Authority & Harm

กระบะด่วนผักถูกวางสนุ๊กพุ่งชนท้าย6ล้อ ที่จอดจ่อท้ายรถพ่วงที่กำลังรอกลับรถ



ชุมพร-เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 27 มิถุนายน 68 พ.ต.ท.คำนวน ปฏิแพทย์ สว.สอบสวน สภ.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจาก ร.ต.อ.วิมล แก้วชู รอง สว.(ป.)ส.ทลง.ชุมพร ว่า เกิดเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คัน บริเวณจุดยูเทิร์น บนถนนสายเพชรเกษม หน้าป้อมบริการตำรวจทางหลวงท่าแซะ ม.8 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มีผู้บาดเจ็บติดภายใน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานชุดกู้ชีพกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ นำอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าช่วยเหลือ

โดยในที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ แบบกระเปลือย ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 70-5601 เพชรบุรี ส่วนตัวพ่วงท้าย หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 70-5602 เพชรบุรี จอดอยู่สภาพส่วนหัวค่อมช่องจราจรลักษณะเตรียมจะเลี้ยวกลับรถ ส่วนตัวพ่วงท้าย อยู่ช่องจราจรที่สองของช่องจราจร จากสามช่องเฉพาะจุดกลับรถ โดยมีนายอันวาร อาลี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/3 ม.1 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เป็นคนขับ

ส่วนด้านบริเวณด้านท้าย พบรถบรรทุก 6 ล้อ กระบะไม้ สีฟ้าอ่อน ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 81-6918 เพชรบุรี อยู่ในสภาพชนอัดติดก๊อปปี้อยู่กับส่วนตัวพ่วงของรถบรรทุก 22 ล้อ โดยมีนายสุทธิพงศ์ ปิ่นพงษ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/1 ม.2 ต.โรงเข้ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี คนขับรถโดยช่วงขาตั้งแต่ขาลงไปถึงเท้าอัดติดอยู่กับพวงมาลัยรถและคอลโซนอยู่ภายในเก๋ง ซึ่งยังสามารถพูดโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ได้เป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพกู้ภัย จึงได้นำเครื่องมืออุปกรณ์ตัดถ่าง ตัดชิ้นส่วนของตัวรถ โดยใช้เวลาเพียง 10 นาที ก็สามารถนำตัวออกมาได้โดยปลอดภัย แต่กว่าจะเคลื่อนย้ายออกจากรถมาได้ อย่างทุลักทะเล เนื่องจากนายสุทธิพงษ์ มีน้ำหนักถึง 150 กก.และต้องใช้กำลังคนช่วยหามเปลกว่า 8 คน

ในขณะเดียวกันพบรถยนต์กระบะคอก ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ผข 8843 ราชบุรี บรรทุกผักสดมาเต็มคัน อยู่ในสภาพตั้งแต่กันชนด้านหน้ารถมาจนถึงห้องเก๋งชนอัดติดมุดใต้กระบะท้ายของรถบรรทุก 6 ล้อ ส่วนตัว นายเสถียน ภูสี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 348/447 ม.8 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นคนขับ ชาวบ้านช่วยเหลือนำออกมาจากรถได้อย่างปลอดภัย มีบาดแผลจากเศษกระจกหน้ารถที่แตกแทงเท้าเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น

จากกการสอบถามนายอันวาร อาลี คนขับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ทราบว่า ตนเองได้บรรทุกสินค้าเป็นข้าวสารมาจาก จ.ชัยนาท เพื่อจะนำไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.นราธิวาส แต่ขณะที่กำลังขับรถมุ่งลงสายใต้ จนมาถึงที่เกิดเหตุ รถตนเองมีปัญหาระบบไฟ บังเอิญที่ร้านซ่อมอยู่ฝั่งขาขึ้น ตนเองจึงได้ขับมายังจุดยูเทริน และได้จอดรอรถฝั่งขาขึ้นให้ว่าง แล้วจะได้กลับรถไปที่ร้านซ่อม แต่สักพักก้ได้ยินเสียงโครมใหญ่ดัง สนั่นจนรถสะเทือน และเปิดประตูดูก็พบว่าด้านท้ายของตัวพ่วงถูกรถบรรทุก 6 ล้อชนท้ายแล้ว และพบรถบรรทุก 6 ล้อยังถูกรถกระบะบรรทุกผักชนท้ายต่ออีกที

 ส่วนนายสุทธิพงศ์ ปิ่นพงษ์ คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ เปิดเผยว่า ตนเองกำลังขับรถจะไปบรรทุกทุเรียนที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไปอีกประมาณ 70 กม.และขณะที่ขับรถตามรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวมา และพบว่ารถบรรทุกพ่วง เปิดสัญญาณไฟจะกลับรถที่จุดกลับรถ ตนเองซึ่งขับรถตามมาติดติดๆจึงต้องจอดจ่อท้ายและเปิดสัญญาณไฟกระพริบ บนช่องที่ 2 เลนขวาสุดของช่องจราจรของการเดินรถ เพื่อให้รถบรรทุกพ่วงได้กลับรถไปก่อน รถตนจึงไปได้

นายสุทธิพงศ์ ปิ่นพงษ์ กล่าวว่า และขณะที่จอดรถจ่อท้ายรถบรรทุกพ่วง สังเกตจากกระจกมองหลังรถเห็นรถกระบะคอก มาด้วยความเร็วและดูแล้วน่าจะเอาไม่อยู่ และเป็นไปตามที่คาด รถกระบะคันดังกล่าวชนเข้าท้ายรถของตนเองอย่างแรง และด้วยแรงกระแทกของรถกระบะที่บรรทุกมาหนัก ส่วนรถของตนเองเป็นรถเปล่า น้ำหนักไม่มาก ส่งผลให้รถของตนเองที่จอดอยู่ไหลพุ่งชนอัดท้ายกับรถบรรทุกพ่วงดังกล่าว แต่โชคดีที่ตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก

ในขณะที่ด้าน นายเสถียน ภูสี คนขับรถกระบะบรรทุกผัก ยอมรับว่า ตนเองได้ขับรถมาจาก จ.ราชบุรี เพื่อจะไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตนเองได้ขับรถตามท้ายรถกระบะมาติดติด โดยใช้ช่องจราจรขวาสุด จนมาถึงที่เกิดเหตุ รถกระบะคันที่ตนเองตามท้ายมา ได้หักออกช่องจราจรซ้ายอย่างกะทันหัน เหมือนหักหลบอะไรข้างหน้า ส่วนตนเองหักไม่ทันประกอบกับคิดว่าคงหลบให้ แต่ผิดคาดเมื่อพบว่าข้างหน้ามีรถบรรทุกจอดอยู่ ตนเองทำอะไรไม่ทัน จึงพุ่งชนอย่างจังในที่สุด

ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งเคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุ เพื่อเคลียร์พื้นที่เนื่องจากรถที่สัญจรขาล่องใต้เริ่มติดยาวนับหลายกิโลเมตร และได้เชิญตัวคนขับทุกคนของทุกคันมา สภ.ท่าแซะ เพื่อสอบปากคำอย่าละเอียด ในการหาข้อสรุปในเหตุการณืในครั้งนี้ต่อไป