “เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนพฤษภาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภคโดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคใต้ อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวมีสัญญาณชะลอตัวลงในภาคใต้ กทม. และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคกลาง” โดยมีรายละเอียดดังนี้

เศรษฐกิจภาคเหนือในเดือนพฤษภาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค การท่องเที่ยวที่ขยายตัว และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวที่ร้อยละ 10.6 ต่อปี อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -2.3 -19.7 และ -5.9 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 54.6 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 55.6 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -36.7 และ -59.7 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 9.6 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานทำอาหารสำหรับเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 88.2 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 90.2 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 5.2 และ 5.4 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคใต้ในเดือนพฤษภาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 13.5 และ 1.2 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -6.0 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -11.7 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 52.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 53.8 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -34.4 และ -50.0 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 81.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 83.1 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -4.6 และ -2.7 ต่อปี ตามลำดับ

เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนพฤษภาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค การท่องเที่ยวที่ขยายตัว และความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวที่ร้อยละ 5.0 ต่อปี อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -6.6 -9.7 และ -11.4 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 57.1 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 58.1 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -41.7 และ -62.1 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 68.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 67.5 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 5.6 และ 3.3 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล ในเดือนพฤษภาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 4.9 และ 12.2 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -7.2 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 4.9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -4.8 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 53.2 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 54.5 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -27.9 และ -50.3 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 109.3 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตอาหาร น้ำจิ้ม น้ำซุป และอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ ในจังหวัดปทุมธานี เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 97.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -5.6 และ -11.4 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคกลางในเดือนพฤษภาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภค และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวที่ร้อยละ 5.0 ต่อปี อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -20.6 -15.0 และ -1.8 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 53.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 54.6 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -44.6 และ -71.5 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 571.0 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตภาชนะบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากฟิล์มพลาสติก ในจังหวัดสระบุรี เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 97.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -3.5 และ -4.0 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคตะวันออกในเดือนพฤษภาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -4.5 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 45.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -10.5 -11.8 และ -9.1 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 56.7 ลดลงจาก
เดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.9 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -46.9 และ -54.6 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 440.7 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ ในจังหวัดปราจีนบุรี เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 92.1 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 93.9 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -0.7 และ -5.2 ต่อปี ตามลำดับ 

เศรษฐกิจภาคตะวันตกในเดือนพฤษภาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -2.4 -2.5 -16.5 และ -7.9 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 53.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 54.6 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -34.6 และ -78.7 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 95.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 97.0 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 0.5 และ 2.8 ต่อปี ตามลำดับ 

นอกจากนี้ ผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคของไทย ซึ่งสำรวจจากสำนักงานคลังจังหวัดและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยพบว่า ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนพฤษภาคม 2568 สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาคที่ปรับตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าในเกือบทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคตะวันออก จากความเชื่อมั่นที่ชะลอตัวในภาคบริการเป็นสำคัญ ขณะเดียวกันกำลังซื้อสะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคประชาชนปรับตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าในเกือบทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคกลางและ กทม. และปริมณฑล โดยความเชื่อมั่นในภาพรวมชะลอลงในภาคอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคใน 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวชะลอลงในหลายภูมิภาค เนื่องจากเศรษฐกิจยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะสภาพอากาศที่แปรปรวน มาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ รวมถึงต้นทุนการผลิตและระดับหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภูมิภาคในระยะต่อไป