Digitel Tech & AI
โซนี่เปิดตัวไลน์อัปทีวีBRAVIA2025ใหม่ ยกระดับความบันเทิงในบ้านด้วยAI

กรุงเทพฯ-1 ก.ค. 2568 - บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดตัวไลน์อัปทีวี BRAVIA และระบบเสียงภายในบ้าน BRAVIA Theatre ประจำปี 2025 ยกระดับความบันเทิงภายในบ้านสู่มาตรฐานโรงภาพยนตร์ ภายใต้คอนเซปต์ “Cinema is coming home” ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง โดยไฮไลต์สำคัญในปีนี้ ได้แก่ BRAVIA 8 II ที่มาพร้อม QD-OLED Panel รุ่นใหม่ล่าสุด ให้ความสว่างมากกว่ารุ่นก่อนหน้า 50% เมื่อเทียบกับ BRAVIA 8 เพื่อมอบภาพสีสันสดใส คมชัด สมจริงตามต้นฉบับของผู้สร้าง ด้าน BRAVIA 5 ทีวี Mini LED รุ่นใหม่ โดดเด่นด้วยการอัปเกรดเป็น XR Processor รุ่นล่าสุด เสริมด้วยฟีเจอร์ใหม่ XR Clear Image ด้วย AI algorithm ใหม่ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพคอนเทนต์จากสตรีมมิ่งให้ดีขึ้นโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์ออนไลน์ ทั้งสองรุ่นมาพร้อม XR Processor เช่นเดียวกับรุ่นแฟลกชิป BRAVIA 9 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้
ส่วน BRAVIA 2 II ทีวี LED รุ่นเริ่มต้น เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเข้าสู่โลกแห่งความบันเทิงภายในบ้าน มาพร้อมแอปพลิเคชัน Sony Pictures Core ให้เข้าถึงภาพยนตร์คุณภาพจากค่าย Sony Pictures ได้อย่างสะดวก
นอกจากนี้ โซนี่ยังเปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ระบบเสียง BRAVIA Theatre ซึ่งประกอบด้วย ซาวด์บาร์ BRAVIA Theatre Bar 6, ระบบโฮมเธียเตอร์ BRAVIA Theatre System 6, และลำโพงเสริมอย่าง BRAVIA Theatre Rear 8 และ BRAVIA Theatre Sub 7 ที่มอบเสียงเซอร์ราวด์สมจริง พร้อมการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อกับทีวี BRAVIA ผ่านแอปพลิเคชัน BRAVIA Connect ให้ผู้ใช้งานควบคุมได้ง่ายผ่านสมาร์ตโฟน
ผลิตภัณฑ์ทีวี BRAVIA รุ่นใหม่ ประจำปี 2025
• BRAVIA 8 II - QD-OLED TV
BRAVIA 8 II - QD-OLED TV รุ่นล่าสุด มาพร้อมดีไซน์ “One Slate” แบบบางเฉียบที่ผสานหน้าจอและขอบจอเข้าเป็นหนึ่งเดียวอย่างไร้รอยต่อ เสริมความเรียบหรูด้วยขาตั้งอะลูมิเนียมที่เพรียวบางจนแทบมองไม่เห็นเมื่อมองจากด้านข้าง โดยรุ่นใหม่นี้ยังถูกออกแบบให้บางกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 3 มิลลิเมตร เพื่อให้ผู้ชมสามารถโฟกัสกับภาพสวยงามสมจริงได้อย่างเต็มที่ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล XR Processor และแผงหน้าจอ QD-OLED รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อถ่ายทอดภาพได้อย่างสมจริงตามเจตนารมณ์ของผู้สร้าง ด้วยเทคโนโลยี XR Triluminos Max™ ที่ช่วยแสดงสีสันอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมคงความสดใสของแต่ละเฉดสีได้อย่างลงตัว มั่นใจได้ว่าสีสันที่แสดงออกมาถูกต้องแม่นยำ ขณะเดียวกัน ระบบ AI Scene Recognition จะวิเคราะห์และปรับแต่งภาพในแต่ละฉากอย่างละเอียด เพื่อเพิ่มความสมจริงให้ทุกฉากสำคัญ ระบบ XR Contrast Booster ทำหน้าที่ควบคุมแสงในแต่ละจุดของภาพอย่างแม่นยำ ผสานกับหน้าจอความสว่างสูงและเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิภายในทีวี เพื่อสร้างรายละเอียดและมิติที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ BRAVIA 8 II ยังมาพร้อมเทคโนโลยีเสียง Acoustic Surface Audio+™ ที่เปลี่ยนหน้าจอทั้งหมดให้กลายเป็นลำโพงเสียงทรงพลัง ถ่ายทอดเสียงตรงจากตำแหน่งจริงในฉาก เพื่อมอบประสบการณ์รับชมแบบโรงภาพยนตร์ที่เต็มอิ่ม ด้วยภาพโทนสีดำสนิท คอนทราสต์สูง และคุณภาพระดับ OLED ที่พร้อมยกระดับความบันเทิงภายในบ้านได้อย่างแท้จริง
• BRAVIA 5 - Mini LED TV
BRAVIA 5 Mini LED TV รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่สูงสุดถึง 98 นิ้ว เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์เสมือนอยู่ในโรงหนังด้วยจอใหญ่เต็มอิ่ม โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีควบคุมแสงไฟ LED อัจฉริยะผ่านระบบ XR Backlight Master Drive ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลักเดียวกับที่ใช้ในจอมอนิเตอร์ระดับมืออาชีพของโซนี่ ผสานกับระบบ Local Dimming ที่ช่วยปรับแสงเฉพาะจุดอย่างแม่นยำ เพื่อสร้างคอนทราสต์อันน่าทึ่ง ถ่ายทอดรายละเอียดของแสงและเงาได้อย่างมีมิติและสมจริงในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเงาอ่อนบนใบหน้าหรือแสงไฮไลต์ในฉากสำคัญ นอกจากนี้ BRAVIA 5 ยังมาพร้อม XR Processor รุ่นล่าสุด เช่นเดียวกับรุ่นแฟลกชิป BRAVIA 9 เสริมด้วยฟีเจอร์ใหม่ XR Clear Image ด้วย AI algorithm ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพภาพจากคอนเทนต์สตรีมมิ่งโดยเฉพาะ เพิ่มความคมชัดให้กับภาพยนตร์และรายการโปรดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ โดยทีวีรุ่นนี้มีให้เลือกถึง 5 ขนาด ตั้งแต่ 98 นิ้วไปจนถึง 55 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่เติมเต็มความบันเทิงภายในบ้านอย่างสมบูรณ์แบบ ให้ทุกค่ำคืนแห่งการชมภาพยนตร์กลายเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ
• BRAVIA 2 II – LED TV
BRAVIA 2 II ถือเป็นทีวีรุ่นเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่กำลังมองหาประสบการณ์รับชมที่เหนือระดับ ด้วยฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นและครบครัน สร้างสรรค์ความบันเทิงให้ตื่นตาตื่นใจในทุกค่ำคืน ไม่ว่าจะเป็นการอัปสเกลภาพยนตร์โปรดที่มีความละเอียดระดับ HD ให้คมชัดใกล้เคียงระดับ 4K รองรับระบบเสียง Dolby Atmos® และ DTS:X® ที่มอบมิติของเสียงสมจริงรอบทิศทาง ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Google TV ที่ใช้งานง่าย พร้อมคอนเทนต์หลากหลายจากแอปพลิเคชันยอดนิยม ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การรับชมอย่างแท้จริง อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ความบันเทิงพิเศษอย่าง Sony Pictures Core ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกชมภาพยนตร์คุณภาพจากค่าย Sony Pictures ได้อย่างสะดวกง่ายดาย
Cinema is coming home: เพลิดเพลินกับภาพยนตร์และรายการโปรด ตามแบบที่ผู้สร้างตั้งใจ
ทีวี BRAVIA ได้รับการออกแบบมาเพื่อถ่ายทอดภาพและเสียงให้ตรงตามเจตนารมณ์ของผู้สร้างภาพยนตร์อย่างแท้จริง ด้วยโหมด Studio Calibrated ที่สามารถปรับภาพให้สอดคล้องกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Netflix Adaptive Calibrated Mode, Sony Pictures Core Calibrated Mode หรือ Prime Video Calibrated Mode ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้ภาพที่แสดงผลใกล้เคียงกับต้นฉบับจากสตูดิโอมากที่สุด นอกจากนี้ ทั้งทีวี BRAVIA และระบบเสียง BRAVIA Theatre ยังรองรับมาตรฐาน IMAX® Enhanced ซึ่งผ่านการรับรองจาก IMAX® และ DTS เพื่อมอบคุณภาพของภาพและเสียงในระดับพรีเมียม โดยเฉพาะการรับชมภาพยนตร์จาก Sony Pictures Core และภาพยนตร์บางเรื่องจาก Disney+ ที่รองรับเสียง DTS:X® เต็มรูปแบบผ่านโหมด IMAX Enhanced ยิ่งไปกว่านั้น ทีวี BRAVIA ยังรองรับทั้ง Dolby Vision® และ Dolby Atmos® เพื่อมอบภาพที่สว่างสดใส คอนทราสต์คมชัด สีสันอิ่มสมจริง พร้อมเสียงรอบทิศทาง ช่วยเติมเต็มอรรถรสในการรับชมคอนเทนต์จาก Netflix, Disney+ และบริการสตรีมมิ่งชั้นนำอื่น ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อกับระบบเสียง BRAVIA Theatre
เพียงจับคู่ทีวี BRAVIA เข้ากับระบบเสียง BRAVIA Theatre คุณก็จะได้สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงที่ไร้รอยต่อ เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับสิ่งสำคัญที่สุด นั่นคือคอนเทนต์คุณภาพเยี่ยม ผู้ใช้งานสามารถควบคุมทั้งทีวี BRAVIA และเครื่องเสียง BRAVIA Theatre ได้อย่างง่ายดายผ่านสมาร์ตโฟนด้วยแอปพลิเคชัน BRAVIA Connect ที่ช่วยให้การปรับระดับเสียงและตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ เป็นเรื่องสะดวก โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพารีโมตหรือดูเมนูบนหน้าจอทีวี อีกทั้งยังสามารถควบคุมฟีเจอร์สำคัญ เช่น โหมดเสียง (Sound Field) และ ระดับเสียง ได้โดยตรงจากรีโมตทีวี ด้วยระบบอินเทอร์เฟซแบบบูรณาการ ซึ่งจะแสดงเมนูการตั้งค่าของซาวด์บาร์โดยอัตโนมัติในหน้า Quick Settings ของ BRAVIA เพื่อความสะดวกสูงสุดในการใช้งาน
สเปกหลักของทีวี BRAVIA รุ่นใหม่ ประจำปี 2025
รายการ |
BRAVIA 8 II |
BRAVIA 5 |
BRAVIA 2 II |
ประเภทหน้าจอ |
QD-OLED |
Mini LED |
LED |
ขนาดหน้าจอ (นิ้ว) |
65, 55 |
98, 85, 75, 65, 55 |
65, 55, 50, 43 |
คุณสมบัติเด่นด้านภาพ |
XR Processor, XR Triluminos Max™, XR Contrast Booster 25, XR Clear Image, XR OLED Motion, 4K 120Hz |
XR Processor, XR Backlight Master Drive, XR Contrast Booster 10, XR Clear Image with new AI, XR Triluminos Pro™, XR Motion Clarity, 4K 120Hz |
4K Processor X1, 4K X-Reality PRO |
คุณสมบัติเด่นด้านเสียง |
Voice Zoom 3™, Acoustic Surface Audio+™ |
Voice Zoom 3™, Acoustic Multi-Audio |
- |
ประสบการณ์ใช้งาน |
Google TV, Ambient Optimization Pro, Game Menu 2, PS Remote Play, Eco Dashboard 2 |
Google TV, Ambient Optimization Pro, Game Menu 2, PS Remote Play, Eco Dashboard 2 |
Game Menu, PS Remote Play, Eco Dashboard 2, Google TV, Ambient Optimization |
ฟีเจอร์สำหรับคอหนัง |
Studio Calibrated, SONY PICTURES CORE, Dolby Vision® / Atmos®, IMAX® Enhanced, DTS:X® |
Studio Calibrated, SONY PICTURES CORE, Dolby Vision® / Atmos®, IMAX® Enhanced, DTS:X® |
SONY PICTURES CORE, Dolby Atmos®, DTS:X® |
การออกแบบ |
Slim One Slate design with Seamless Edge |
One Slate design |
Flush Surface |
ผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงภายในบ้าน BRAVIA Theatre รุ่นใหม่ ประจำปี 2025
• BRAVIA Theatre Bar 6 ซาวด์บาร์ 3.1.2 แชนเนลพร้อมซับวูฟเฟอร์ไร้สาย
BRAVIA Theatre Bar 6 เป็นซาวด์บาร์แบบ 3.1.2 แชนเนล ที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้า โดยเพิ่ม Up-firing Speakers จำนวน 2 ตัว สำหรับการยิงเสียงขึ้นด้านบน เพื่อเพิ่มมิติเสียงในแนวตั้ง มอบประสบการณ์เสียงเซอร์ราวด์สมจริงยิ่งขึ้น พร้อมถ่ายทอดบทสนทนาได้อย่างคมชัด มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ไร้สายที่ให้เสียงเบสหนักแน่นและสมดุล รองรับระบบเสียง Dolby Atmos® และ DTS:X® เพื่อสร้างเสียงเซอร์ราวด์ทรงพลังในระดับโรงภาพยนตร์ เสริมด้วยเทคโนโลยี Vertical Surround Engine และ S-Force PRO Front Surround พร้อมเทคโนโลยี Upmixer เฉพาะของโซนี่ ที่สามารถจำลองเสียงแบบสามมิติให้กับคอนเทนต์ทุกรูปแบบได้อย่างสมจริง ผู้ใช้งานจึงสามารถสัมผัสประสบการณ์เสียงสามมิติได้ไม่เพียงแต่กับคอนเทนต์ที่รองรับระบบเซอร์ราวด์ แต่ยังรวมถึงคอนเทนต์เสียงสเตอริโอทั่วไปอีกด้วย และเพื่อให้บทสนทนาในทุกฉากชัดเจนยิ่งขึ้น ซาวด์บาร์รุ่นนี้ยังติดตั้งลำโพงเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ สำหรับถ่ายทอดเสียงพูดได้อย่างแม่นยำ โดยเมื่อจับคู่ใช้งานร่วมกับทีวี BRAVIA ที่รองรับเทคโนโลยี Voice Zoom 3™ ซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI machine learning ผู้ใช้งานจะสามารถแยกเสียงพูดของมนุษย์ออกจากเสียงพื้นหลังหรือเสียงประกอบอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมปรับระดับเสียงให้คมชัดยิ่งขึ้นในทุกฉากสำคัญ
• BRAVIA Theatre System 6 ระบบเครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์ 5.1 แชนเนล
BRAVIA Theatre System 6 เป็นระบบเครื่องเสียง 5.1 แชนเนล ที่มีกำลังขับสูงถึง 1,000 วัตต์ มาพร้อมซับวูฟเฟอร์และลำโพงคู่หลัง เพื่อมอบมิติเสียงลึก อิ่มชัด และสมดุล การจัดวางลำโพงแบบ 5.1 แชนเนล ช่วยเพิ่มน้ำหนัก มิติ และความชัดเจนของเสียงในทุกย่านความถี่ ขณะเดียวกันยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos® และ DTS:X® เพื่อถ่ายทอดเสียงรอบทิศทางได้อย่างสมจริง ระบบนี้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Vertical Surround Engine และ S-Force PRO Front Surround จากโซนี่ ที่ช่วยถ่ายทอดบรรยากาศเสียงของภาพยนตร์ได้เสมือนผู้ชมอยู่ในฉากจริงตามเจตนารมณ์ของผู้สร้าง พร้อมความสามารถในการจำลองเสียงหลายมิติให้กับคอนเทนต์ทุกรูปแบบ เช่นเดียวกับ BRAVIA Theatre Bar 6 รุ่นนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Voice Zoom 3™ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ใช้อัลกอริทึมในการปรับเสียงพูดให้คมชัด แม้ในกรณีที่เสียงต้นทางเบาก็ตาม และเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม ฟีเจอร์ Multi Stereo ยังสามารถขยายเสียงจากลำโพงซ้าย-ขวาไปยังลำโพงกลางและด้านหลัง เพื่อสร้างมิติของเสียงจากหลายทิศทางได้อย่างทรงพลัง
• ลำโพงหลัง BRAVIA Theatre Rear 8 และซับวูฟเฟอร์ BRAVIA Theatre Sub 7
BRAVIA Theatre Rear 8 และ BRAVIA Theatre Sub 7 คือลำโพงเสริมที่ออกแบบมาเพื่อเติมเต็มประสบการณ์โฮมเธียเตอร์ภายในบ้านให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดย BRAVIA Theatre Rear 8 สามารถเชื่อมต่อกับซาวด์บาร์ที่รองรับแบบไร้สาย เพื่อสร้างประสบการณ์เสียงเสมือนรอบทิศทางแบบ 360 องศา ด้วยเทคโนโลยี 360 Spatial Sound Mapping เฉพาะของโซนี่ ซึ่งสามารถปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งานของแต่ละบ้านได้อย่างแม่นยำ ขณะที่ BRAVIA Theatre Sub 7 ช่วยเติมเต็มมิติเสียงในย่านความถี่ต่ำหรือเสียงทุ้ม มอบสัมผัสของแอ็กชันอันเร้าใจที่คุณไม่เพียงได้ยิน แต่ยังรู้สึกได้จริง ตัวลำโพงออกแบบให้มีขนาดบางกะทัดรัด รองรับทั้งการวางแนวด้านตรงหันหน้าและแนวด้านข้าง เพื่อความยืดหยุ่นในการจัดวางในทุกมุมของบ้าน ลำโพงเสริมทั้งสองรุ่นนี้ไม่เพียงมอบคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม แต่ยังกลมกลืนกับการตกแต่งภายในอย่างมีสไตล์
สเปกหลักผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงภายในบ้าน BRAVIA Theatre รุ่นใหม่
<ซาวด์บาร์ / ระบบโฮมเธียเตอร์>
รุ่น |
BRAVIA Theatre Bar 6 |
BRAVIA Theatre System 6 |
||
ประเภท |
ซาวด์บาร์ พร้อมซับวูฟเฟอร์ |
ระบบโฮมเธียเตอร์ |
||
โครงสร้างลำโพง |
3.1.2 แชนเนล ประกอบด้วยลำโพงบาร์ (ซ้าย-ขวา/เซ็นเตอร์/ลำโพงยิงขึ้นบน) และซับวูฟเฟอร์ |
5.1 แชนเนล ประกอบด้วยลำโพงบาร์ (ซ้าย-ขวา/เซ็นเตอร์/ทวีตเตอร์), ลำโพงหลัง (พร้อมทวีตเตอร์) และซับวูฟเฟอร์ |
||
กำลังขับรวม |
350 วัตต์ |
1000 วัตต์ |
||
คุณสมบัติเด่น |
|
Dolby Atmos®, DTS:X®, Vertical Surround Engine / S-Force PRO Front Surround, เทคโนโลยี Upmixer เฉพาะของโซนี่, Multi Stereo, Voice Zoom 3™ |
||
การใช้งานร่วมกับแอปฯ |
BRAVIA Connect |
BRAVIA Connect |
<ลำโพงเสริม>
รุ่น |
BRAVIA Theatre Rear 8 |
BRAVIA Theatre Sub 7 |
ประเภท |
ลำโพงหลัง |
ซับวูฟเฟอร์ |
โครงสร้างลำโพง |
2 แชนเนล (ซ้าย + ขวา) |
1 แชนเนล |
กำลังขับรวม |
100 วัตต์ |
100 วัตต์ |
คุณสมบัติเด่น |
360 Spatial Sound Mapping, มีทั้งวูฟเฟอร์และทวีตเตอร์, การเชื่อมต่อไร้สาย |
ขอบเว้ารอบตัวเครื่อง, วางได้ 2 รูปแบบ, การเชื่อมต่อไร้สาย |
BRAVIA และ BRAVIA Theatre ที่ใส่ใจการใช้งานของทุกคน
ทีวี BRAVIA ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะผู้ที่มีข้อจำกัดทางการมองเห็น ด้วยฟีเจอร์ Talkback ที่ช่วยอ่านหน้าจอและแนะนำขั้นตอนการตั้งค่าต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าทีวีและตรวจสอบรายการได้โดยไม่ต้องมองหน้าจอ พร้อมความสามารถในการปรับระดับเสียงและความเร็วของเสียงพูดได้ตามต้องการ นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน BRAVIA Connect ยังรองรับการควบคุมทั้งทีวี BRAVIA และระบบเครื่องเสียง BRAVIA Theatre ผ่านสมาร์ตโฟน โดยสามารถใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Talkback ได้อีกด้วย (หมายเหตุ: รองรับกับทีวีรุ่น BRAVIA 9, BRAVIA 8, BRAVIA 7, ซาวด์บาร์รุ่น BRAVIA Theatre Bar 9, BRAVIA Theatre Bar 8 และลำโพงคล้องคอไร้สายรุ่น BRAVIA Theatre U)
เพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ ทีวี BRAVIA ยังเพิ่มจุดสัมผัสพิเศษ (Tactile Dots) บริเวณพอร์ต HDMI และ S-Center ซึ่งสอดคล้องกับดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ BRAVIA Theatre เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถระบุตำแหน่งพอร์ตได้ง่ายและเชื่อมต่อสายได้ถูกต้อง แม้ไม่ต้องอาศัยการมองเห็น ขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานยังสามารถสั่งงานด้วยเสียง เช่น การเปิด-ปิดเครื่อง หรือปรับระดับเสียง รวมถึงเรียกใช้งานคำสั่งลัด (Shortcut Commands) เพื่อเปิดหรือปิดฟีเจอร์ช่วยเหลือการเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ทีวีเครื่องเดียวรองรับการใช้งานได้ทั้งผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือและผู้ใช้งานทั่วไป (หมายเหตุ: เฉพาะซาวด์บาร์และอุปกรณ์ในกลุ่ม BRAVIA Theatre Quad ได้แก่ BRAVIA Theatre Bar 9, BRAVIA Theatre Bar 8, BRAVIA Theatre Bar 6, BRAVIA Theatre System 6, BRAVIA Theatre Sub 7 และ BRAVIA Theatre Rear 8)
โซนี่ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีกรอบนูนรูปสี่เหลี่ยมบริเวณที่ระบุ QR Code สำหรับดาวน์โหลดแอป BRAVIA Connect ซึ่งรองรับการใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Screen Reader (โปรแกรมอ่านหน้าจอ) เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลและดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้อย่างสะดวก แม้ในกรณีที่มีข้อจำกัดทางการมองเห็น
BRAVIA และ BRAVIA Theatre กับความใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีภาพและเสียง โซนี่ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างยั่งยืน โดยทีวี BRAVIA รุ่นใหม่ โดยเฉพาะ BRAVIA 5 ได้รับการออกแบบให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลสัญญาณที่พัฒนาโดยโซนี่ ซึ่งสามารถปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมกับแต่ละฉากโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดและสว่างสดใส พร้อมช่วยลดการใช้พลังงานในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ Eco Dashboard 2 ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งค่าการใช้พลังงานได้อย่างง่ายดาย โดยแสดงข้อมูลทุกฟังก์ชันในหน้าเดียวอย่างชัดเจน พร้อมระบบตรวจสอบการใช้ไฟฟ้าเพื่อประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงสุด
BRAVIA ยังมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลที่หลากหลาย ทั้ง SORPLAS™ พลาสติกรีไซเคิลที่พัฒนาโดยโซนี่เอง รวมถึงพลาสติกทั่วไป เหล็ก และอะลูมิเนียม ซึ่งนำมาใช้กับชิ้นส่วนต่าง ๆ อาทิ กล่องลำโพงและกรอบหน้าจอ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ทั้งสวยงาม แข็งแรง และเป็นมิตรต่อโลก
ในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงภายในบ้าน BRAVIA Theatre ก็ได้รับการออกแบบให้ลดการใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ โดยเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ผ้าหุ้มที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลจากขวด PET ซึ่งผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อรักษาทั้งคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม รวมถึงดีไซน์ พื้นผิว และสีสันที่กลมกลืนสวยงาม