Think In Truth

พระมหากษัตริย์:เสาหลักแห่งชาติศูนย์รวมจิตวิญญาณไทย โดย: ฟอนต์ สีดำ



เส้นทางแห่งศรัทธาสู่การบูชาสถาบันหลักของชาติ

การกอบกู้และแก้ไขกรรมหมู่ของชาติไทยหาใช่ภาระของผู้ใดผู้หนึ่งไม่ หากแต่เป็นพันธกิจร่วมกันของประชาชนทั้งปวง ด้วยการสร้างความรัก ความสามัคคี และความเคารพในสถาบันหลักทั้งสาม ได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ในบทความก่อนหน้านี้ได้กล่าวถึงการบูชาชาติและศาสนาแล้ว บทความนี้จึงขอเน้นย้ำองค์ประกอบสุดท้ายอันสำคัญยิ่ง คือ "การบูชาพระมหากษัตริย์"

พระมหากษัตริย์ไทยมิใช่เพียงประมุขของรัฐ หากยังทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรไทยทั้งประเทศ ทรงเป็นองค์ประธานในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ โดยอาศัยพลังแห่งความร่วมแรงร่วมใจ ความจงรักภักดี และศรัทธาของประชาชนในการนำพาชาติให้มั่นคง ยั่งยืน และสงบร่มเย็น

พระมหากษัตริย์ในฐานะเสาค้ำจุนแผ่นดิน

สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหนึ่งในรากฐานที่มั่นคงที่สุดของชาติไทย ความสำคัญของพระองค์มิได้จำกัดเพียงตำแหน่งแห่งอำนาจ แต่คือการดำรงตนเป็นต้นแบบแห่งความเสียสละ อุทิศตนเพื่อผืนแผ่นดิน และประพฤติปฏิบัติตนตามกรอบธรรมและกฎหมายอันเข้มงวด ได้แก่ ทศพิธราชธรรม และ กฎมณเฑียรบาล ซึ่งเป็นเสมือนสัจธรรมและธรรมนูญเฉพาะสำหรับพระมหากษัตริย์แต่ผู้เดียว

ทศพิธราชธรรม: หลักธรรมประจำพระราชหฤทัย

ทศพิธราชธรรม เป็นแนวธรรม ๑๐ ประการที่พระมหากษัตริย์พึงทรงยึดถือเพื่อการครองแผ่นดินโดยธรรม ได้แก่:

  1. ทาน — การให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
  2. ศีล — การดำรงอยู่ในความดี ความงาม และความเหมาะสม
  3. บริจาค — ความเสียสละทั้งทรัพย์และพระวรกายเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน
  4. อาชชวะ — ความซื่อตรงไม่บิดเบือน
  5. มัททะวะ — ความอ่อนโยน สุภาพ และอ่อนน้อม
  6. ตปะ — ความเพียรพยายามในการขจัดกิเลสและความหลงผิด
  7. อักโกธะ — ความไม่โกรธ
  8. อวิหิงสา — ความไม่เบียดเบียน
  9. ขันติ — ความอดทน อดกลั้นต่อความทุกข์
  10. อวิโรธนะ — ความเที่ยงธรรม ไม่เอนเอียงจากธรรม

หลักธรรมเหล่านี้มิใช่เพียงแนวคิด แต่คือเข็มทิศที่ชี้นำพระราชหฤทัยให้ทรงยืนหยัดในความดีงามอย่างมั่นคง

กฎมณเฑียรบาล: ธรรมนูญแห่งราชสำนัก

กฎมณเฑียรบาล คือระบบกฎหมายเฉพาะสำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์ มีลักษณะเป็นกฎหมายจารีตประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน ครอบคลุมทั้งการสืบราชสันตติวงศ์ พระราชพิธี และการบริหารกิจการในราชสำนัก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อ:

  • กำหนดระเบียบและธรรมเนียมภายในราชสำนัก
  • ธำรงสถานะและพระเกียรติยศของพระมหากษัตริย์
  • ปรับให้สอดคล้องกับบริบทสังคมร่วมสมัย
  • แยกแยะจากกฎหมายสามัญของประชาชนทั่วไป

กฎหมายสำคัญ เช่น กฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467 ซึ่งบัญญัติในสมัยรัชกาลที่ 6 ยังคงเป็นหลักยึดถือในการผลัดแผ่นดินอย่างสงบสุข

สถาบันพระมหากษัตริย์: ต้นแบบธรรมาภิบาล

ธรรมาภิบาล หรือ Good Governance เป็นหลักการบริหารจัดการที่เน้นความโปร่งใส รับผิดชอบ มีคุณธรรม และมีส่วนร่วม ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ทรงเป็นต้นแบบในการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมเสมอมา โดยมีองค์ประกอบสำคัญ 6 ประการตามที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด ดังนี้:

  1. หลักนิติธรรม — การดำรงอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียม
  2. หลักคุณธรรม — การยึดมั่นในความดีและจริยธรรม
  3. หลักความโปร่งใส — การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา
  4. หลักความมีส่วนร่วม — การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีบทบาท
  5. หลักความรับผิดชอบ — การยอมรับผลของการกระทำ
  6. หลักความคุ้มค่า — การใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด

พระมหากษัตริย์ทรงนำหลักธรรมาภิบาลเหล่านี้มาปฏิบัติผ่านพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง

หน้าที่ของปวงชนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

เพื่อธำรงไว้ซึ่งสถาบันอันทรงคุณค่า ประชาชนคนไทยควรแสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ด้วยการ:

  1. ยึดมั่นและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
  2. ละเว้นการกระทำอันเป็นการหมิ่นเบื้องสูง
  3. ไม่แอบอ้างสถาบันเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือทำร้ายผู้อื่น
  4. ร่วมถวายกิจกรรมที่เป็นพระราชกุศล
  5. รักษาเกียรติของสถาบันด้วยการประพฤติตนอย่างเหมาะสม

สถาบันพระมหากษัตริย์ในยุทธศาสตร์แห่งชาติ

สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยมิได้ดำรงอยู่เพียงเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งประเพณี หากแต่เป็นเสาหลักทางจิตวิญญาณ เป็นต้นแบบแห่งคุณธรรม และเป็นศูนย์รวมความรักความสามัคคีของปวงชน พระองค์ทรงสละความสุขส่วนพระองค์เพื่อแผ่นดิน ดำรงธรรม ปฏิบัติตามหลักทศพิธราชธรรม และธำรงไว้ซึ่งจารีตอันทรงคุณค่า

ในการสร้างชาติให้มั่นคง ยั่งยืน และสงบร่มเย็น ปวงชนชาวไทยจำเป็นต้องตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณอย่างลึกซึ้ง และร่วมกันเทิดทูน บูชา และธำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดไป