Digitel Tech & AI
Bangkok AI Week2025ปิดฉากแล้ว ตอกย้ำไทยผู้นำAIอย่างมีจริยธรรม

กรุงเทพฯ-กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA (เอ็ตด้า) เผยความสำเร็จมหกรรมระดับชาติด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ครั้งยิ่งใหญ่ของไทย “Bangkok AI Week 2025” ภายใต้คอนเซปต์ AI Powered Nation: Unleashing the digital economy for all เมื่อวันที่ 23–27 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ภาครัฐ-เอกชน-ประชาชน ร่วมงานอย่างคับคั่ง ทั้งออนไซต์และออนไลน์กว่า 20,000 ราย ตอกย้ำทิศทางประเทศสู่ “อธิปไตยทาง AI” และ “การเลือกสนามรบที่ใช่” สร้างปรากฏการณ์และแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญให้กับระบบนิเวศเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย พร้อมชู 4 กิจกรรมไฮไลต์ที่จุดประกายอนาคตเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ตั้งแต่การวางยุทธศาสตร์ชาติ, การติดอาวุธให้ SMEs, การพลิกโฉมเศรษฐกิจด้วย AI ไปจนถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืน
ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า "งาน Bangkok AI Week 2025 ประสบความสำเร็จอย่างงดงามเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่กระจายตัวอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ทั้งในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์รวมแล้วกว่า 20,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวและความพร้อมของสังคมไทยในการเปิดรับเทคโนโลยี AI อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขผู้เข้าร่วม แต่คือการที่เราสามารถจุดประกายและกำหนดทิศทางยุทธศาสตร์ AI ของชาติให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ภายใต้สองแนวคิดหลักคือ ‘อธิปไตยทาง AI’ (AI Sovereignty) และ ‘การเลือกสนามรบที่ใช่’ ซึ่งจะเป็นธงนำในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยต่อไป”
ความพิเศษและยิ่งใหญ่ของงาน Bangkok AI Week 2025 ในปีนี้ คือการจัดขึ้นคู่ขนานไปกับการประชุมระดับโลก “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ และกิจกรรม Side Events เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมนอกเหนือจากประชุมวิชาการระดับนโยบาย โดยการจัดงานคู่ขนานกันนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมของไทยได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่เวที UNESCO มุ่งวางกรอบจริยธรรมระดับนโยบายโลก งาน Bangkok AI Week 2025 ก็ทำหน้าที่เป็นเวทีแห่งการแปลงนโยบายเหล่านั้นมาสู่การสร้างโอกาสทางธุรกิจ การพัฒนาทักษะ และการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค AI จะเกิดประโยชน์กับคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา (23–27 มิถุนายน 2568) งาน Bangkok AI Week 2025 ได้นำเสนอ 4 กิจกรรมไฮไลต์หลักที่ครอบคลุมทุกมิติสำคัญของการพัฒนา AI ของประเทศ ซึ่งแต่ละกิจกรรมได้สร้างแรงบันดาลใจและองค์ความรู้ที่แตกต่างกันออกไป
1. เปิดยุทธศาสตร์ชาติ: กำหนดจุดยืนไทยในเวทีโลก
เริ่มต้นสัปดาห์อย่างเข้มข้นด้วยเวทีเสวนา "ยุทธศาสตร์ AI ไทย: วางจุดยืนอย่างไรในเวทีโลก" ณ House Samyan สามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งเปรียบเสมือนการเปิดพิมพ์เขียวอนาคต AI ของประเทศ เวทีนี้ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจาก 3 ภาคส่วนสำคัญของระบบนิเวศ AI ไทย ทั้งจากภาคนโยบาย โดย
ภาครัฐ โดย ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด จาก ETDA, ภาคสาธารณสุข โดย นพ.ปิยะฤทธิ์ อิทธิชัยวงศ์ จากโรงพยาบาลศิริราช, และภาคธุรกิจที่ปรึกษา โดย นายพชร อารยะการกุล จาก บลูบิค กรุ๊ป บทสรุปที่ตกผลึกจากเวทีนี้คือ ประเทศไทยต้อง “เลือกสนามรบที่ใช่” โดยไม่มุ่งที่การแข่งขันสร้างโมเดลพื้นฐาน (Foundation Models) เพื่อแข่งกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก แต่ควรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา “โมเดลเฉพาะทาง” (Customized/Specialized Models) ซึ่งเปรียบเสมือน “ขุมทอง” ที่ไทยมีโอกาสชนะ เพราะสามารถนำข้อมูลบริบทไทยมาสร้างความได้เปรียบที่คู่แข่งระดับโลกไม่มี แนวทางนี้สอดคล้องกับหลักการ “อธิปไตยทาง AI” ที่ ดร.ศักดิ์ ย้ำว่าคือความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่แค่เรื่องศักดิ์ศรี
2. ติดอาวุธธุรกิจ: ชนะเกมด้วยกลยุทธ์ AI
ในวันที่สองของสัปดาห์ กับเวิร์กช็อป "ชนะเกมธุรกิจด้วยกลยุทธ์ AI" ผู้เชี่ยวชาญได้แบ่งปันกลยุทธ์สำคัญในการนำ AI มาใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ โดยสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้
- AI คือ พาร์ตเนอร์: ควรปรับมุมมองให้ AI เป็นผู้ช่วยเสริมศักยภาพของมนุษย์ ไม่ใช่คู่แข่ง โดยมนุษย์ยังคงเป็นผู้ควบคุมและสั่งการ
- Data คือ หัวใจ: ความสามารถของ AI ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูล องค์กรที่ลงทุนจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบจะสามารถดึงศักยภาพของ AI มาใช้ได้สูงสุด
- เทรนด์สำคัญที่ต้องจับตา: 3 แนวโน้มหลักในการพัฒนา AI สู่ระดับ AGI (ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป) คือ พลังงานที่มีประสิทธิภาพ, ฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลัง และประเด็นด้านจริยธรรมและความปลอดภัย
- เป้าหมายที่ไกลกว่าลดต้นทุน: การใช้ AI ในองค์กรไม่ควรหยุดแค่การลดต้นทุน แต่ต้องมุ่งสร้างคุณค่าใหม่ (New Value) และตอบสนองลูกค้าได้ดีขึ้น เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน
3. พลิกโฉมเศรษฐกิจ: AI กับการก้าวกระโดดครั้งใหม่
ในงานเสวนา "AI & The Next Economic Leap" ซึ่งรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลายวงการ ได้มีการวิเคราะห์ทิศทางเศรษฐกิจไทยในยุค AI โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
AI พลังขับเคลื่อนสำคัญ: ผู้ร่วมเสวนาชี้ว่า แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะซบเซา แต่ธุรกิจสามารถเติบโตได้ด้วย AI ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ SME ขยายตัวแบบก้าวกระโดดได้ เช่น กรณีศึกษาธุรกิจพวงหรีดที่ใช้ AI จัดการจนเติบโตและบริจาคเงินได้กว่า 30 ล้านบาทใน 5 ปี โดยใช้คนน้อยที่สุด นอกจากนี้ ศักยภาพของ AI ยังไปไกลกว่า Chatbot เห็นได้จากความสำเร็จในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจค้าปลีกที่เพิ่มรายได้, สาธารณสุขที่ลดงานเอกสารของแพทย์, และภาคเกษตรที่ลดการใช้สารเคมีลงได้อย่างมาก
ความท้าทายและทางออกของไทย: ประเทศไทยยังเผชิญความท้าทายเชิงโครงสร้าง ทั้งการขาดแคลนบุคลากรด้าน AI, ข้อจำกัดจากการบังคับใช้กฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA), และวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่กล้าลงทุน เพื่อปลดล็อกศักยภาพดังกล่าว มีข้อเสนอเร่งด่วน 5 ข้อ ได้แก่ การเริ่มต้นแก้ปัญหาจาก Pain Point ของธุรกิจ, การสร้างและพัฒนาให้เกิด AI Engineer ที่ใช้งานได้จริง, การปลดล็อกการใช้ข้อมูล, การร่วมลงทุนของภาครัฐ และการที่ CEO ต้องเป็นผู้นำในการทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วย AI โดยตรง
4. ปัญญาสร้างโลก: AI กับภารกิจเพื่อความยั่งยืน
ปิดท้ายสัปดาห์ด้วยกิจกรรมที่เชื่อมโยงเทคโนโลยีเข้ากับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในหัวข้อ "AI Beyond Earth: ปัญญาประดิษฐ์กับภารกิจการสร้างโลกที่ยั่งยืน” ณ อุทยานการเรียนรู้ ทีเค พาร์ค งานนี้ได้นำเสนออีกแง่มุมที่สำคัญของ AI ในฐานะเครื่องมืออันทรงพลังในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสร้างเศรษฐกิจสีเขียว มีการจัดแสดงงานวิจัยและเทคโนโลยี AI ที่ช่วยในการฟื้นฟูโลก เช่น การจัดการพลังงาน การลดขยะ และการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ สร้างแรงบันดาลใจให้เห็นว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือทางธุรกิจ แต่ยังเป็นความหวังในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นต่อไป
"ความสำเร็จของงาน Bangkok AI Week 2025 และทิศทางที่ชัดเจนจากทุกเวที ถือเป็นก้าวที่ช่วยยืนยันบทบาทของไทยในการเป็นแลนด์มาร์คด้าน AI ของภูมิภาค จากนี้ไป กระทรวงดีอีและ ETDA พร้อมเดินหน้าผลักดันยุทธศาสตร์ที่ได้ตกผลึกจากงานในครั้งนี้อย่างเต็มกำลัง โดยภาครัฐจะเปลี่ยนบทบาทจาก ‘ผู้สร้าง’ มาเป็น ‘ผู้สนับสนุน’ (Enabler) ที่แข็งแกร่ง ทำหน้าที่สร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวย ปลดล็อกกฎระเบียบ และส่งเสริมให้ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาสามารถพัฒนาโมเดลเฉพาะทางและแอปพลิเคชันได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของธรรมาภิบาลและประโยชน์ของคนไทยทุกคน" ปลัดกระทรวงดีอี กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามความก้าวหน้าเมื่อประเทศไทยกำลังผลักดันสิ่งที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านการจัดตั้งศูนย์ AIGPC (AI Governance Practice Center) แห่งแรกในระดับภูมิภาคร่วมกับทาง UNESCO รวมถึง ข้อมูลงาน Bangkok AI Week 2025 เพิ่มเติม และชมคลิปย้อนหลังได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand (https://www.facebook.com/ETDA.Thailand)