In Thailand
สภาวธ.ขอนแก่นร่วมกับสภาวธ.ศรีสะเกษ และพันธมิตรมอบสิ่งของทหารชายแดน

ศรีสะเกษ-สภาวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ และคณะกรรมการสหพันธ์สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน รวมธารน้ำใจมอบสิ่งของทหารชายแดนศรีสะเกษ
วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.30 น. ณ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 224 ตำบลเมือง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จ่าเอกสมควร สิงห์คำ นายอำเภอกันทรลักษ์ พร้อมด้วยนางนุชรีย์ สิงห์คำ นายกกิ่งกาชาดอำเภอกันทรลักษ์ และนางมลวิภา โบจรัส ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอกันทรลักษ์ ที่ได้รับมอบหมายจาก นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ให้การต้อนรับคณะกรรมการสหพันธ์สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน โดยมี สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน (ส.อ.ร.ด.) จังหวัดขอนแก่น จังหวัดเลย และจังหวัดนครราชสีมา อำนาจเจริญ เครือข่ายสภาวัฒนธรรมตะวันออกเฉียงเหนือ และเครือข่ายสภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ที่เดินทางมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค แด่เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
ในโอกาสนี้ ดร. สมยงค์ แก้วสุพรรณ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวถึงการเดินทางครั้งนี้ว่า เป็นตัวแทนชาวจังหวัดขอนแก่น และเครือข่ายสภาวัฒนธรรมตะวันออกเฉียงเหนือ และเครือข่ายสภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นจากทั้งคณะพระสงฆ์และประชาชน เพื่อมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตระเวนชายแดนที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนที่มีสภาพการทำงานที่ยากลำบาก โดยเฉพาะท่ามกลางป่าเขาและพื้นที่ที่ไม่มีความสะดวกสบาย ซึ่งการมอบสิ่งของครั้งนี้ถือเป็นการส่งต่อความห่วงใยจากแนวหลัง ถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ต้องเสียสละเพื่อประเทศชาติ
ขณะเดียวกัน นางวิรัชดา อินทรแพทย์ นายกสมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดน (ส.อ.ร.ด.) จังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวว่า การส่งมอบสิ่งของในครั้งนี้ เป็นการแสดงความห่วงใยและให้กำลังใจแก่ทหาร และตำรวจตระเวนชายแดนที่ทำงานในแนวหน้า ซึ่งเป็นผู้ดูแลความมั่นคงของประเทศ ขณะที่ประชาชนในแนวหลังจะมีหน้าที่ในการสนับสนุนให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างราบรื่น โดยการส่งมอบสิ่งของจำเป็นนี้ถือเป็นการแสดงความร่วมมือในการทำหน้าที่ของทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ รวมถึงเป็นการสนับสนุนการทำงานที่สำคัญในการปกป้องชายแดนของชาติ
ลักขณา กงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน