Biz news

V-ZUG รังสรรค์อนาคตด้วยหัวใจแห่ง ความยั่งยืนในทุกรายละเอียด



กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 – V-ZUG (เฟา-ซูก) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ชั้นนำ จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เดินหน้ายกระดับมาตรฐานแห่งนวัตกรรม ควบคู่กับการตั้งมั่นในพันธกิจด้านความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม  V-ZUG ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับกระบวนการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ และคำนึงถึงเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ พร้อมเดินหน้าสร้างนิยามมาตรฐานระดับโลกใหม่ให้กับวิถีชีวิตยุคใหม่ที่ใส่ใจโลกครบทุกมิติ

แองเจลีน ยับ กรรมการผู้จัดการ V-ZUG ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “สำหรับ V-ZUG แล้ว ความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญที่ถักทออยู่ในทุกอณูของเรา ทั้งการออกแบบ กระบวนการผลิตตามแบบฉบับสวิส ไปจนถึงแนวทางการรักษาสิ่งแวดล้อม เราลงทุนเพื่อเป้าหมายระยะยาว ดำเนินกิจการอย่างโปร่งใส และมีวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้างอนาคตเพื่อฟื้นฟู คืนสมดุลและสร้างผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมในระยะยาวผ่านโครงการริเริ่มต่าง ๆ เช่น โครงการ V-Forest เพื่อการฟื้นฟูผืนป่า การจัดตั้งกองทุนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในองค์กร การออกแบบเชิงหมุนเวียน การนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ เป็นต้น โดย V-ZUG กำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า ความหรูหราและความยั่งยืนไม่ใช่สิ่งตรงข้าม แต่เป็นสิ่งที่เกื้อกูลและเสริมคุณค่าซึ่งกันและกัน ดังนั้น V-ZUG จึงไม่ได้คำนึงเพียงการลดผลกระทบต่อโลก แต่ยังตระหนักถึงการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนเพื่อโลก ผู้คน และชนรุ่นต่อไปในอนาคต”

แองเจลีน ยับ กรรมการผู้จัดการ V-ZUG ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตั้งแต่การออกแบบที่เปี่ยมด้วยสุนทรียะ ไปจนถึงกระบวนการผลิต ความยั่งยืนคือรากฐานสำคัญที่ฝังอยู่ในดีเอ็นเอของ V-ZUG อย่างลึกซึ้ง สำนักงานใหญ่ของ V-ZUG ณ เมืองซุก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของโรงงาน Zephyr East ที่ออกแบบในแนวตั้งเพื่อลดการใช้พื้นที่ มีการลงทุนกว่า 300 ล้านฟรังก์สวิส (ประมาณ 12,000 ล้านบาท) ในการพัฒนาโรงงานผลิตอย่างยั่งยืน โรงงานผลิตทุกแห่งของ V-ZUG ในสวิตเซอร์แลนด์ดำเนินงานด้วยพลังงานหมุนเวียน 100% ไม่ว่าจะเป็นพลังน้ำหรือพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมระบบจัดการวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ถึง 80% เหลือเพียงเศษวัสดุเล็กน้อยที่ถูกส่งไปฝังกลบ แนวปฏิบัติที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ ได้รับการสนับสนุนโดยกองทุนคาร์บอนไดออกไซด์ภายในองค์กร ที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซอย่างเคร่งครัด ส่งผลให้ V-ZUG สามารถบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563

  

Zephyr East โรงงานผลิตหลักของ V-ZUG เป็นหนึ่งในอาคารเพื่อความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ โดดเด่นด้วยการใช้คอนกรีตรีไซเคิลผสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และฝ้าเพดานที่ออกแบบให้ลดการใช้วัสดุ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียน 100% จากพลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ และแผงโซลาร์บนหลังคา

V-ZUG ตั้งเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ อย่างชัดเจนและโปร่งใส โดยภายในปี พ.ศ. 2573 บริษัทจะลดการปล่อยคาร์บอนในกลุ่ม Scope 1 และ Scope 2 ลง 80% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2563 ตามแนวทางของ Greenhouse Gas Protocol (GHGP) ความมุ่งมั่นนี้ขับเคลื่อนผ่านการลงทุนในพลังงานสะอาด การพัฒนาอาคารที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการเปลี่ยนยานพาหนะทั้งหมดในองค์กรเป็นระบบไฟฟ้า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นมา V-ZUG ได้จัดเก็บภาษีคาร์บอนภายในองค์กรที่อัตรา 120 ฟรังก์สวิส (ประมาณ 5,000 บาท) ต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หนึ่งตัน เพื่อนำไปสนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อมที่ยังไม่สามารถขยายในเชิงพาณิชย์ได้ในขณะนี้

นอกจากนี้ V-ZUG ยังได้จัดตั้งโครงการ V-Forest ในประเทศสกอตแลนด์ เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยมุ่งเน้นการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพและการดูดซับคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศ ซึ่งปัจจุบันได้ปลูกต้นไม้ไปแล้วเกือบหนึ่งล้านต้น ขณะเดียวกัน V-ZUG ยังตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกลุ่ม Scope 3 ลง 30% ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าภายในปี พ.ศ. 2573 โดยเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศทั้งหมดของ V-ZUG ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (Science-Based Targets) และส่งข้อมูลรับรองภายใต้โครงการ Science Based Targets initiative (SBTi)

V-Forest โดย V-ZUG เป็นโครงการฟื้นฟูธรรมชาติระยะยาวที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ โดยปลูกไม้ท้องถิ่นหลากหลายชนิด เช่น เบิร์ช ไพน์ โอ๊ค และพืชพันธุ์พื้นเมืองอื่น ๆ

V-ZUG แสดงความมุ่งมั่นต่อความรับผิดชอบและความโปร่งใส โดยมีการรายงานความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศตามกรอบ TCFD (Task Force on Climate-related Financial Disclosures) พร้อมประเมินประเด็นสาระสำคัญอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในปี พ.ศ. 2567 บริษัทได้ดำเนินการวิเคราะห์ตามมาตรฐาน ESRS (European Sustainability Reporting Standards) ซึ่งระบุ 15 ประเด็นหลัก ได้แก่ นวัตกรรมประหยัดพลังงาน การออกแบบสินค้าแบบหมุนเวียน ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ที่ช่วยตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านความยั่งยืนของ V-ZUG ทั้งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์และตลาดใหม่อย่างประเทศไทย

ภายใต้แนวคิด Design to Circularity ที่ V-ZUG ใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สามารถซ่อมแซม ใช้ซ้ำ และรีไซเคิลได้ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยืดอายุการใช้งาน โดย V-ZUG ได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันอย่าง Outokumpu ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำ ในการนำสเตนเลส Circle Green® ที่มีส่วนผสมรีไซเคิลสูงถึง 95% และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 90% เมื่อเทียบกับมาตรฐานอุตสาหกรรม มาใช้ในผลิตภัณฑ์ เช่น เครื่องล้างจาน AdoraDish เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

เครื่องล้างจาน AdoraDish ใช้สเตนเลส Circle Green® จาก Outokumpu ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลสูงถึง 95% และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 0.5 กก. CO2ต่อกิโลกรัม ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมทั่วโลก

ความยั่งยืนของ V-ZUG ไม่ได้จำกัดเพียงแค่การใช้งานเท่านั้น แต่มาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์ เช่น Adora Table โต๊ะที่ผลิตจากถังซักผ้ารุ่นเก่า ซึ่งได้รับการแปลงโฉมใหม่เป็นงานดีไซน์ที่โดดเด่น สะท้อนให้เห็นว่าการออกแบบ การใช้งาน และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สามารถผนวกรวมกันได้อย่างกลมกลืน

Adora Table: การดีไซน์แบบสวิสผสานแนวคิดสินค้าหมุนเวียน สร้างสรรค์ขึ้นจากชิ้นส่วนเครื่องซักผ้า V-ZUG ที่นำกลับมาใช้ใหม่

เพื่อเสริมสร้างคุณค่าและความพึงพอใจแก่ลูกค้าในระยะยาว ลูกค้ารายย่อยจะได้รับการรับประกันผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า V-ZUG เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยมีอะไหล่สำรองเก็บไว้ให้ถึง 15 ปีหลังสินค้าได้ยุติการผลิตและการจำหน่าย โดยได้รับการสนับสนุนจากทีมช่างผู้เชี่ยวชาญภายในองค์กร เน้นย้ำเรื่องการสร้างความทนทาน และส่งเสริมการซ่อมแซมแทนการเปลี่ยนใหม่

“ในขณะที่ความยั่งยืนกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย V-ZUG ได้กำหนดนิยามใหม่ของความหรูหรา ซึ่งผสานกันอย่างลงตัวระหว่างการออกแบบที่ประณีต นวัตกรรมล้ำสมัย และความยั่งยืนในทุกมิติ เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบไลฟ์สไตล์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่ามาสู่ตลาดประเทศไทยอย่างจริงจัง” แองเจลีนกล่าวทิ้งท้าย

ด้วยรากฐานแห่งความแม่นยำแบบสวิสและความเป็นผู้นำด้านความรับผิดชอบต่อสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม V-ZUG ได้แสดงให้เห็นว่านวัตกรรมและความยั่งยืนสามารถหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อยกระดับความหรูหราที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบควบคู่การสร้างสรรค์เพื่อความคงทนในระยะยาว